โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกหมู่เหล่า ทุกเพศทุกวัย ได้เริ่มทยอยเดินทางจากทุกอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราช มายังสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เวลา 13.00 น. แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จนน้ำท่วมขังภายในสนามหน้าเมืองก็ตามเพื่อเตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆและเพื่อให้เกิดความสวยงามพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยเริ่มเข้ายืนประจำจุดตามี่กำหนดในเวลา 14.00 น. โดยเฉพาะในการแปรรูปอักษรเลข ๙ และพระบรมธาตุปลียอดทองคำอยู่คู่กัน และ คำว่า “นครศรีธรรมราช” อยู่ด้านล่างสุด นอกจากนี้ยังมีรูปหัวใจสีขาวด้วย ซึ่งฝนที่ตกกระหน่ำหนักไม่ได้ทำให้ประชาชนย่อท้อหรือวิ่งหนีฝนแม้แต่น้อย ยังคงทยอยเดินลุยน้ำ ลุยโคลนเข้ายืนประจำจุด อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่มีการบันทึกกิจกรรมทั้งหมดโดยสถานีโทรทัศน์ NBT นครศรีธรรมราช และสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม IPM.ช่อง 146 นครชาแนท และยังลิงค์สัญญาณไปยังเฟซฟุ๊คสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้เข้าติดตามชมเกือบ 6 พันคน โดยคนที่ติดตามชมทั้งในและต่างประเทศหลายร้อยคนเข้ามายกย่องชื่นชมความตั้งใจและความพยายามของชาวนครศรีธรรมราชในการจัดกิจกรรมถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บ่งบอกถึงความเคารพรักและเป็นศูนย์รวมใจของพสกนิการทุกหมู่เหล่าอย่างแท้จริง
ในขณะที่สนั่น ศิลารัตน์ ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ฉายภาพยนต์ส่วนพระองค์เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวนครศรีธรรมราชหลายพื้นที่ เมื่อปี 2502 ความยาว 23.16 นาที พร้อมนำหนังสือ “เสด็จเมืองนครศรีธรรมราช นครอันงามสง่าแห่งพระราชชาผู้ทรงธรรม” จำนวน 3,500 เล่มมาแจกจ่ายประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมด้วย นอกจากนี้ยังมีศิลปินดังหลายคน อาทิ เอกชัย ศรีวิชัย เอ่ สันติภาพ หนังตะลุงน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม เป็นต้นมาร่วมกิจกรรมแปรอักษรครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ด้วย
สำหรับกำหนดการผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้มีการเข้าประจำจุดแปรอักษรตามที่กำหนดไว้ โดยมีคคณะจิตอาสาทำดีเพื่อพ่อ ทั้งมูลนิธิ สมาคม ชมรม และบุคคล ได้นำรถสองแถว รถยนต์มาบริการรับส่งประชาชน รวมทั้งการบริการอาหารน้ำดื่มฟรีแก่ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ผู้เข้าร่วมประจำจุดแปรอักษรต้องทนยืนแช่น้ำ และโคลนตมอย่างไม่ย่อท้อนานถึง 8 ชม. เพื่อร่วมสร้างประวัติศาสตร์ถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และในเวลา 19.00 น. นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประธานในพิธีได้กล่าวนำแสดงความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้จุดเทียนแสดงความอาลัยและร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยการบรรเลงสดจากนักดนตรีกว่า 300 คน จน ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนามหน้าเมืองและบริเวณใกล้เคียง
สำหรับสนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราชแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2516 ในการพระราชทานพระพุทธนวราชบพิตรแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2519 ในการพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดนครศรีธรรมราช รุ่นที่ 611/2 ถึง 611/31 ส่วนความหมายของอักษร คือ พระบรมธาตุเจดีย์นั้น หมายถึงตัวแทนพระพุทธเจ้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ณ พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถึง 4 ครั้ง คือ วันที่ 14 มีนาคม 2502 /วันที่ 26 พฤษภาคม 2507 วันที่ 26 สิงหาคม 2515 และ วันที่ 14 กันยายน 2523
สำหรับความหมายในการแปรรูปอักษรของจังหวัดนครศรีธรรมราช นั้นเลข ๙ หมายถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และข้อความอักษร “นครศรีธรรมราช” และรูปหัวใจสีขาว หมายถึง การรวมพลังความเป็นหนึ่งเดียวกันของชาวนครศรีธรรมราชทุกหมู่เหล่า เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีต่อพสกนิกรชาวนครศรีธรรมราช และปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ ส่วนพระบรมธาตุเจดีย์ นั้นหมายถึงเมืองแห่งพุทธธรรม ศูนย์กลางพุทธศาสนาของประเทศไทย โดยพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
31 ต.ค. 2559