(23 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีนำภาพและข้อมูลการดำเนินการโครงการจำนวน 3 โครงการในบริเวณพื้นที่เดียวกันบริเวณคลองท้ายชลประทาน 3 ขวา บ้านคลองห้วย หมู่ 7 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และสื่อมวลชนทำการตรวจสอบความไม่โปร่งใส เนื่องจากทั้ง 3 โครงการอยู่ในที่เดียวกันและทั้ง 3 โครงการไม่ได้เกิดประโยชน์ใด ๆ กับประชาชนแม้แต่น้อย เป็นการใช้จ่ายงบประมาณภาษีของประชาชนแบบสูญเปล่า มาโพสต์เรียกร้องผ่านทางเฟซบุ๊คและมีการแสดงความคิดเห็นและแชร์ภาพและข้อความออกไปอย่างกว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าการดำเนินการในจุดดังกล่าว พบว่าทั้ง 3 โครงการมีการขึ้นป้ายคัตเฮาส์ชี้แจงรายละเอียดของโครงการตามที่กฎหมายกำหนด โดย 2 โครงการเป็นการดำเนินการโดยเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กซอยตาแบน เริ่มจากปากซอยต้นหว้า 6 ไปทางทิศตะวันออกตามแนวคลองท้ายชลประทาน 3 ขวา หรือ” คลองห้วย” จนสุดซอย ระยะทางประมาณ 180 เมตร ใช้งบประมาณ 845,000 บาท สัญญาเริ่มวันที่ 17 มิ.ย.2559 สิ้นสุดสัญญา 15 ส.ค. 2559 ที่ผ่านมา และโครงการที่ 2 โครงการก่อสร้างท่อเหลี่ยมบริเวณท้ายคลองชลประทาน 3 ขวา ขนาด 2,10X.10X100 เมตร ยาว 14 เมตร จำนวน 2 แถว พร้อมที่ดินหลังหลังท่อลอดเหลี่ยม ตามรูปแบบและรายการของเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช งบประมาณ 998,000 บาท สัญญาเริ่มวันที่ 24 ก.ย. 2559 สิ้นสุดโครงการวันที่ 22 พ.ย. 2559 ซึ่งทั้ง 2 โครงการดำเนินการแล้วเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว
โดยโครงการแรกเป็นการสร้างถนนขึ้นมาใหม่เลียบคลองชลประทานด้านซ้าย ซึ่งเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กระยะทาง เป็น 180 เมตร และตั้งชื่อซอยใหม่ว่าซอยตาแบน ซึ่งถนนเริ่มจากปากซอยต้นหว้า 6 ลึกเข้าไปทางทิศตะวันออก จนถึงที่ดินแปลงใหญ่ของเอกชนเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ โดยมีบ้านเรือนประชาชนบริเวณปากซอยต้นหว้า 6 ลึกเข้ามาประมาณ 30 เมตรอยู่เพียง 1 หลังเดียวเท่านั้น และโดยสภาพความเป็นจริงโครงการดังกล่าวไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ กับประชาชนแม้แต่น้อย และถนนสายที่ก่อสร้างใหม่ไม่สามารถใช้สัญญาไปมาใด ๆ เนื่องจากเป็น “ซอยตัน” ถนนสิ้นสุดไปเฉย ๆ บริเวณที่ดินแปลงใหญ่ของเอกชนแปลงดังกล่าว ถนนสายนี้จึงสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ในการปั่นราคาซื้อขายที่ดิน 9 ไร่แปลงดังกล่าวเท่านั้น และจากการตรวจสอบการซื้อขายที่ดินแปลงดังกล่าวจากเจ้าของเดิมในราคา 6.5 ล้านบาท จากนั้นจึงมีการก่อสร้างถนนซอยตาแบนเข้าไปอย่างรีบเร่งเสร็จสิ้นภายใน 2-3 เดือนก่อนจะขายที่ดินแปลงดังกล่าวต่อให้กับนายทุนรายใหม่ในราคา 14.5 ล้านบาทโดยการซื้อขายทั้ง 2 ครั้งมีนายหน้าซึ่งเป็นนักการเมืองคนเดียวกัน
ส่วนโครงการที่ 2 โครงการก่อสร้างท่อเหลี่ยมบริเวณท้ายคลองชลประทาน 3 ขวา ซึ่งถนนเดิมเป็นถนนลำลอง(ถนนดิน) เลียบคลองชลประทานฝั่งขวามือ เป้าหมายในการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวเพื่อไปเชื่อมต่อกับถนนในชุมบนคลองห้วย แต่ระหว่างการดำเนินการบุกเบิกก่อสร้าง เจ้าของที่ดินรายหนึ่งที่ถนนจะตัดผ่าน ทางอ้างว่าเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชทำผิดเงื่อนไขข้อตกลง เจ้าของที่ดินจึงไม่ยอมให้ตัดถนนผ่าน โครงการดังกล่าวจึงล้มเลิกและทิ้งไปโดยปริยายนานเกือบ 10 ปีแล้วและไม่สามารถใช้สัญจรไปมาตามปกติได้ และจุดดังกล่าวมีระดับต่ำกว่าระดับถนนปกติ ซึ่งเดิมเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชได้วางท่อคอนกรีตเสริมเหล็กชนิดท่อกลม ขนาดกว้าง 1.50 เมตร จำนวน 2 แถวเพื่อระบายน้ำจากห้วยธรรมชาติลงสู่คลองชลประทานและสามารถระบายน้ำได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ดำเนินการโครงการก่อสร้างท่อเหลี่ยมบริเวณท้ายคลองชลประทาน 3 ขวาขนาด 2,10X.10X100 เมตร ยาว 14 เมตร จำนวน 2 แถว พร้อมที่ดินหลังหลังท่อลอดเหลี่ยม โดยขุดท่อเดิมทิ้งและใช้งบประมาณดำเนินการสูงถึง 998,000 บาท จึงไม่เกินประโยชน์และไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบเร่งดำเนินการ อีกทั้งเป็นการใช้งบประมาณที่สูงเกินความเป็นจริง ซึ่งควรจะนำงบประมาณในส่วนนี้ไปดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ที่เกิดประโยชน์และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ส่วนโครงการ 3 เป็นโครงการของเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินการในจุดเดียวกัน โดยมีการขึ้นป้ายชี้แจงรายละเอียดโครงการว่า “โครงการตามนโยบายรัฐบาล มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้าน) โครงการซ่อมแซมหรือบูรณะทรัพย์สินที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ระบุชื่อโครงการสร้างฝายกั้นน้ำพร้อมขุดลอกทางน้ำคลองห้วย หมู่ 7 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยมีรายละเอียดตามสัญญาระบุว่าสร้างฝายกั้นน้ำท่วมบริเวณคลองห้วย แบบหินทิ้ง ฐานกว้าง 2 เมตร สูง 2 เมตร ยาว 10 เมตรตามสภาพพื้นที่พร้อมขุดลอกคลองห้วย ขนาดคลองโดยประมาณกว้าง 9 เมตร ลึก 1 เมตร ความยาว 900 เมตร งบประมาณดำเนินการ 499,000 บาทระยะเวลาดำเนินงาน 60 วัน เริ่มสัญญาวันที่ 29 ธ.ค. 2558 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 27 ก.พ. 2559 ซึ่งโครงการดังกล่าวก็ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วเช่นเดียวกัน
ในข้อเท็จจริงที่อ้างว่าสร้างฝายกั้นน้ำท่วมบริเวณคลองห้วยแบบหินทิ้ง ฐานกว้าง 2 เมตร สูง 2 เมตร ระทางยาว 10 เมตร ขวางเต็มลำคลอง แต่หลังจากฝนตกหนัก ทำให้น้ำในห้วยธรรมชาติที่ระบายผ่านทอลอดเหลี่ยมของถนนฝั่งขวามือตามโครงการของเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ได้ไหลพัดกัดเซาะดินริมคลองบริเวณด้านขวาของฝายที่ทำเป็นแท่งคอนกรีตและอยู่เยื้องกับฝายกั้นน้ำท่วมของเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จจนพังเสียหายยับเยินกว้างกว่า 2 เมตรและยังเว้าลึกเข้าไปใต้พื้นถนนคอนกรีตทางฝั่งขวามือกว่า 1 เมตร และเชื่อในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนหากฝนตกหนักติดต่อกันเหมือนทุกปีที่ผ่านมากระแสน้ำจะกัดเซาะจนถนนคอนกรีตพังเสียหายเป็นบริเวณกว้างอย่างแน่นอน ที่สำคัญฝายที่ก่อสร้างขวางคลองชลประทานดังกล่าวไม่ได้มีส่วนในการป้องกันน้ำท่วมใด ๆ เลย
โดยสรุปทั้ง 3 โครงการที่ใช้งบประมาณรวมกันกว่า 2 ล้านบาทไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ กับประชาชน นับเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า สูญเปล่า โดยในส่วนของการทำถนนคอนกรีตเลียบคลองชลประทานทางซ้ายมือยังเป็นการดำเนินโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงมีการเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินและสื่อมวลชน ให้ตรวจสอบ 3 โครงการดังกล่าวเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณเกิดประโยชน์และคุ้มค่าสูงสุดกับประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลและ คสช. อย่างแท้จริง.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
23 พฤศจิกายน 2559