( 26 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.คืนที่ผ่านมา (25 ส.ค.) ร.ต.อ.สุรชัย ตันจรูญ รอง สวป.ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจ สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่าพบวัตถุระเบิดบริเวณซอยสันติ ชุมชนหน้าแขงการทางนครศรีธรรมราช ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.พ.ต.ท.ณัฐวิทย์ โอทอง รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ธีระพล พุ่มชัย สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมรารีบรุดไปตรวจสอบ พบที่เกิดเหตุอยู่ข้างร้านขายของชำในชุมชน โดยมีชาวบ้านจำไนวนหนึ่งตั้งวงดื่มเหล้าและพูดคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน ส่วนระเบิดที่พบถูกขว้างทิ้งไปอยู่ในพงหญ้าริมถนน ห่างจากบ้านของประชาชนไม่ถึง 5 เมตร
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันผู้คนที่พลุกพล่านออกไปห่าง ๆ จากนั้นได้นำล้อยางรถยนต์ไปครอบวัตถุระเบิดลูกดังกล่าวเอาไว้ ในขณะที่ พ.ต.ต.ธีระพล พุ่มชัย สวป.ได้เข้าไปสำรวจตรวจสอบระเบิดลูกดังกล่าวอย่างระมัดระวัง พบเป็นลูกกระสุนสังหารหัวระเบิดแบบ M406 ซึ่งใช้กับเครื่องยิงระเบิดชนิด เอ็ม 79 โดยพบว่าปลอกสีทองครอบหัวกระสันสีทองขนาด 40 มม.ถูกถอดออกแล้ว และวางอยู่ริมถนน ทำให้เห็นกลไกภายในส่วนหัว ลูกระเบิด และจากสังเกตจานท้ายลูกระเบิดยังไม่มีรอยเข็มแทงชนวนจากเครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 แต่อย่างใด แต่กระสุนสังหารหัวระเบิดลูกดังกล่าวพร้อมที่จะทำงานระเบิดขึ้นได้หากได้รับการกระทบกระเทือน ทำให้ยากต่อการเก็บกู้และต้องให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดหรือ อีโอดี.ที่มีความเชียวชาญโดยเฉพาะมาทำการตรวจสอบเก็บกู้ ในเบื้องต้นได้นำยางรถยนต์มาวางครอบลูกระเบิดเอาไว้ 3 ชั้น เพื่อป้องกันสะเก็ดระเบิดหากเกิดการระเบิดขึ้น พร้อมทั้งใช้เชือก Polic Line กั้นบริเวณที่เกิดเหตุและติดป้ายห้ามเข้าไว้อย่างชัดเจน เพื่อรอการประสานชุดอีโอดี ตชด.42 มาทำการเก็บกู้ต่อไป
โดย พ.ต.ต.ธีระพล พุ่มชัย จึงได้โทรศัพท์ประสาน พ.ต.อ.นิคม พลประสิทธิ์ ผกก.ตชด.42อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดี ตชด. 42 จำนวน 4 นายเดินทางตรวจสอบและเก็บกู้กระสุนสังหารหัวระเบิดลูกดังกล่าว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีจึงเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และเข้าทำการตรวจสอบเก็บกู้ระเบิดลูกดังกล่าวท่ามกลางการลุ้นระทึกของชาวบ้านที่แม้เวลาจะเกือบเที่ยงคืนยังออกมาดูการเก็บกู้ระเบิดของเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมากแต่ต่างยืนลุ้นอยู่ห่าง ๆ เพราะเกรงจะได้รับอันตรายหากเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
เจ้าหน้าชุดอีโอดี ได้ใช้กาวตีช้างหยอดลงไปในหัวระเบิดเพื่อหยุดและตัดวงจรการทำงานของกลไกลในหัวระเบิด รอจนมั่นใจว่ากาวแห้งดีแล้วจึงหยิบกระสุนหัวระเบิดลูกดังกล่าวมาใส่ในขวดพลาสติกพร้อมใส่ทรายลงไปในขวดเพื่อลดการสั่นสะเทือน ก่อนนำไปทำลายทิ้งตามวิธีการและขั้นตอนต่อไป
นายเกษม รอดมณี อายุ47ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/39 ซอยสันติ ชุมชนหน้าแขวงการทาง ฯ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาหลานชายได้ไปตัดหญ้าปรับพื้นที่ปลูกผักและได้พบกระสุนหัวระเบิดลูกดังกล่าว จึงนำมาให้พวกตนดูในวงเหล้า โดยไม่มีใครทราบว่าเป็นกระสุนหัวระเบิดที่เป็นอันตรายร้ายแรง ตนและเพื่อนร่วมวงเหล้าพยายามหาตัวเลขจากระเบิดลูกดังกล่าวเพื่อนำไปเสี่ยงโชคแทงหวย แต่ไม่พบเลขใด ๆ จึงแกะฝาครอบหัวกระสุนสีทองออกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนกระทั้งเวลาผ่านไปกว่า 2 ชม.เจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นายหนึ่งขับรถ จยย.ผ่านมาตนจึงเรียกให้จอดรถและนำระเบิดลูกดังกล่าวไปสอบถามว่าเป็นอะไร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวบอกว่าเป็นระเบิดและอาจจะเกิดระเบิดสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ ด้วยความหวาดกลัวตนจึงรีบขว้างระเบิดดังกล่าวทิ้งไปในพงหญ้าริมถนนดังกล่าว
“ถือว่าตนและเพื่อนร่วมวงเหล้ารวมทั้งชาวบ้านนับสิบคนที่มาห้อมล้อมดูระเบิดลูกนี้โชคดีมากที่นำระเบิดมาเล่นอยู่นานกว่า 2 ชม.และยังแกะเอาปลอกครอบหัวสีทองออกมาแต่ระเบิดไม่ระเบิด หากมันเกิดระเบิดขึ้นมาคงบาดเจ็บล้มตายกันเกลื่อนบริเวณแน่ และถ้ารู้ว่าเป็นระเบิดร้ายแรงอย่างนี้ตนคงไม่กล้านำมาเล่นอย่างนี้แน่นอน ตนและชาวบ้านรอดตายมาได้อาจจะเป็นเพราะบารมีของพระเครื่อง 3 องค์ โดยเฉพาะห่อปู่ทวด วัดช้างให้ที่ตนห้อยคออยู่ก็เป็นได้ “ นายเกษม กล่าวย้ำพร้อมควักพระเครื่อง 3 องค์ออกมาโชว์ก่อนเดินกลับบ้านไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
26 ส.ค. 2559