วันนี้(1 ก.ค.59) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมศรีปราชญ์ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการในการนำเสนอวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช(พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช) เพื่อขึ้นบัญชีเป็นเป็นมรดกโลก ประจำปี 2559 ครั้งที่ 5/2559 โดยที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าในการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์จากสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช และการจัดทำเอกสารประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจการบูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช และการจัดทำเอกสารฉบับสมบูรณ์การนำเสนอพระบรมธาตุฯ เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก
นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เพื่อตอบข้อสงสัยของพี่น้องประชาชนในการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชของกรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ที่ประชุมคณะกรรมการฯ จึงได้มีมติเห็นชอบให้จัดทำเอกสารแผ่นพับประชาสัมพันธ์การบูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช โดยมีเนื้อหาที่ประกอบด้วย สภาพความชำรุด วิธีการบูรณะ ระยะเวลาการบูรณะ งบประมาณที่ใช้ในการบูรณะ โดยจะมีการแจกจ่ายไปยังหน่วยงานภาครัฐ บริษัทห้างร้านต่าง ๆ สถานศึกษา ประชาชนทั่วไป รวมทั้งสื่อมวลชนเพื่อขอความร่วมมือในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อทุกแขนงให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้จัดซื้อหนังสือ 100 ปี สถาปนาพระอารามหลวง พ.ศ. 2459 – 2559 วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 500 เล่ม โดยจะมีการแจกจ่ายไปยังโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษาและโรงเรียนขยายโอกาสในจังหวัด ห้องสมุดประชาชนอำเภอ ห้องสมุดมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ และเก็บสำรองไว้ที่จังหวัด 50 เล่ม เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราชในวาระต่าง ๆ นอกจากนี้ที่ประขุมยังได้รับทราบความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังภายในวัดพระมหาธาตุฯ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการออกแบบและประมาณการ
ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า จากการที่ตนได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการนำเสนอแหล่งมรดกโลกของกรมศิลปากรเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ที่ กรมศิลปากร ซึ่งคณะกรรมการได้แนะนำให้มีการขุดค้นทางโบราณคดีและวิเคราะห์เพิ่มเติมอีก 12 จุด ได้แก่ วิหารโพธิ์ลังกา วิหารโพธิ์พระเดิม วิหารเขียนและวิหารพระทรงม้า วิหารธรรมศาลา วิหารคด และเจดีย์ราย จึงต้องประสานไปยังกรมศิลปากรในการดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป รวมทั้งการจัดทำหนังสือต่าง ๆ ว่าด้วยวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อใช้เป็นภาคผนวกของเอกสารฉบับสมบูรณ์ หรือ Nomination Dossier
นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปีงบประมาณ ในช่วงเดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน 2559 บูรณะองค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่เป็นปูนตำจนแล้วเสร็จ โดยมีการขัดล้างและกะเทาะสีอะคริลิคสีขาวที่ทาองค์พระบรมธาตุออกทั้งหมด แล้วใช้วัสดุปูนตำเพียงชนิดเดียว ช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2559 สร้างห้องคลัง(ห้องนิรภัย) สำหรับประดิษฐานและเก็บรักษาโบราณวัตถุและวัสดุสำคัญต่าง ๆ และจัดซื้อทองคำเพื่อใช้ในการบูรณะ ส่วนที่ 1 ซึ่งเป็นบัวคว่ำบัวหงาย เดือนตุลาคม 2559(ปีงบประมาณ 2560) จัดซื้อทองคำเพื่อบูรณะส่วนที่เหลือ และดำเนินการบูรณะปลียอดทองคำ กลีบบัวคว่ำบัวหงาย รวมทั้งรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมด ซึ่งทองคำที่จัดซื้อใหม่จะใช้วิธีพิเศษเพราะราคาทองคำมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยซื้อและรีดแผ่นจากภาคเอกชนที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากกรมธนารักษ์ตอบยืนยันแล้วว่าไม่สามารถจัดหาทองคำและรีดแผ่นทองคำให้ได้ตามกำหนด เพราะมีภารกิจในการผลิตเหรียญกษาปณ์ สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการบูรณะ ปีงบประมาณ 2559 จำนวน 30 ล้านบาท(งบกลุ่มจังหวัด) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 จำนวน 30 ล้านบาท (งบกรมศิลปากร) ส่วนทองคำที่มีผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯ ถวายผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นั้นทางกรมศิลปากรและจังหวัดนครศรีธรรมราช จะได้ประสานอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาการจัดสร้างเข็มขัดทองคำรัดกลีบบัวคว่ำบัวหงาย ให้มีความมั่นคงแข็งแรงและมีรูปแบบที่เหมาะสมงดงามต่อไป
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
1 กรกฎาคม 2559