นายชยสาร โทณานนท์ กล่าวรายงานว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบด้านการเตือนภัยพิบัติ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง ด้วยความถูกต้องและแม่นยำ เพื่อเป็นการรองรับและลดความเสี่ยงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น ใช้ระยะเวลา 2 วัน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการให้ความรู้ และการสร้างเครือข่ายด้านการเตือนภัยพิบัติให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย องค์กรต่าง ๆ มูลนิธิ เครือข่าย และจิตอาสา ให้มีความเข้มแข็งและเพิ่มศักยภาพการเฝ้าระวังและเตือนภัยชุมชนที่จะเกิดภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความพร้อมที่จะเผชิญกับภัยพิบัติ สามารถลดความเสี่ยงและความสูญเสียจากภัยพิบัติได้
“สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วยการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับบทบาทของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือดำเนินการเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น การแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ เป็นต้น โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเตือนภัยจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อาทิ พลเรือเอกเกาะหลัก เจริญรุกข์ พลอากาศเอก สมนึก สวัสดิ์ถึก พลเรือตรีถาวร เจริญดี เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้แทนจากกรมอุตุนิยมวิทยา หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้แทนสำนักงานชลประทานที่ 15 ผู้แทนกรมทรัพยากรธรณี อดีตรองอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ร่วมบรรยายให้ความรู้อย่างเต็มที่
ทางด้านนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช เพิ่งเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่ผ่านมา มีพื้นที่ประสบอุทกภัยกว่า 2 ล้านไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 6 ล้านไร่ มีผู้ประสบภัยกว่า 8 แสนคน มีผู้เสียชีวิต 29 ราย ซึ่งรัฐบาลได้ยกระดับอุทกภัยภาคใต้ในครั้งนี้ เป็นภัยพิบัติระดับ 3 ซึ่งเกินกว่าความสามารถของจังหวัดในการแก้ไขปัญหา แต่เป็นระดับกระทรวง มีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดังนั้น การจัดโครงการสร้างเครือข่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติภาคประชาชน ในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยจะได้พบปะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรับมือสถานการณ์อันวิกฤติหรือมุมมอง ข้อเสนอแนะด้านความต้องการความช่วยเหลือของภาครัฐต่อประชาชน ให้มีการปรับปรุงการช่วยเหลือ บรรเทาจากภาครัฐ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน รวมถึงการดำเนินงานของภาครัฐในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ สำหรับเป็นแนวทางการรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
หลังจากนั้นนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นประธานแถลงข่าวโครงการ “CPN รวมใจช่วยเหลือภัยน้ำท่วม ซ่อมบ้านหลังน้ำลด” ณ. ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครศรีธรรมราช โดยมีนายปรีดี คงสงค์ ผู้จัดการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครศรีธรรมราช พร้อมพันเอกภาสกร ทวีตา รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ผู้แทนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสถาบันการอาชีวศึกษา และประธานกรรมการบริหาร บริษัทนครพัฒน์ จำกัด ร่วมกันแถลงรายละเอียดของโครงการ
นายสกล จันทรักษ์ เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม “CPN รวมใจช่วยเหลือภัยน้ำท่วม ซ่อมบ้านหลังน้ำลด” เป็นความร่วมมือของกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ที่ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมหลังน้ำลด ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ได้นำถุงยังชีพแจกจ่าย พร้อมเข้าซ่อมปรับปรุงระบบไฟฟ้าในครัวเรือนแก่ประชาชน ในพื้นที่ประสบภัยอำเภอชะอวด นบพิตำ ทุ่งสงและปากพนัง ส่วนการเข้าดำเนินการในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพภาคที่ 4 นักเรียนนักศึกษาในสังกัดวิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช และพนักงานในเครือ CPN ที่จะนำอุปกรณ์เครื่องใช้ในการซ่อมบำรุง และช่างฝีมือ พร้อมถุงยังชีพ ผ้าห่ม 1,000 ผืน และน้ำดื่ม 2,000 แกลลอน เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอชะอวด ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (9 ก.พ.) เป็นต้นไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/นครศรีธรรมราช
8 ก.พ.2560