เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับสถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในโครงการพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเพื่อสหกรณ์กองทุนสวนยาง (ระยะที่ 2) จัดพิธีส่งมอบและเปิดศูนย์การเรียนรู้พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรับสหกรณ์ผลิตยางรมควัน ณ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านทรายขาว จำกัด ต.ทุ่งหวัง อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและความรู้เกี่ยวกับการผลิตยางรมควันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงานแก่ชุมชน
นายอาทิตย์ กริชพิพรรธ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายสนับสนุนธุรกิจ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “เชฟรอนฯ สนับสนุนโครงการพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเพื่อสหกรณ์สวนยาง มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 โดยร่วมกับสถาบันวิจัยระบบพลังงาน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีเป้าหมายเพื่อสร้างต้นแบบกระบวนการผลิตยางรมควันที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงานและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพของผลิต ตลอดจนจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ในสหกรณ์กองทุนสวนยาง เพื่อให้เกษตรกรเกิดความตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สหกรณ์กองทุนสวนยางอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยทำงานร่วมกับสหกรณ์ฯ 29 แห่งในภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี”
รศ.ดร.สุเมธ ไชยประพัทธ์ ผู้อำนวยการโครงการพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนเพื่อสหกรณ์กองทุนสวนยาง (ระยะที่ 2) เปิดเผยว่า “โครงการฯ ได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ขึ้นที่สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านทรายขาว เป็นแห่งแรก โดยได้ติดตั้งเทคโนโลยีต้นแบบในการผลิตยางรมควันที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระบบบ่อหมักร่วมผลิตก๊าซชีวภาพ และห้องรมควันประสิทธิภาพสูง ช่วยลดปริมาณการใช้ไม้ฟืนและลดระยะเวลาการคมควัน ช่วยลดต้นทุนในการผลิตยางแผ่นรมควัน เพื่อให้เกษตรกรได้เรียนรู้และเกิดความตระหนักในคุณค่าของการการรักษาสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์พลังงาน ช่วยสร้างความเข้มแข็งและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างชุมชนกับสหกรณ์ฯ ในการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นร่วมกันอย่างยั่งยืน”
ดร.รชา เดชชาญชัยวงศ์ อาจารย์ประจำสาขาเคมีประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า “โรงรมยางที่ดำเนินการในปัจจุบัน จะมีท่อทางเข้าอากาศร้อน 12 ท่อ ทำให้การกระจายความร้อนในห้องรมยางไม่สม่ำเสมอ แผ่นยางสุกไม่พร้อมกัน ทำให้ต้องใช้ไม้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงมาก ต้นทุนจึงสูง เราจึงเพิ่มประสิทธิภาพของโรงรมยางโดยติดตั้งพัดลมและก๊าซชีวภาพ ซึ่งช่วยให้การกระจายความร้อนทั่วถึงเพื่อให้แผ่นยางสุกพร้อมกัน และใช้เวลารมยางเพียง 36 ชั่วโมง จากเดิม 72 ชั่วโมง จึงประหยัดเชื้อเพลิงได้ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังช่วยลดเขม่าควัน จึงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลงอีกด้วย”
“ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ นับเป็นตัวอย่างเชิงประจักษ์ของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการทำงานเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ตามแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางสามารถประหยัดต้นทุนและมีรายรับเพิ่มมากขึ้น” นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเสริม
“ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เป็นสิ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเชฟรอนในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานให้กับประเทศ ตลอดระยะเวลา 55 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราเชื่อว่าสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านทรายขาวจะเป็นต้นแบบให้กับสหกรณ์ฯ แห่งอื่น ๆ ในภาคใต้ ในการพัฒนากระบวนการผลิตยางแผ่นรมควันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน” นายอาทิตย์ กล่าวทิ้งท้าย