(10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่จังหวัดนครศรีธรรมราชประสบอุทกภัยอย่างหนักในรอบ 30-40 ปีและในขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการบูรณะฟื้นฟูช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตามในช่วงตั้งแต่วันที่ 7ก.พ.2560 ที่ผ่านมาได้มีชาวพุทธจากทั่วโลกแห่เดินทางมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมกิจกรรมประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ในวัน “มาฆบูชา”วันที่ 11 ก.พ. 2560 โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำหนดจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การประกอบพิธีกวนข้าวมธุปายาส การสมโภชผ้าพระบฎ ในระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2560 ณ สวนศรีธรรมโศกราชและวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช และบริเวณศาลาประชาสันต์ เทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ก.พ.) ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร วัดศาลามีชัย และสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีกวนข้าวมธุปายาสหรือข้าวยาคู ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งในงานประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” มีหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน นักเรียนนักศึกษา และพุทธศาสนิกชนที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก โดยใช้เวลาในการกวนประมาณ 8-10 ชั่วโมง ซึ่งข้าวยาคูที่กวนเสร็จแล้วถือว่าเป็ฯข้าวหรือขนมศักดิ์สิทธิ์ จะนำไปถวายพระภิกษุ และแจกจ่ายให้แก่พุทธศาสนิกชนและเป็นของขวัญของฝากญาติมิตรได้รับประทานเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตต่อไป
ในคืนวันเดียวกันที่ศาลาประชาสันต์ เทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานในพิธีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน จำนวน 5 ผืน คือผ้าพระบฏพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนชาวอำเภอปากพนังเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก
สำหรับ “ผ้าพระบฏ” หมายถึง ผ้าที่มีภาพวาดหรือถักทอลวดลายและรูปเกี่ยวกับพุทธ ที่พุทธศาสนิกชนจัดทำขึ้นเพื่อใช้บูชาแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปูชนียสถานหรือเจดีย์มาตั้งแต่โบราณกาล มีการจัดทำกันโดยทั่วไปทั้งในประเทศศรีลังกา เนปาล ทิเบต จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รวมทั้งทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศพม่าและประเทศไทย แต่ที่ยึดถือปฏิบัติสืบทอดต่อเนื่องกันมานับพันปีมีเพียงจังหวัดนครศรีธรรมราชเพียงแห่เดียวเท่านั้น
“ผ้าพระบฏ”ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏเป็นหลักฐานชัดเจนเมื่อราว 787 ปีที่ผ่านมา คือเมื่อครั้งที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรนครศรีธรรมราช กำลังเตรียมการประกอบพิธีสมโภชองคำพระบรมธาตุเจดีย์ นครศรีธรรมราช ชาวปากพนัง ได้นำความกราบทูล ฯว่า ชาวเมืองอินทปัตย์ กว่า 100 คน ได้ล่องเรือสำเภานำผ้าพระบฎไปบูชาพระพุทธองค์ที่เมืองลังกา แต่เกิดมรสุมพัดถล่มจนเรือแตกชาวเมืองอินทปัตย์เสียชีวิตประมาณ 10 คน พร้อมผ้าสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์ โดยนำผ้าพระบฎดังกล่าวขึ้นโอบห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์เมื่อปี พ.ศ. 1773 จนมีการสืบทอดการนับเป็นการนำผ้าพระบฎขึ้นโอบห่มพระบรมธาตุเจดีย์ จึงกลายเป็นประเพณี“แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ซึ่งเป็นประเพณีที่สำคัญคู่เมืองนครศรีธรรมราช มาจนถึงปัจจุบันเป็นปี 787”
“ผ้าพระบฏ”จึงกลายเป็นหัวใจของประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ”จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วประเทศในเวลานี้ ซึ่งแต่เดิมจัดขึ้นในวันวิสาขบูชา แต่เนื่องจากในช่วงวันวิสาขบูชาอยู่ในช่วงหน้าฝนทำเป็นอุปสรรคของประชาชนในการเดินทางมาร่วมพิธี ในปัจจุบันจึงเปลี่ยนมาจัดประเพณี “แห่ผ้าขึ้นาตุ”ในวัน”มาฆบูชา”เป็นหลัก เรียกว่า “มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” แต่ในวันวิสาขบูชาก็ยังมีการประกอบพิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุเช่นกัน โดยหลังจากชาวปากพนังประกอบพิธีสมโภชผ้าพระบฏพระราชทาน 5 ผืนแล้วจะจัดริ้วขบวนแห่ผ้าพระบฎมามอบให้จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อจัดริ้วขบวน “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” อย่างยิ่งใหญ่ความยาวกว่า 2 กม. ไปยังวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหารในเวลา 15.30 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งตรงกับวัน “มาฆบูชา” ก่อนประกอบพิธีถวายผ้าพระบฎเป็นพุทธบูชาและให้ตัวแทนนำขึ้นโอบห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จากนั้นพุทธศาสนิกชนนับแสนคนจะร่วมประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาตามลำดับ สำหรับประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” เชื่อว่าเป็นการร่วมทำบุญในทางพระพุทธศาสนาที่ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้าพระศาสดาแห่งพุทธศาสนามากที่สุด ในแต่ละปีจึงมีชาวพุทธจากทั่วโลกนับแสนคนแห่เดินทางมาร่วมกิจกรรมและถือโอกาสท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปคึกคักเป็นพิเศษ และคาดว่าเงินสะพัดในช่วงดังกล่าวนับร้อยล้านบาท.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
10 ก.พ. 2560