เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 6 ก.ย. 2559 ที่เมรุวัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพนายฉวี อินทระ อายุ 57 ปียุติธรรมจังหวัดพังงาและผอ.สนง.คุมประพฤติ จ.พังงา โดยมี พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และผู้ใต้บังคับบัญชาในกรมคุมประพฤติ ญาติๆ พี่น้องและเพื่อน ๆ รวมทั้งพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมากมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพด้วยบรรยากาศโศกเศร้าตลอดงาน
ก่อนการพระชุมเพลิง น.ส.อะนุ อินทระ อายุ 50 ปี น้องสาวของนายฉวี ไอ้ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าสาเหตุการตายของนายฉวี พี่ชายจะมาจากสาเหตุเรื่องชู้สาวตามที่ตำรวจสรุปคดีและคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน แต่ตนเชื่อว่าสาเหตุการตายของพี่ชายตนลึก ๆ แล้วน่าจะมาจากเรื่องหน้าที่การงานที่พี่ชายของทำงานอยู่ จ.พังงา จึงอยากให้ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีรื้อฟื้นคดีใหม่เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง เพราะมันมีเบื้องหลังลึก ๆ ของสาเหตุการฆ่าพี่ชายของตนมากกว่าจะมีสาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว
ทางด้านนายวิบูลย์ เชื้อชุมพล อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ม.รามคำแหงและเป็นอดีตคณะกก.สิทธิมนุษยชน สภาทนายความ และประธานเครือข่ายทนายความไท ได้ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในบริเวณงานฌาปนกิจศพว่าตนมองว่าคดีนี้มีเงื่อนงำ มีการอำพรางศพ มีการอำพรางซ่อนเร้นศพ เกิดเหตุมีการเตรียมการอย่างดี ซึ่งจากประสบการณ์ของตนเด็ก อายุ 22 ปี เกือบทั้งชุดไม่สามารถที่จะทำได้ มันจะต้องมีผู้ใหญ่บงการสั่งการอยู่ข้างหลัง ตนอยากจะรู้จังเลยว่าคนที่มามอบตัวในวันสุดท้ายทำไมต้องไปซ่อนตัวที่เขาลานสกา ไปอยู่กับใคร มีอิทธิพลแค่ไหน ตำรวจในพื้นที่จะต้องรับทราบต้องรู้ ทำไมต้องให้ท่านจเรตำรวจลงมารับมอบตัว ทำไมตำรวจในพื้นที่ไม่มีเลยหรือ จับไม่ได้หรือรถหลังเกิดเหตุไปอยู่ไหน วงจรปิดมีทั่วจังหวัดนครศรีธรรมราชทำไมหาไม่เจอเลยเหรอ รถของนายฉวี ที่หายไปไหนยังไม่ได้หาจนถึงทุกวันนี้
“การทำงานในหน้าที่ราชการของ ผอ.ฉวี อินทระ ค่อนข้างที่จะตรงไปตรงมาและรุนแรง ทำไมตำรวจไม่หยิบยกเอาเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาสอบสวนบ้าง ทำไมต้องเอามาลงชู้สาว ซึ่งมันปิดคดีได้ง่ายมาก มีการเตรียมการได้ง่ายมาก ผมอยากถามว่าเด็กอายุ 20 กว่าปีคิดได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ ซึ่งความจริงแค่ตีก็ตายและก็ทิ้งศพไว้ตรงนั้น และข้อสงสัยมากที่สุดคือแม่น้ำเชียรใหญ่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุด ทำไมต้องพาอ้อมไปกว่า 40 กม.พาไปทิ้งที่คลองบางจาก บ้านแสงวิมาน อ.ปากพนัง อยากถามว่าเด็กอายุ 22 ปีคิดเป็นไหม ผมไม่เชื่อว่าเด็กที่ร่วมฆ่านายฉวี จะคิดได้ถึงขนาดนี้ ผมเชื่อว่าจะต้องมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังและอาจจะเป็นอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับนายฉวี อินทระ ในตำแหน่งยุติธรรมจังหวัดพังงาเสียด้วยซ้ำไป”
