จากกรณีที่ขาดแคลนน้ำประปาในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชมานานเกือบ 2 เดือนแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในเขตเทบาลนครศรีธรรมราชไปทั่วทุกหลังคาเรือน รพ.มหาราชขาดแคลนน้ำจนประสบปัญหากับระบบการรักษาพยาบาลที่ระบบที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จนมีการประกาศเขตเทศบาลเป็นเขตประสบภัยพิบัติฉุกเฉินครั้งแรกในประวัติศาลเมืองนครศรีธรรมราช โดยชาวบ้านเชื่อว่าสถานการณ์ขาดแคลนน้ำเป็นแค่วิกฤติลวงที่เทศบาล ฯต้องการหาเหตุผลในการนำโครงการให้เอกชนสัมปทานผลิตน้ำขายให้กับเทศบาล ฯสัญญา 30 ปี ที่จะเปิดประชุมสภาเทศบาล ฯเพื่อขอมติจากสภา ฯในวันที่ 18 พ.ค. 2559 โดยชาวบ้านไม่เห็นด้วยและระบุว่าเป็น “สัญญาทาส”พร้อมนัดรวมตัวประท้วงต่อต้านสัญญาทาสพร้อมบุกห้องประชุมสภาเทศบาล ฯที่กำลังพิจารณาญัตติโครงการซื้อน้ำจากเอกชน 30 ปี จนสภาล่ม ก่อนเข้าร้องเนียนศูนย์ดำรงธรรมให้เสนอ คสช.ปลดนายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีพ้นตำแหน่ง ตามที่เสนอข่าวไป
(19 พ.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายเชาวน์ เสนพงศ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในกรณีดังกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง โดยคนที่มีเป้าหมายจะลงเลือกนายกเทศมนตรีแข่งกับตนอย่างน้อย 3 คนบงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งโครงการให้เอกชนผลิตน้ำประปาให้เทศบาล ฯ สัญญา 30 ปี เอกชนเป็นตนลงทุนเองทั้งหมด เทศบาล ฯไม่ได้ลงทุนแม้แต่บาทเดียว ครบสัญญา 30 ปีทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นของเทศบาล ฯ ปัญหาน้ำประปาเทศบาล ฯมีแนวทางแก้ปัญหา 3 แนวทางประกอบด้วย เทศบาล ฯต้องจัดหาทุนอย่างน้อย 500 ล้านเพื่อซื้อที่ดินทำแหล่งน้ำ ในประเด็นนี้ยกไปได้เลยเพราะเทศบาล ฯไม่มีเงินมากเพียงพอ แนวทางที่ 2 คือการให้เอกชนผลิตน้ำพร้อมใช้ส่งให้เทศบาล ฯซึ่งตนเลือกแนวทางนี้เพราะเทศบาล ฯไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลย ส่วนประเด็นที่ 3 คือโอนกิจการประปาให้การประปาส่วนภูมิภาค แนวทางนี้ประชาชนต้องใช้น้ำราคาแพงหน่วยละ 11-12 บาท
สำหรับการบุกสภา ฯจนไม่สามารถพิจารณาญัตติได้เพราะทางปรานสภา ฯสั่งปิดการประชุม อย่างไรก็ตามจะมีการนำโครงการนี้เข้าสู้การพิจารณาในสภา ฯอีกครั้งหรือไม่ขึ้นอยู่กับประธานสภาที่จะกำหนดวันประชุมใหม่อีกครั้ง ซึ่งไม่ทราบว่าจะเป็นวันไหน
ส่วนร้าน Pixzel Caffe หน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นายเดชฤทธิ์ ลี้วัฒนากุล อดีตรองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช ซึ่งเพิ่งลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 17 พ.ค 2559 ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า หลังจากตนประกาศลาออกจากตำแหน่งนายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรี ส่งข้อความผ่านกลุ่มไลน์ระบุว่าได้ไล่ตนออกจากตำแหน่ง เพราะตนบริหารน้ำประปาผิดพลาด ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนเข้ามาบริหารกิจการประปาแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่คาราคาซังเป็นผลสำเร็จ ทั้งการเก็บค่าน้ำประปาสูงเกินจริงจากเดิมไม่กี่สิบบาทสูงเป็นหลักพันหลักหมื่นและหลาย ๆ หมื่นรวมทั้งปัญหาอื่น ๆ แต่การขาดแคลนน้ำประปาซึ่งปีนี้ฝนไม่ตกต่อเนื่องนานผิดปกติ ยอมรับว่าฝนทิ้งช่วงเนินเกินที่เราคาดการเอาไว้ แต่หากมีการเตรียมการ วางแผนเพื่อการบริหารจัดการที่ดีคงไม่วิกฤติถึงขนาดนี้
