
(2 ก.ค.) สนามหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมาน แสงสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “นครปลอดภัย ทุกวัน ทุกวัย สวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์” โดยมี พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ดร.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เจ้าของโมเดลและผู้รับผิดชอบโครงการ “ นคร ปลอดภัยสวมหมวกนิรภัย 100%” นางเกสร ธานีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียนและประชาชนทั่วไปร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
โดยนางเกสร ธานีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการรณรงค์สวมหมวกนิรภัยตามโครงการ “นครปลอดภัย ทุกวัน ทุกวัยสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์” ซึ่งสำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความตระหนัก เห็นความสำคัญของโครงการนครปลอดภัยทุกวันทุกวัยสวมหมวกนิรภัย จึงร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์สู่การปฏิบัติตามแนวทางในโครงการดังกล่าวพร้อมกันทุกสถานศึกษาทั้ง 23 อำเภอ
“ทั้งนี้เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกฎจราจรการขับขี่อย่างปลอดภัยให้กับบุคคล กศน.นักศึกษาและประชาชน เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้นและลดระดับความสูญเสียจากอุบัติเหตุให้น้อยลง”

พ.ต.อ.ดร.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดใหญ่มีประชากรมากที่สุดในภาคใต้ ทำให้ในตัวเมืองใหญ่ ๆ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้ในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งเช้าและเย็นจะประสบปัญหาด้านการจราจรรถติดในถนนเกือบทุกสายและมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ที่น่าตกใจคือเกิดอุบัติเกิดอุบัติเหตุในการใช้รถใช้ถนนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ในดับอันต้น ๆ ของประเทศเฉลี่ยเดือนละ 40 รายมากกว่าคดีฆ่ากันตายถึง 3-4 เท่า ทั้งนี้ในปัจจุบันเกิดเหตุฆ่ากันตายเฉลี่ยเพียงเดือนละ 10 กว่ารายเท่านั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา
“เมื่อเกิดปัญหาด้านการจราจรหน่วยงานแรกที่จะถูกตำหนิคือตำรวจ ทั้ง ๆ ที่ต้นตอของปัญหาไม่ได้เกิดมาจากความหย่อยยานในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามตำรวจต้องทำงานในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรอย่างหนัก เพื่อลดความสูญเสียในชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินตนจึงมีแนวนโยบาย“นคร ปลอดภัยสวมหมวกนิรภัย 100%” ทั้งนี้จะดำเนินการควบคู่ไปกับการกวดขันวินัยจราจร เพราะแม้ทุกคนจะสวมหมวกนิรภัยแต่ในการขับขี่ยวดยานพาหนะไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรอุบัติเหตุก็ยังเกิดขึ้นและนำไปสู่ความสูญเสียชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินอยู่ ซึ่งการดำเนินการในขณะนี้ ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา บริษัท ห้างร้าน ทั่วทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจหรือ M0U.ในการร่วมรณรงค์ให้ผู้ขับขี่และซ่อนท้ายรถ จยย.ต้องสวมหมวกนิรภัย 100 % รวมทั้งปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด”

รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่าในช่วง 4 แรกจะใช้มาตรการในการว่ากล่าวตักเตือนเป็นหลัก หลังจากนั้นอีก 4 เดือนจะจับกุมผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยพร้อมนำเข้าคอสอบรมด้านวินัยจราจร และอีก 4 เดือนถัดไปจึงจะกวดขันจับกุมทั้งผู้ขับและคนนั่งซ้อนท้าย ผู้ที่ถูกจับกุมนอกจากจะต้องจ่ายเงินค่าปรับแล้วจะต้องเข้าคอสอบรมด้านวินัยการจราจร หากฝ่าฝืนไม่เข้าคอสฝึกอบรมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งรายชื่อและประวัติไปยังสำนักงานขนส่งทำให้บุคคลดังกล่าวไม่สามารถยื่นขอและต่อใบอนุญาตขับขี่ได้ จึงขอให้ผู้ใช้รถใช้ติดตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดซึ่งเป็นการรักษาชีวิตของตัวเองและผู้อื่นด้วย พ.ต.อ.ดร.วันไชย กล่าวย้ำในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
2 ก.ค. 2558