(13 ม.ค.) เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่สวนสมเด็จพระศรนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” เทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีพื้นที่รวม 1.257 ไร่ ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่จนส่งผลกระทบกับวนสัตว์ภายในสวนสมเด็จ ฯซึ่งมีเนื้อที่ 14 ไร่เศษ จนบริเวณทุ่งท่าลาดน้ำลดลงจนเกือบเป็นปกติ เหลือท่วมขังในสวนสัตว์และในที่ลุ่มเพียง 20-20 ซ.ม. เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในสวนสัตว์ และหา “อีสาวหรือน้องนาเดีย”จระเข้ยักษ์ยาวหกว่า 5 เมตรหนักเกือบ 1 ตันว่ายังอยู่ในบริเวณสวนสัตว์หรือไม่
โดยามปกติในสวนสัตว์เลี้ยงจระเข้ไว้ 4 ตัวแต่ในขณะน้ำท่วมพบจระเข้ขนาดเล็กนาว 2 เมตรเศษตายไป 1 ตัว เหลือ 3 ตัว แต่การตรวจสอบพบเพียงจระเข้ขนาดความยาว 2.5 เมตรและ 4 เมตร ส่วน “อีสาวหรือน้องนาเดีย”จระเข้ยักษ์ยาวกว่า 5 เมตรหนักเกือบ 1 ตันหายไปจากสวนสัตว์คาดว่าจะปีนรั้วหนีออกไปในช่างที่น้ำท่วมสูงสุดในคืนวันที่ 8 ม.ค. 2560 โดยคาดว่าจะออกไปทางด้านคอกหมีซึ่งเป็นยุดที่รั้วต่ำสุด ก่อนจะว่ายลงสระน้ำต่อไปยังคลองเตยซึ่งอยู่ติดกับสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” ซึ่งคลองเตยจะยาวเลียบด้านหลังกำแพงค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ไปเชื่อมกับคลองท่าแพ ซึ่งเป็นลำคลองขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับทะเลอ่าวไทย
โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่า “อีสาวหรือน้องนาเดีย”จระเข้ยักษ์ปีนรั้วหนีออกไปนอกสวนสัตว์และนอกเขตสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 “ทุ่งท่าลาด” ทางศูนย์ ปภ.เขต 8 จ.สุราษฏร์ธานี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุด “ไกรทอง” เดินทางมาติดตามไล่ล่าจับจระเข้ยักษ์ โดยใช้เรือท้องแบนพร้อมอาวุธครบมือล่องตามหาไปตามสายน้ำคลองเตย และจุดอื่น ๆ ที่มีน้ำท่วมขัง ในเบื้องต้นได้จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์สำหรับจับเป็นแต่หากจระเข้ยักษ์เกิดอาละวาดทำร้ายเจ้าหน้าที่ทางชุดไกรทองก็พร้อมจะจับตายทันที อย่างไรก็ตามชุดไกรทองได้ตระเวนไล่ล่าค้นหานานหลายโมงแต่ไร้วี่แววของ “อีสาว หรือน้องนาเดียจระเข้ยักษ์”
ในขณะที่ชาวโลกโซเชี่ยลที่ติดตามข่าว “อีสาวหรือน้องนาเดีย”จระเข้ยักษ์สวนสัตว์ท่งท่าลาด เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะจับตายจระเข้ยักษ์ จึงโพสต์ข้อความวิงวอนขอร้องให้เจ้าหน้าที่จับเป็นอีสาวหรือน้องนาเดีย โดยให้เหตุผลว่าอีสาวหรือน้องนาเดียเป็นจระเข้ที่เชื่องไม่ดุร้าย และเป็นขวัญของของนักท่องเที่ยวและประชานที่เข้าชมสวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ที่สำคัญ “อีสาวหรือน้องนาเดีย”เป็นจระเข้พันธุ์ต่างประเทศที่นับว่าหายาก โดยเจ้าของเดิมใน จ.ภูเก็ต ซื้อและนำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะนำมาถวายวัดขนาน อ.ทุ่งใหญ่และวัดขนานบริจาคต่อมาให้สวนสัตว์ทุ่งท่าลาด