“หลายแนวทางที่ตนนำเสนอเพื่อให้ผู้มีอำนาจอนุมัติ ไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ แต่หลายโครงการที่ต้องใช้เงินมาก ๆ ทางผู้บริหารและหัวหน้าส่วนกลับแอบทำกันเองโดยตนไม่ทราบเรื่องด้วย และหลายโครงการเป็นการใช้งบประมาณที่เปล่าประโยชน์ ขนาดเมื่อวานนี้มีญัตติที่เพิ่งบรรจุเข้าสภา ฯโดยสมาชิกสภาเองก็เพิ่งทราบแต่ก็มีมติเห็นชอบโครงการต่อท่อประปาถาวรสูบน้ำจากบ่อเอกชนมูลค่ากว่า 3 ล้าน ทั้ง ๆ ที่เจ้าของบ่อเขายังไม่ตกลงให้ดำเนินการ เขาแจ้งความประสงค์บริจาคน้ำในบ่อให้ชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติในระยะนี้ แต่ผู้มีอำนาจในเทศบาลกลับโมเมบรรจุโครงการนี้เข้าไป ถามว่างบประมาณผ่านสภา 3 ล้านบาทเศษ แต่ไม่มีพื้นที่ให้ดำเนินการจะทำอย่างไร”
นายเดชฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้ามารับผิดชอบเรื่องการประปาก็จริง แต่กลับไม่มีอำนาจในการตัดสินใจใด ๆ ตนเจ็บปวดใจทุกครั้งที่เห็นประชาชนหิ้วหรือบรรทุกภาชนะใส่น้ำตระเวนหาน้ำมาใช้อุปโภคบริโภค หากผู้บริหารผู้มีอำนาจในเทศบาล ดำเนินการตามแนวทางที่ตนเสนอรับรองว่าแม้จะไม่สามารถบริหารจัดการให้ประชาชนใช้น้ำตามปกติ 100 เปอร์เซนต์ แต่จะไม่ถึงขั้นวิกฤติขาดแคลนน้ำจะไม่เกิดขึ้นรุนแรงถึงขนาดนี้ และที่สำคัญโครงการให้เอกชนผลิตน้ำขายเทศบาล ฯสัญญา 30 ปี นั้นตนเคยทวงติงให้นายกเทศมนตรีและคระผู้บริหารทบทวน จนข้อมูลถูกเผยแพร่ออกไปสู่ประชาชนและสมาชิกสภา ฯทำให้การพิจารณาครั้งก่อนเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2558 จนสภาไม่อนุมัติโครงการ นายก ฯ ไม่พอใจตนกล่าวหาว่าเป็นคนส่งข้อมูลให้กับสมาชิกสภา ฯ ซึ่งจริง ๆ ตนจะลาออกตั้งแต่ครั้งที่แล้ว
“เวลาพูดก็จะอ้างว่าไม่ต้องลงทุน และซื้อน้ำราคาถูกกว่าการประปาภูมิภาค แค่ลูกบาศ์กเมตรไม่เกิน 5 บาท ซึ่งยกตัวเลขมาพูดไม่หมด เอามาเฉพาะสัญญาในปีแรก แต่ในปีต่อไปราคาค่าน้ำที่เก็บจากประชาชนตามสัญญาราคาสูงขึ้นทุกปี ปีที่ 5 ปีที่ 10 หรือในช่วง 4-5 ปีหลัง ๆ ราคาพุ่งไปอยู่ที่ลูกบาศ์กเมตรละ 12-13 บาททำไมไม่พูดให้หมด แค่บอกว่าซื้อมาขายไปแต่กลับไม่พูดว่าจะต้องบวกค่าดำเนินการอีกหลายส่วนทั้ง ค่าจ้างเจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ เก็บค่าน้ำ ปีละกว่า 1 ล้านบาท ค่าซ่อมบำรุงท่อปีละกี่ล้าน มันมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆมากมายที่ทางเทศบาลจะต้องบวกเข้าไปและเรียกเก็บจากประชาชนผู้ใช้น้ำ มันไม่ใช่ซื้อมาเท่าไหร่แล้วขายประชาชนเท่านั้น ทำไมไม่พูดให้หมด ที่สำคัญโครงการถูกตีตกไปแล้วแต่กลับมานำเข้าพิจารณาในสภาอีกครั้งและขอให้ตนเป็นคนชี้แจงในสภา เมื่อไม่ยอมและตนท้วงติงโครงการนี้ ทำให้นายก ฯไม่พอใจโวยวายเสียงดัง ตนจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 17 พ.ค. 2559 หลังจากตนลาออก นายก ฯยังสั่งให้รองนายก ฯอีกท่านหนึ่งมาพบตนเพื่อขอร้องไม่ให้ลาออก แต่ตนยืนยันที่จะลาออก แต่ตัวนายกนายก ฯกลับไปส่งข้อความในกลุ่มไลน์ว่าไล่ผมออกเพราะผิดพลาดเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับผมเลย ทำให้ผมกลายเป็นแพะรับบาป แต่เชื่อว่าประชาชนในเขตเทศบาลทราบดีว่าผมทุ่มเทกับการแก้ไขปัญหาน้ำประปามากขนาดไหน ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปามันเกิดขึ้นเพราะ “สวรรค์เบี่ยง” นายเดชฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายเป็นปริศนา
