วันนี้(19 มี.ค.60) ที่ห้องประชุมศรีวิชัย ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่สอง พร้อมด้วยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ผู้แทนคณะกรรมาธิการสามัญคณะต่างๆ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผู้แทนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และผู้แทนจากสำนักนายกรัฐมนตรี ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมหารือกับส่วนราชการต่างๆ ในระดับจังหวัด โดยมีนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงาน องค์กรท้องถิ่น ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ทั้งนี้ในการหารือทาง สนช.และคณะ ให้ความสนใจในประเด็นปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ อาทิ การบริหารจัดการปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการขยะ และประเด็นการก่อสร้างสะพาน ในพื้นที่อำเภอนบพิตำ สำหรับประเด็นการบริหารจัดการปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อประชาชน ในพื้นที่ 6 อำเภอ รวม 25 ตำบล ที่มีพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ที่ปัจจุบันมีพื้นที่แนวชายฝั่งถูกกัดเซาะไปแล้วกว่า 4,100 ไร่ ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้แสวงหาความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผ่านโครงการกำแพงหินทิ้ง ,โครงการเขื่อนกันคลื่นนอกชายฝั่ง และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน ,การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งทางจังหวัด ได้นำเสนอแนวทางการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และการขาดแคลนน้ำในฤดูร้อน โดยสานต่อโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อสร้างการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ,การบริหารจัดการปัญหาขยะ โดยกำหนดแผนการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการ “ประเทศไทยไร้ขยะ” ตามแนวทาง “ประชารัฐ” ระยะ 1 ปี เพื่อลดปริมาณขยะมูลฝอยที่เข้าสู่ระบบ การกำจัดที่ปลายทางเป้าหมาย การจัดตั้งจุดรวบรวมขยะอันตราย อย่างน้อย หมู่บ้าน/ชุมชนละ 1 แห่ง รวม 1,552 หมู่บ้าน 363 ชุมชน สร้างหมู่บ้าน/ชุมชนต้นแบบการบริหารจัดการขยะมูลฝอย รณรงค์การลดใช้ถุงพลาสติกและโฟม พร้อมทั้งเร่งแก้ไขปัญหาบ่อขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ใน 2 ระยะ คือ ในระยะเร่งด่วน โดยมุ่งลดความสูงของกองขยะ โดยเกลี่ยลงในบ่อที่ยังว่าง พร้อมฉีดน้ำยาจุลินทรีย์ E.M. วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อดับกลิ่น ลดปัญหาแมลงวันและสัตว์นำโรคอื่น ๆ มีการเสริมคันดินที่มีอยู่ให้หนาและสูงขึ้น เพื่อป้องกันน้ำเสียจากบ่อขยะ รั่วไหลออกสู่ภายนอก และติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อติดตามตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ่อขยะและแพร่ภาพไปยังจอ LED ที่ติดตั้งในเขตเทศบาลนคร เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ ติดตาม ส่วนในระยะยาว จะมีโครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอย โดยแปลงขยะเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน (RDF) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมใน 3 ประเด็น คือ ประเด็นเอกสารสิทธิ์พื้นที่ดำเนินการ ประเด็นการจัดการขยะที่เหลือจากกระบวนการทำ RDF และประเด็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และในประเด็นการบริหารจัดการปัญหาการก่อสร้างสะพาน อำเภอนบพิตำ ซึ่งเป็นสะพานข้ามคลองกลาย พื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลกรุงชิง เป็นสะพานข้ามคลองในหมู่บ้าน ที่มีความสำคัญในการสัญจรและลำเลียงปัจจัยการผลิต รวมทั้งผลผลิตด้านการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและเสียหายซ้ำซากในช่วงฤดูฝน โดยทางจังหวัดได้เสนอขอรับการสนับสนุนการก่อสร้างสะพานใหม่ ขนาดความยาว 100 เมตร ผิวจราจรกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร เพื่อแก้ปัญหาน้ำกัดเซาะระยะยาว และในส่วนของการก่อสร้างสะพานข้ามคลองแซะ พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลกรุงชิง ที่ขณะนี้ยังคงใช้สะพานแบรี่ย์เพื่อสัญจรเป็นการชั่วคราว และอยู่ระหว่างการรอพิจารณาจัดสรรงบประมาณของกรมทางหลวง วงเงิน 39 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างสะพานใหม่ทดแทน
อุไรวรรณ/ข่าว/ภาพ
พรรณี/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
19 มีนาคม 2560