นายวิบูลย์ เชื้อชุมพล ซึ่งหลังจากนี้ผมและญาติ ๆของนายฉวี ทำหนังสือถึง รมว.กระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีดีเอสไอ และอธิบดีกรมคุมประพฤติ เพื่อเรียกร้องให้ร่วมกันรื้อคดีสอบสวนคดีนายฉวีใหม่อย่างเป็นจริงเป็นจังไม่ต้องเกรงใจผู้ใดผู้หนึ่งเพราะผมเชื่อว่ายังมีผู้มีอิทธิพลด้านใดด้านหนึ่งจะเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้โดยข้อพิรุธที่ผมและญาติตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทำไมบุคคลที่อยู่ในภาพกล้องวงจรปิดต้องอยู่ในกลางภาพตลอดเวลา เสมือนหนึ่งว่าต้องมีคนคอนโทรลกล้องวงจรปิดให้แพนภาพตาม ผอ.ฉวี ตลอด ตั้งแต่เดินเข้าไปและเดินกลับมามีอินซูมและเอ้าท์ซูมผิดปกติวิสัยของกล้องวงจรปิด และอีกประเด็นหนึ่งผู้ต้องหาจำนวน 5 คนที่ถูกจับทั้งหมด อดีตเป็นผู้ถูกคุมประพฤติที่สำนักงานคุมประพฤติ จ.นครศรีธรรมราช ข้อมูลเหล่านี้มีแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้บอกผมมาแต่ผมยังไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นจริงถือว่าเป็นอีกเช่นกัน
“สาเหตุการตายของนายฉวี ลึกๆผมเชื่อว่ามาจากปัญหาที่ดินชใน จ.พังงา การทำบ่อทราย ผมเชื่อเรื่องนี้ผมยืนยันผมเชื่อเรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น เรื่องอื่นผมไม่เชื่อ ถ้าเป็นเรื่องของชู้สาว ผมเป็นผู้ชายทำไมผมต้องขับรถไปนอนบ้านผู้หญิงทำไมผมไม่นัดไปที่โรงแรมไม่ดีกว่าหรือ เรื่องชู้สาวผมไม่เชื่อโดยเด็ดขาด และผมจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและใช้ความเป็นทนายความในการติดตามเรื่องนี้จนถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในกลุ่มข้าราชการระดับสูงซึ่งเป็นเพื่อน ๆ ของนายฉวี ได้เปิดกลุ่มไลน์คุยกันถึงเรื่องการตายของยายฉวี โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างละเอียด โดยทั้งหมดเชื่อว่าการตายของนายฉวี มาจากความขัดแย้งกับกลุ่มอิทธิพลและข้าราชการขั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดพังงาคนหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเรื่องการทำธุรกิจบ่อดิน บ่อทราย ของกลุ่มนายทนอิทธิพลกลุ่มหนึ่งที่มีพื้นเพเดิมเป็นคนที่ไปจากอำเภอเขตลุ่มน้ำปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชกลุ่มหนึ่ง จนมีการแต่งตั้งให้นายฉวี ตรวจสอบจนพบความผิดอย่างชัดเจน แต่ปรากฏว่าข้าราชการระดับสูงในจังหวัดพังงาคนหนึ่ง ต้องการช่วยเหลือกลุ่มนายทุน ในขณะที่นายฉวี ไม่ยอมจนเกิดเป็นความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นนายฉวี ทุบโต๊ะประกาศจะต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง สร้างวามโกรธแค้นให้กับกลุ่มนายทุนและข้าราชการระดับสูงคนดังกล่าวเป็นอย่างมาก
“ จึงเชื่อว่ากลุ่มนายทุนบ่อดิน บ่อทรายและข้าราชการคนดังกล่าวจะอยู่เบื้องหลังการวางแผนฆ่านายฉวี โดยใช้เครือข่ายผู้ที่เคยถูกคุมประพฤติในจังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นเครื่องมือ และในกลุ่มคนร้ายทั้ง 5 คนที่ถูกจับกุมผู้ที่รับรู้ข้อเท็จจริงและรับงานฆ่าโหดนายฉวีในครั้งนี้มีเพียงนายอดิศักดิ์ หรือหมู ทองสมจา เพียงคนเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะหลังก่อเหตุมีการนำศพไปยัดถังโปกปูนที่บ้านของนายอดิศักดิ์ หรือหมู ในท้องมที่หมู่ 15 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุใน ต.ท่าขนาน อ.เชียรใหญ่เกือบ 50 กม.
นอกจากนี้ทุกฝ่ายสงสัยในพฤติกรรมการสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามปกป้องไม่ดำเนินคดีใด ๆ น.ส.ณัฐนันท์ หรือเรย์ อินทร์ดำ เมียของนายอดิ ศักดิ์ หรือหมู ทั้ง ๆ ที่ น.ส.ณัฐนันท์ เป็นตัวการที่แชทข้อความล่อลวงนายฉวี ไปพบที่บริเวณท่าน้ำข้าง สภ.เชียรใหญ่ ก่อนที่จะขึ้นรถนายฉวี พาไปที่บ้านของตัวเอง นำไปสู่การฆ่านายฉวี ด้วยการทุบตีกระทำทารุณกรรม โดยนายฉวี อยู่ที่บ้านเกิดเหตึนานถึง 10 ชม.ก่อนถูกหามมาบรรทุกรถกระบะพาไปยัดถังโปกปูน ซึ่งตามรูปการแล้ว น.ส.ณัฐนันนท์ หรือเรย์ น่าจะเป็นคนร้ายคนแรกที่ตำรวจควรจะออกหมายจับเสียด้วยซ้ำ จึงเป็นข้อพิรุธที่น่าสงสัยของคนทั่วไปมากที่สุดในขณะนี้.ซึ่งข่าวคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
6 ก.ย. 2559