ReadyPlanet.com
dot dot
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เร่งปรับปรุงกฎหมายปิโตรเลียมใหม่ article

                นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยกับว่า ขณะนี้กรมฯอยู่ระหว่างเร่งพิจารณารายละเอียดปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีของการต่ออายุสัมปทานการผลิตปิโตรเลียมของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ในอ่าวไทยที่ผลิตก๊าซธรรมชาติอยู่ประมาณ 1.2 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและน้ำมันดิบประมาณ 4 หมื่นบาร์เรลต่อวัน จะหมดอายุลงในอีก 8 ปีข้างหน้าหรือช่วงปี 2565 ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ว่าจะไม่สามารถต่ออายุสัมปทานได้อีก ทำให้ต้องมาพิจารณาว่า เมื่อหมดอายุสัมปทานแล้วจะมีการต่ออายุสัมปทานให้อีกหรือไม่ หรือจะต้องดำเนินการเปิดประมูลใหม่ ซึ่งจะต้องมีการศึกษาในรายละเอียดถึงผลดีและผลเสียที่เกิดขึ้นด้วย

                ทั้งนี้ การปรับปรุง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมดังกล่าวจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จหรือเห็นภาพชัดเจนภายใน 1-2 ปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีระยะเวลาเตรียมตัว ซึ่งจากประสบการณ์ของต่างประเทศได้มีการประกาศล่วงหน้าไว้ถึง 5 ปี ก่อนที่อายุสัมปทานจะหมดลง เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและมีระยะเวลาเตรียมตัวที่จะตัดสินใจลงทุนผลิตปิโตรเลียมหรือไม่ หากไม่มีความชัดเจนในข้อกฎหมายเกิดขึ้น จะส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่มีเวลาเตรียมตัวพอและอาจจะถอนการลงทุนออกไปได้

                โดยเห็นได้ชัดอย่างกรณีของบริษัท เชฟรอน ที่ตัดสินใจลงทุนก่อสร้างท่าเรือและศูนย์สนับสนุนการปฏิบัติงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทย ที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อ 5-6 ปีก่อน ซึ่งได้ทำรายงานศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพหรืออีเอชไอเอ อย่างต่อเนื่อง มีการพบปะพูดคุยกับชาวบ้านและผู้มีส่วนได้เสียที่อยู่ในพื้นที่และชุมชนใกล้เคียงในโครงการ ซึ่งครอบคลุมทุกสาขาอาชีพ ไม่ต่ำกว่า  2,000 ครั้ง  มีประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 70,000 คน ทั้งในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรตามที่กฎหมายกำหนดและพื้นที่นอกเขต 5 กิโลเมตร ผ่านกฎหมายทุกขั้นตอน จนกระทั่งได้รับการยอมรับจากประชาชน นำไปสู่การได้รับความเห็นชอบด้านอีไอเอของโครงการ

                นายทรงภพ กล่าวอีกว่า แม้การทำอีเอชไอเอจะผ่านความเห็นชอบแล้วก็ตาม แต่มีระยะเวลานานถึง 5 ปี จึงทำให้เชฟรอนประกาศยุติโครงการดังกล่าวเมื่อปี 2555 ด้วยเหตุผลความไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากอายุสัมปทานของแหล่งปิโตรเลียมในอ่าวไทยเหลือไม่ถึง 10 ปี และหากลงทุนไปแล้วก็ยังไม่ทราบว่าจะได้ต่ออายุสัมปทานอีกหรือไม่ ทำให้เชฟรอนต้องถอนโครงการออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนท่าศาลา

                ทั้งนี้ สิ่งที่กังวลขณะนี้หากข้อกฎหมายยังไม่มีความชัดเจน และเชฟรอนถอนการผลิตก๊าซฯจากอ่าวไทยออกไป จะส่งผลให้ปริมาณก๊าซหายไปจากระบบประมาณ 1.2 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หรือครึ่งหนึ่งของกำลังผลิตที่ผลิตได้ ผลที่ตามมาจะทำให้ประเทศต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมากเพื่อมาทดแทน ซึ่งมีราคาสูงกว่า 2-3 เท่า จะทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในราคาที่สูงขึ้นตาม และประเทศจะมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงพลังงานเกิดขึ้นสูงตามมาด้วย

.............................................................

 




สกู๊ปพิเศษ

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติร่วมกับเชฟรอนและบริษัทร่วมทุนมอบรถพยาบาลฉุกเฉินเคลื่อนที่ในจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี
“สนธิรัตน์” ตรวจเยี่ยมแหล่งเอราวัณ จ่อ เปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมรอบใหม่
เปิดตัว “เซปเตอร์” เตรียมการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมในอ่าวไทย ด้วยมาตรฐานโลก
ย้อนความทรงจำงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางอ่าวไทย กับช่างเทคนิคปิโตรเลียมรุ่นแรก
ประมูล4จี′ส่อแววไม่ทันสิงหาฯ เหตุไอทียูไร้ประสบการณ์ประเมินคลื่น ขอคืนความถี่′อสมท′ยาก
‘ล้มสัมปทาน’ รอบ21 แช่แข็งประเทศ ก่อวิกฤติใหญ่พลังงาน
เลือกตั้งเป็นโมฆะ ทางออกหรือทางตัน
เชฟรอนมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชนท่าศาลา สานต่อโครงการสนับสนุนพยาบาลวิชาชีพและผู้ช่วยพยาบาล เพื่อบุคลากรทางการแพทย์ที่เพียงพอ article



dot
dot
bulletจังหวัดนครศรีธรรมราช
bulletตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
bulletม.วลัยลักษณ์
bulletม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช
bulletพยากรณ์อากาศ
dot
dot
bulletห้องสมุดดิจิตอล
bulletค้นหาหมายเลขโทรศัพท์
bulletตรวจล็อตตารี่
dot

dot
bulletฟัง FM 87.60MHzคลื่นความคิด คิดดี ทำดี ที่นี่เมืองนคร


มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา


สำนักข่าวนครโพสต์ เลขที่ 5/1 ซ.อัศวรักษ์ 1 ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 80000 โทร.075-320227 โทรสาร 075-320716 อีเมลล์ : nakhonpost@hotmail.com