เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ส.ค.2559 ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้มีชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านใน อ.สิชล รวมจำนวนกว่า100คน ได้เดินทางมารวมตัวกันถือป้ายข้อความ “กำนันผู้ใหญ่บ้านรักนายวชิระ พันดุสะ” และข้อความ “กำนันผู้ใหญ่บ้านสิชลเราเรียกร้องขอนายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอของเรากลับคืนมา” ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อเย็นวานนี้(9 ส.ค.) ทางอธิบดีกรมการปกครองได้มีคำสั่งย้ายด่วนนายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล ให้ไปช่วยราชการที่กรมการปกครองตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.2559 สาเหตุมาจากเรื่องที่มีผู้ถ่ายคลิปผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งในพื้นที่ อ.สิชล ขึ้นพูดในที่ประชุมประจำเดือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ในทำนองว่าได้ฟังชาวบ้านพูดกันตามร้านเหล้า ร้านน้ำชา เกี่ยวกับความล่าช้าของการดำเนินการในโครงการประชารัฐของรัฐบาลในอำเภอสิชล จึงขอร้องอย่าให้มีการจ่ายค่าหัวคิวดังกล่าว และผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ก้มลงกราบกลางห้องประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านจนกลายเป็นกระแสข่าวฮือฮาจนมีสื่อมวลชนนำไปขยายความเสนอข่าวกว้างขวาง จนอธิบดีกรมการปกครองมีคำสั่งให้ย้ายนายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล และนายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอชะอวด ซึ่งเป็นนายอำเภอสิชลคนเก่า ไปช่วยราชการที่กรมการปกครองดังกล่าว
นายสมศักดิ์ นิลพงค์ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล กล่าวว่า ทางชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ.สิชล เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของนายวชิระ พันดุสะ เพราะเพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งแค่ 6 เดือนและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม แก้ไขปัญหาที่คาราคาซังในพื้นที่หลายเรื่องจนสำเร็จ เป็นที่รักใคร่ของประชาชน เรื่องที่เกิดขึ้นนายสัมพันธ์ คนดี ผู้ใหญ่บ้าน สอบถามเรื่องที่ชาวบ้านพูดคุยกันตามร้านเหล่าร้านน้ำชาว่ามีจริงหรือไม่ และขอร้องว่าอย่าให้มีใน อ.สิชล ก่อนก้มกราบนายอำเภอในที่ประชุมตามที่ปรากฏในคลิป จึงไม่ได้หมายความว่านายอำเภอมีการเรียกเก็บค่าหัวคิวจริงตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว
ในขณะที่นายชนินทร์ ขำสุข ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.เปลี่ยน อ.สิชล กล่าวว่าชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านใน อ.สิชล ขอเรียกร้องไปยังอธิบดีกรมการปกครองให้ย้ายนายวชิระ พันดุสะ นายอำเภอสิชล ส่งนายวชิระ กลับคืน อ.สิชล โดยเร่งด่วน เพราะชาวสิชล รอคอยมาเป็นเวลานานกว่าจะได้นายอำเภอที่ดีอย่างนายวชิระ จากนั้นม็อบกำนันผู้ใหญ่บ้านจะสลายตัวไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านหลายคนที่ร่วมเรียกร้องทวงคืนนายอำเภอถึงกับหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจกับคำสั่งย้ายนายอำเภอสิชล ในครั้งนี้ โดยในการรวมตัวเรียกร้องไม่ได้พบกับนายวชิระ เพราะนายวชิระ ต้องรีบเดินทางเข้าไปรายงานตัวที่กรมการปกครองตั้งแต่เช้าตรู่ของวันเดียวกันนี้ แต่กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาทุกประการ แต่อยากเรียกร้องให้สังคมใช้วิจารณะญาณในการพิจารณาคลิปและข่าวทั้งหมด ตนต้องขอความเป็นธรรมเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
ทางด้านนายพิทักษ์ บริพิศ นายอำเภอชะอวด ที่ถูกหางเลขโดนย้ายในคราวเดียวกันด้วย กล่าวว่า ตนเป็นงงมาก เหตุคลิปฉาวที่ อ.สิชล แต่ทำไมผมจึงโดนผลกระทบไปด้วย ไม่ทราบว่ากรมการปกครองเขาคิดอย่างไรจึงทำให้ผมพลอยโดนหางเลขมีคำสั่งย้ายไปด้วยทั้งๆ ที่ ผมตั้งใจทำงานชะอวดโครงการเร่งด่วนของรัฐบาลสามารถเบิกจ่ายเงินได้บรรลุผลตามเป้าหมายภายในห้วงระยะเวลาที่กำหนดมีความถูกต้องเกิดประโยชน์แก่ประชาชนเช่นโครงตำบลละ 5 ล้านบาทอยู่ในลำดับที่ 2 ของจังหวัดและโครงการหมู่บ้านละ 2แสนก็เบิกจ่ายงบประมาณอยู่ในลำดับที่ ใน 5 ของจังหวัด รวมทั้งงานโครงการอื่น ๆ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาพื้นที่ เช่นภัยแล้ง ไฟไหม้ป่าพรุ การท่องเที่ยวชุมชนการพัฒนาอาชีพ การกีฬาและการรณรงค์ออกเสียงประชามติเป็นต้น มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ คำสั่งย้ายไม่น่าจะเป็นธรรมกับผม ซึ่งคนสังคมพลอยเข้าใจผิดผมไปด้วย โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้โทรมาบอกและให้กำลังใจผม อย่างไรก็ตามผมพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ล่าสุดกรมการปกครองได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา357 11 38 อนุ9 ขอแต่งตั้งนายชัยรัตน์ กีรติสกุลกานต์ ไปรักษาการในตำแหน่งนายอำเภอสิชลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /สายัณห์ ศรีใหม่ /นครศรีธรรมราช
10 ส.ค. 2559