(3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันของวานนี้ (2 ม.ค.)ทางญาติ ๆ และเจ้าหน้าที่ได้ร่วมระดมกำลังนำเรือออกหานายประสิทธิ์ ทั้งกลางวันและกลางคืนโดยการค้นหาด้วยความยากลำบากเนื่องจากคลื่นทะเลยังคงสูงกว่า 3 เมตร พัดถล่มเข้าหาฝั่งรุนแรงประกอบกับมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเรือออกค้นหาได้ เกรงว่าเรืออาจจะถูกคลื่นซัดอับปางได้ จึงทำได้เพียงกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ค้นหาตามแนวชายชาดบางดี เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร แต่ก็ยังไม่พบร่างของนายประสิทธิ์
ในช่วงเช้าวันนี้ (3 ม.ค.) บรรดาทางญาติของนายประสิทธิ์ ได้เดินทางมายังบริเวณที่เกิดเหตุ โดยทุกคนอยู่ในอาการโศกเศร้าและวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดและเชื่อว่านายประสิทธิ์ คงจะเสียชีวิตไปแล้ว เพราะจะมีก็แต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้นายประสิทธิ์รอดตายได้ บรรดาญาติ ๆ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ค้นหานายประสิทธิ์ ตลอดแนวลายฝั่งและมีความหวังจะคลื่นจะซัดร่างของนายประสิทธิ์ ขึ้นมาเกยชายหาดแต่ต้องผิดหวัง จึงได้นำธูปเทียน ดอกไม้ เครื่องเซ่นไหว้มาบนบานบอกกล่าว เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าทะเล ขอให้ช่วยดลบันดาลให้พบร่างของนายประสิทธิ์ด้วย
สำหรับชายหาดแห่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งใน อ.ขนอม อ.สิชล นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวฉลองปีใหต่างผิดหวังไปตาม ๆ กัน เนื่องจากไม่สามารถลงเล่นน้ำทะเลได้ เนื่องจากคลื่นลมแรงซัดถล่มเข้าหาฝั่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆในขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงกว่าปกติ รวมทั้งเกิดฝนตกหนักและลมพัดกรรโชกอย่างรุนแรง โดยเจ้าหน้าที่ยังนำธงแดงมาปักเตือนภัยและห้ามลงเล่นน้ำตลอดแนวชายหาดทุกแห่ง จนในที่สุดนักท่องเที่ยวตามโรงแรม รีสอร์ทหรือที่พักต่าง ๆ ได้ตัดสินใจเช็คเฮาส์ออกจากที่พักเดินทางกลับภูมิลำเนาไปโดยปริยาย
ส่วนที่ อ.ปากพนัง คลื่นยักษ์พัดถล่มตลอดแนวชายฝั่ง ในขณะที่ฝนตกหนัก ลมพัดกรรโชกรุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำทะเลหนุนสูงจนไล่บ่าท่วมถนนสาย 4013 เลียบชายทะเลปากพนัง-หัวไทร เป็นช่วง ๆ หลายครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านตลอดแนวชายฝั่งต้องอพยพหลบหนีภัยคลื่นยักษ์ไปอยู่ตามบ้านญาติพี่น้อง เหลือเพียงครอบครัวของนายเที่ยว จันทร์นวล อายุ 70 ปีที่อยู่รวมกัน 8 ชีวิตแม้ถูกคลื่นพัดถล่มอย่างหนักต่อเนื่อง แต่ทั้งหมดยังทนเสี่ยงอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ อย่างน่าหวาดเสียว โดยกระท่อมถูกคลื่นซัดจนจะพังเหล่มิพังเหล่ อย่างไรก็ตามครอบครัวของนายเที่ยว ได้ช่วยกันเก็บข่าวของเครื่องใช้ภายในบ้านมาวางกองไว้ริมถนนเพื่อเตรียมอพยพหลบหนีได้ทันท่วงทีหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
3 ม.ค. 2560