วันนี้(5 ม.ค.60) ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อติดตามและสรุปสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายประโมทย์ ช่วยบุญชู ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานครศรีธรรมราช กล่าวว่า ฝนที่ตกในจังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงนี้จะตกในบริเวณเทือกเขาหลวงซึ่งแตกต่างจากเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 ที่ตกในพื้นที่ราบ ซึ่งการที่ฝนตกในพื้นที่เทือกเขาหลวง ในครั้งนี้ได้รับผลกระทบมาจากหย่อมความกดอากาศต่ำ จากประเทศมาเลเซีย ที่เคลื่อนตัวขึ้นมาทำให้ฝนตกหนักมาตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม เป็นต้นมา ซึ่งคาดว่าฝนจะตกต่อเนื่องอีก 2 วัน คือ วันที่ 5-6 มกราคม 2560 ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวที่ลาดเชิงเขาให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินเลื่อนไหลอย่างใกล้ชิดด้วย และขณะนี้กลุ่มเมฆฝนกำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือจึงขอให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอสิชล ขนอม เตรียมตัวรับกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ส่วนชาวเรือขอให้งดนำเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาดเนื่องจากในทะเลมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร
ผศ.เชาวน์วัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เทศบาลนครศรีธรรมราช ได้ประสานงานกับชลประทานอย่างใกล้ชิดในการติดตามสถานการณ์น้ำไหลลงมาจากต้นน้ำคลองท่าดี พร้อมทั้งได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 20 เครื่อง ของเทศบาล 2 เครื่อง รวมเป็น 22 เครื่อง เพื่อสูบน้ำลงสู่ทะเล และเครื่องผลักดันน้ำอีก 8 เครื่อง สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือชุมชน 24 ชุมชนที่เป็นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งจะถูกน้ำท่วมขังต่ออีกประมาณ 1-2 วัน ถ้าฝนหยุดตกก็จะเร่งสูบน้ำให้แห้งโดยเร็วที่สุดเหมือนกับเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามวันนี้(5 ธ.ค.) มวลน้ำจะไหลลงมาถึงเขตเมืองอีกจึงขอให้พี่น้องประชาชนได้เก็บทรัพย์สิน สิ่งของมีค่าไปไว้ในที่ปลอดภัยด้วย หากบ้านไหนน้ำท่วมขังขอให้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพตามที่เทศบาลกำหนดไว้
นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า แม้ว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้จะน้อยกว่าเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2559 แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ชุ่มน้ำอยู่แล้ว ทำให้กระแสน้ำไหลลงมาเร็วและแรงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่อำเภอเชิงเขาน้ำท่วมแล้ว 13 อำเภอ คือ ชะอวด ทุ่งสง จุฬาภรณ์ ร่อนพิบูลย์ ท่าศาลา นาบอน ช้างกลาง ฉวาง พิปูน นบพิตำ เมืองนครศรีธรรมราช พรหมคีรี สิชล นอกจากนี้ส่งผลให้ถนนสายหลักคือสายเอเชียหรือหมายเลข 41 ถูกน้ำท่วมขัง ช่วงทุ่งสง- ชะอวด และคอสะพานขาดทั้งขาขึ้นและขาล่องที่ตำบลถ้ำใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตั้งสะพานแบลี่ รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ รวมทั้งเส้นทางสายนบพิตำ คอสะพานขาด รถผ่านไม่ได้เช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตั้งสะพานแบลี่เช่นกัน เช่นเดียวกับถนนสายนครศรีธรรมราช- ร่อนพิบูลย์ -สามแยกสวนผัก น้ำท่วมสูงที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงฯ และถนนสายลานสกา –ฉวาง น้ำท่วมสูงบริเวณถ้ำสุรกานต์ และถนนสายท่าศาลา- สิชล- ขนอม น้ำท่วมสูงที่หน้าตลาดแม่กิมส้อง รถเล็กผ่านไม่ได้ จึงขอให้สอบถามเส้นทางกับตำรวจทางหลวง ตำรวจภูธรในพื้นที่หรือแขวงทางหลวงก่อนออกเดินทางด้วยทุกครั้ง และขณะนี้ได้สั่งการให้ปิดการจราจรบนถนนสายเอเชียแล้ว และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าได้ฝ่าฝืนค่ำสั่งของเจ้าหน้าที่ เพราะน้ำไหลแรงอาจจะพัดรถตกถนนได้ ซึ่งได้รับรายงานว่ามีผู้ฝ่าฝืนขับรถฝ่ากระแสน้ำทำให้รถถูกน้ำพัดจมหายมีคนติดอยู่ในรถด้วย หากฝ่าฝืนขอให้ยึดรถไว้ก่อนโดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 และหากพื้นที่ใดมีความจำเป็นต้องอพยพประชาชนก็ขอให้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์ตามแผนที่กำหนดไว้ของอำเภอและท้องถิ่น ขอให้รักษาชีวิตไว้ก่อน นอกจากนี้จังหวัดได้ขอรับการสนับเรือท้องแบนและถุงยังชีพจากส่วนกลางโดยเร่งด่วนแล้วเพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำทั้ง 4 แห่ง คือ ห้วยน้ำใส คลองดินแดง กะทูน และเสม็ดจวน แม้ว่าน้ำจะล้นอ่างแต่ได้รับการยืนยันจากชลประทานจังหวัดว่า ตัวอ่างเก็บน้ำยังมั่นคงแข็งแรงอยู่ ดังนั้นพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวล นอกจากนี้จังหวัดได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งให้สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานเกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ความถี่เอฟเอ็ม 93.5 เมกกะเฮิร์ตซ์ และ สวท.ทุ่งสง ความถี่ 97 เมกกะเฮิร์ตซ์ และสถานีเครือข่าย 101.5 เมกกะเฮิร์ตซ์ 94.75 ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนได้รับฟังข่าวสารต่าง ๆ รวมทั้งเส้นทาง จุดเสี่ยง จุดห้ามผ่านในพื้นที่ และส่งต่อข้อมูลไปยังโซเซียลทุกช่องทางด้วย จึงขอให้ผู้ใช้เส้นทางที่จะเข้ามาในจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือผ่านไปยังจังหวัดอื่น ๆ ขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลักด้วย
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
5 มกราคม 2560