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าการขาดน้ำอุปโภค บริโภค ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งโรงพยาบาล บ้านเรือนประชาชน และสถานศึกษา ล่าสุดวิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช ได้ประกาศสั่งหยุดการเรียนการสอนเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 – 27 พ.ค.2559 เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งครู บุคลากรทางการศึกษาจำนวนกว่า 4,000 คน ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำใช้ที่มีไม่เพียงพอส่งผลกระทบให้นักเรียนหลายคนป่วยเป็นโรคระบบทางเดินปัสสาวะหลายคน
นายสุรพล โชติธรรมโม ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษานครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำส่งผลกระทบต่อวิทยาลัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากระบบน้ำประปาของเทศบาลไม่สามารถจ่ายน้ำให้วิทยาลัยได้ตามปกติ ทำให้ปริมาณไม่มีเพียงพอกับความต้องการของนักเรียน วิทยาลัยมีที่เก็บน้ำ 30,000 ลิตร ซึ่งได้รับการช่วยเหลือเรื่องน้ำจากหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น วิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช อบจ.นครศรีธรรมราช แต่ก็ไม่เพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากวิทยาลัยมีนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรวิทยาลัยที่มีกว่า 4,000 คน ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่วิทยาลัยพยายามหาทางออก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำใช้ในวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหาทางวิทยาลัยจึงประกาศปิดการเรียนการสอน ตั้งแต่วันที่ 23 – 27 พ.ค. 2559เพื่อหาทางแก้ปัญหาเรื่องน้ำใช้ และเพื่อสุขภาพที่ดีนักเรียน นักศึกษา เพราะล่าสุดมีนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษาผู้หญิง ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินปัสสาวะหลายคน หากยังเปิดเรียนตามปกติจะเกิดผลกระทบรุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน”
ด้านนายอมรเทพ ทิพย์รัตน์ นักศึกษาระดับ ปวส.2 สาขาวิชาคหกรรม กล่าว่า ตอนนี้ไดรับความเดือดร้อนเรื่องน้ำใช้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาปัสสาวะ อุจาระ ในห้องน้ำไม่มีเลย ก๊อกน้ำไม่ไหล ช่วงเช้านักการ ฯทางวิทยาลัย นำถังน้ำใสน้ำวางภายในห้องน้ำ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากมีนักเรียน มาก ต่างกันก็แย่งเข้าห้องน้ำ น้ำในถังทีวิทยาลัยเตรียมไว้หมดภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ตอนนี้นักเรียนนักศึกษาทะเลาะวิวาทแย่งน้ำกันแล้ว ใครเข้าห้องน้ำหลังก็ไม่มีใช้ ในขณะที่นักเรียน นักศึกษา ที่มีเงินก็จะซื้อน้ำขวดมาใช้ส่วนตัวนำไปใช้ในเวลาเข้าห้องน้ำ แต่หลายคนต้องทนอั้นปัสสาวะ อุจจาระ ไว้และกลับไปปัสสาวะ อุจนาระที่บ้านหรือหอพัก จนเพื่อน ๆ หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงป่วยเป็นโรคท่อปัสสาวะอักเสบ จนผู้บริการต้องแก้ปัญหาโดยการสั่งปิดโรงเรียน 1 อาทิตย์ดังกล่าว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
19 พ.ค. 2559