ในช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้น้ำที่ท่วมขังบนถนนภายในสวนสมเด็จ ฯได้ลดลงจนรถสามารถวิ่งสัญจรไปมาได้ นายมนัส พงศ์ยี่หล้า รองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายเจิม กำลังเกื้อ เจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจภายในสวนสมเด็จ ฯรวมทั้งสวนสัตว์เปิด ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังเป็นบางส่วน พบว่ามีสัตว์ตายจำนวนมาก อาทิ ไก่งวง 10 ตัว นกอีมูอู 3 ตัว จระเข้ 1 ตัว กวางดาว 3 ตัว นกกระจอกเทศ 1 ตัว สุนัขจิ้งจอก 3 ตัว ไก่แจ้และไก่บ้านอีกเกือบ 20 ตัว สัตว์ที่ตายเริ่มขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันทำความสะอาดและเคลียร์พื้นที่ที่น้ำลดแล้ว รวมทั้งนำซากสัตว์ที่ตายไปฝัง จากนั้นจึงตรวจสอบหา “อีสาวหรือน้องนาเดีย” จระเข้ยักษ์ยาวกว่า 5 เมตร หนักเกือบ 1 ตันแต่ไม่พบอยู่ภายในสวนสัตว์ โดยคาดว่าจะออกจากสวนสัตว์ทางคอกหมี ซึ่งในจุดดังกล่าวรั้วต่ำกว่าจนอื่น ๆ และถูกน้ำท่วมจมมิดรั้ว เมื่อออกไปจากบริเวณสวนสัตว์ได้แล้วอีสาวหรือน้องนาเดียก็จะว่ายข้ามถนนไปลงในสระขนาดใหญ่ซึ่งสามารถเชื่อต่อไปยังคลองเตยซึ่งอยู่ติดกับสวนสมเด็จ ฯทางทิศตะวันออกโดยลำคลองยาวเลียบกำแพงค่ายวชิราวุธไปเชื่อมต่อกับคลองท่าแพ ซึ่งเป็นคลอดขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับปากน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทย
นายเจิม กำลังเกื้อ กล่าวว่า “ตามปกติ อีสาวหรือน้องนาเดีย” เป็นจระเข้ขนาดใหญ่ที่เชื่องมาก ในแต่ละวันจะนอนกบดาอยู่นิ่ง ๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวเลย แม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามุงดูจำนวนมากมันก็นอนกบดานนิ่งเฉย ๆ ในขณะที่อีก 3 ตัวเคลื่อนไหวอยู่ตลอดและค่อยข้างดุร้ายและน่าจะในปีนหนีหลุดรอดออกมาจากภายในสวนสัตว์มากกว่าอีสาวหรือน้องนาเดีย โดยส่วนตัวตนเชื่อว่า “อีสาวหรือน้องนาเดีย” จะกบดานอยู่ในคลองเตยหรือพื้นที่น้ำท่วมยังหลังค่ายวชิราวุธ หรืออาจจะกบกานอยู่ภายในสวนสมเด็จจุดใดจุดหนึ่งก็ได้ หากใครพบและสงสัยว่าเป็นอีสาวหรือน้องนาเดีย ขอให้โทรศัพท์แจ้งตนโดยตรงที่หมายเลข 063-0627445 ” นายเจิมกล่าวในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังน้ำลดประชาชนที่ติดตามข่าวจระเข้สวนสัตว์เปิดทุ่งท่าลาดมาตั้งแต่ต้นได้ทยอยเดินทางมาตรวจสอบว่ามีจระเข้ในสวนสัตว์หลุดออกไปข้างนอกจริงหรือไม่ เมื่อทราบว่ามีจระเข้หลุดไปไปจริงและเป็นจระเข้ตัวใหญ่ยักษ์ที่สุดในสวนสัตว์ ต่างพากันวิพากวิจารณ์และตำหนิ ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีเป็นอย่างมาก เพราะนายกเทศมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าจระเข้สวนสัตว์ ฯไม่ได้หลุดออกไปข้างนอก แต่มีกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามพยายามกระพือข่าวเพื่อหวังดิตเครดิตตัวเอง แต่จระเข้ยักษ์หลุดออกไปจริง ๆ จึงไม่ทราบว่านายกเทศมนตรีจะชี้แจงในเรื่องนี้อย่างไร
“ความจริงไม่มีใครโทษใครเกี่ยวกับเรื่องจระเข้หลุดออกไปข้างนอก เพราะมันเป็นภัยพิบัติ เป็นเรื่องสุดวิสัยจริง ๆ แต่การออกมายืนยันของผู้บริหารสูงสุดของเทศบาล ฯซึ่งสวนทางกับความจริงอาจจะส่งผลให้ประชาชนในละแวกใกล้เคียงมั่นใจเดินลุยน้ำท่วมอาจจะได้รับอันตรายจากจระเข้ได้ ที่สำคัญในสถานการณ์วิกฤติน้ำท่วมหนักจนประชาชนเดือดร้อนถ้วนหน้านายกเทศมนตรียังมีกะจิตกะใจคิดว่านำประเด็นการเมืองมาแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ถึงขนาดนี้ไม่มีใครเขาคิดที่มุ่งโจมตีกันทางการเมือง ทุกคนพยายามที่จะอดทน ร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันวิกฤติที่เกิดขึ้นให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ขอให้หยุดความคิดที่สร้างความขัดแย้ง แตกแยก ในบ้านเมืองได้แล้ว” .
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
13 ม.ค. 2560