(23 พ.ย.)นางสาวสุพัตรา จินดาวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดธรรมเผด็จ หมู่ 7 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีความสำคัญต่อประเทศชาติ และพสกนิกรชาวไทยทุกระดับชั้น ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน เยาวชน นักเรียน ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์พร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดนโยบายขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาในทุกระดับเพื่อให้นักเรียนนักศึกษามีความรู้ความเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อให้เกิดความตระหนักและฝังรากลึกภายในตนเอง และผู้อื่นอย่างยั่งยืน”
“โรงเรียนวัดธรรมเผด็จ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 จึงได้จัดกิจกรรม "ชวนน้องเก็บข้าว ทิ่มเม่ากับชาวหนองเสม็ด" ณ บ้านหนองเสม็ด หมู่ 13 ต.ควนกรด อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยนำนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 100 คน ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ชีวิตการทำนา การปลูกข้าว การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปข้าว ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ การทำนาของหมู่บ้านที่ 13 นำโดย นางประทีป พรหมดนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ในเนื้อที่ จำนวน 9 ไร่”
ทางด้านนายจรุญ มากคงแก้ว ชาวบ้านหนองเสม็ด เป็นวิทยากรในการอธิบายถึง วิถีชีวิตของชาวนา ว่า “การทำนา นั้นต้องมีการเตรียมดิน การเตรียมพันธ์ข้าว การปลูก การเก็บเกี่ยว และการนำข้าวที่เกี่ยวไปตาก แล้วนำไปนวด หรือสี แล้วคัดเลือกกากออก นำมาบรรจุเป็นถุง ขายในชุมชน หรือละแวกใกล้เคียง และสามารถนำข้าวมาแปรรูปเป็นอาหารได้อีกด้วย เช่นวันนี้ สาธิตการทำข้าวเม่า ข้าวเม่านั้นเป็นของหวานไว้ทานเล่น หากเหลือจากทานสามารถนำไปจำหน่ายต่อในชุมชนและตลาดใกล้เคียงได้อีกด้วย”
เด็กหญิงสุชานาถ จันทรปรุง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า “จากการศึกษาแหล่งเรียนรู้ดังกล่าว ทำให้มีความรู้ในเรื่อง วิธีปลูกข้าว การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปข้าวเหนียวเป็นข้าวเม่า และรู้ว่า กว่ามาเป็นข้าวที่เราทานได้ ต้องผ่านกระบวนการนา ๆ ผ่านการเตรียมดิน ปลูก เก็บเกี่ยว ตาก แล้วนำมานวด นำมาหวัด แล้วนำไปตำ หรือสี แล้วนำมาเลือกกากออก จึงเป็นข้าวสาร ส่วนการแปรรูปเป็นข้าวเม่านั้นต้องนำข้าวเหนียวที่ผ่านกระบวนการเลือกกากเสร็จแล้ว เอาไปแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วคั่วประมาณ 10 นาที นำไปทิ่มจนเปลือกออก นำมาขวัด คัดเลือกกาก หลังจากนั้นนำมาผสมน้ำตาล เกลือ และมะพร้าว จึงจะรับประทานได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเป็นอย่างมากกว่าจะได้มา ทำให้พวกเราทุกคนเห็นคุณค่าของข้าวทุกเม็ด ความยากลำบากของชาวนา ได้เรียนรู้ถึงชีวิตของชาวนา และพวกเราทุกคนจะน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป”
ส่วนนายวีระวัฒน์ โพธิ์ทอง รอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 กล่าวว่า “การที่ให้เด็กได้ศึกษาแหล่งเรียนรู้ดังกล่าว เป็นไปตามนโยบาย คือช่วงเวลา ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ และทักษะพื้นฐานในการดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นักเรียนจะได้สืบสานและหวงแหนวัฒนธรรมการเกษตร พร้อมทั้งได้นำหลักการทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบูรณาการ การเรียนการสอนในสถานศึกษาและนักเรียนเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง สามารถถ่ายทอดความรู้สู่รุ่นน้องได้นอนาคตต่อไป”.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
23 พฤศจิกายน 2559