(4 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 3 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา ที่บริเวณแม่น้ำปากพนัง หน้าสถานีตำรวจน้ำปากพนัง(ส.รน.5)กก.6 บก.รน. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมาตรวจสอบและแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 3 ลำ ผู้ต้องหาสัญชาติไทย จำนวน 12 คน สัญชาติเวียดนาม จำนวน 12 คน และสัญชาติพม่า อีก 1 คน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 25 คน พร้อมของกลางปลิงทะเล จำนวน 200 กก.โดยมีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำปากพนัง นำโดย ร.ต.อ.อนุสรณ์ สมุทรกิตติศักดิ์ รรท.สว.ส.รน.5 กก.6 บก.รน.(ตำรวจน้ำปากพนัง) ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนามลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ทำการประมงของเรือประมงไทยเป็นอย่างมาก จากนั้นจึงได้สั่งการให้เรือตรวจการณ์ 538 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำออกลาดตระเวนและตรวจสอบเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน3ลำซึ่งเป็นเรือประมงคราดปลิงทะเล กำลังคราดจับปลิงทะเล ในท้องทะเลอ่าวไทยบริเวณเกาะกระ เขต อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับเรือประมงคราดปลิงทะเลขนาดใหญ่จำนวน 3 ลำที่ตำรวจน้ำปากพนักเข้าจับกุมได้พบว่าเป็นเรือเวียดนามที่ถูกทาสีอำพรางใช้ชื่อเป็นเรือไทย และติดธงชาติไทยเป็นสัญลักษณ์ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่และกองเรือประมงไทย ในการจับกุมเรือทั้ง 3 ลำพบว่ามีแรงงานทั้งไทย พม่าและเวียดนามจำนวน 25 คนดังกล่าว ส่วนไต้ก๋งทั้ง 3 ลำเป็นชาวเวียดนามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตามความผิด พรบ.ค้ามนุษย์ส่งดำเนินคดีตามกม.ไปแล้ว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ แถลงว่า ในการสอบสวนพบว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการล่อลวงแรงงานชาวไทยลงไปทำประมงในเรือเวียดนามนามทั้ง 3 ลำเป็นนายทุนชาวไทยที่รู้จักในนาม “เสี่ยยศ” ซึ่งมีธุรกิจเรือประมงในจังหวัดสงขลา และเป็นนายทุนลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทยด้วย โดยเสี่ยยศมีความเชื่อมโยงกับนายทุนผู้ค้าปลิงทะเล ในประเทศเวียดนามซึ่งเป็นธุรกิจที่กำลังเฟื่องฟู เจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายหน้าที่เป็นลูกน้องของเสี่ยยศแล้ว 2 รายคือนายสุรศักดิ์ แก้ววิมล และนายสามิตร บุญส่ง ซึ่งเป็นผู้จัดหาล่อลวงแรงงานไทยแล้วนำไปส่งให้ลงเรือเวียดนามในอ่าวไทยบริเวณเกาะกระ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเรือทั้ง 3 ลำ
พลตำรวจเอกศรีรวราห์ รังสิพราหมณ์กุล รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ได้เร่งให้พนักงานสอบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การยึดทรัพย์โดยเฉพาะเครือข่ายเรือของ “เสี่ยยศ” อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการสืบสวนสอบสวนหากสาวโยงไปถึงผู้ใดต้องดำเนินการเต็มร้อยเปอร์เซ็น และการที่ประเทศการขยับจากกหารจัดอันดับเทียร์ 2 ไปสู่เทียร์ 1 นั้น จะต้องร่วมกันหลายฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปฏิบัติการเต็มร้อยเจอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามจับกุมทุกกรณี และในภาพรวมนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่กระทำความผิดซึ่งอาจจะเข้าข่ายเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
4 ส.ค. 2559