สำหรับการจัดรัฐพิธีดังกล่าวเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่พระองค์ทรงมีต่อประเทศชาติและปวงชนชาวไทย โดยทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจที่ทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้า ขึ้นสู่ความเป็นอารยะทัดเทียมนานาอารยะประเทศ เป็นที่เชิดชูยกย่องจากมิตรประเทศ อาทิ การประกาศเลิกทาส การส่งเสริมด้านการปกครอง ด้านการสาธารณูปโภค การศึกษา การปกป้องประเทศ รวมถึงการเสด็จประพาสประเทศต่างๆ ที่ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักของนานาประเทศอย่างกว้างขวาง
“วันปิยมหาราช” ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งพระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช” ซึ่งมีความหมายว่า “พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน” ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม เป็น “วันปิยมหาราช” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
23 ต.ค.2559