นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามป้องกัน แก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช นำคณะทำงานฯ ประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รองนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 41 ผู้แทนสำนักชลประทานที่ 15 ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัด และผู้แทนนายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่สำรวจแหล่งน้ำดิบสำรองที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาของสำนักการประปา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เนื่องจากขณะนี้ได้ขาดแคลนแหล่งน้ำดิบอยู่ในภาวะวิกฤต
โดยจุดแรกที่คณะทำงานฯ ไปดูคือที่บ่อน้ำ ตำบลนาทราย อำเภอเมืองฯ ซึ่งแหล่งน้ำดังกล่าวอยู่ในสภาพใกล้แห้งขอดแล้ว ไม่สามารถสูบน้ำเข้าระบบได้แล้ว เนื่องจากจะทำให้บ่อน้ำตื้นของประชาชนในบริเวณใกล้เคียงแห้งขอดไปด้วย จากนั้นได้ไปดูแหล่งน้ำบ่อทราย หมู่ที่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.เมืองฯ แต่ไม่สามารถต่อท่อเข้าระบบของประเทศบาลนครฯได้เนื่องจากระยะทางไกล และใช้งบประมาณมาก แต่หากจำเป็นสามารถขอใช้สูบขึ้นรถบรรทุกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนได้ ต่อจากนั้นคณะทำงานฯได้ไปสำรวจแหล่งน้ำดิบที่บ่อน้ำในพื้นที่ตำบลท่าดี อำเภอลานสกา จำนวน 2 จุด ซึ่งเทศบาลได้เจรจาซื้อขายน้ำกับเจ้าของบ่อน้ำเรียบร้อยแล้วคือ จุดที่หนึ่ง เป็นบ่อน้ำสันยูงของนายกิตติศักดิ์ เตติรานนท์ ซึ่งทางสำนักชลประทานที่ 15 นครศรีธรรมราช กำลังเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว และเทศบาลนครฯกำลังเดินท่อส่งน้ำระยะทาง 200 เมตร เพื่อเชื่อมเข้ากับระบบท่อส่งน้ำดิบของเทศบาลนครฯไปยังโรงกรองน้ำทวดทอง คาดว่าจะสามารถสูบน้ำได้ 500 คิว(ลูกบาศก์เมตร) ต่อชั่วโมง ภายในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคมนี้ ส่วนจุดสองเป็นบ่อน้ำของอัยการวินัย อยู่ห่างจากจุดที่หนึ่งไม่มากนัก สามารถติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเดินท่อไปเชื่อมต่อกับบ่อที่หนึ่งได้ หรือสูบใส่รถบรรทุกไปแจกจ่ายให้กับประชาชนได้โดยตรงเนื่องจากคุณภาพน้ำใสมาก นอกจากนี้คณะทำงานฯ ยังได้ไปสำรวจแหล่งน้ำดิบสาธารณะของเทศบาลเมืองปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งกองทัพบกได้ขุดไว้เนื้อที่ 63 ไร่ มีปริมาณน้ำประมาณ 4 แสนคิว(ลูกบาศก์เมตร) ต่อจากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานฯ และนายกเทศมนตรีเมืองปากพูน ที่เทศบาลเมืองปากพูน เพื่อกำหนดมาตรการในการนำน้ำดิบตามแหล่งต่าง ๆ ที่สำรวจไว้ มาใช้ให้ได้เป็นรูปธรรมทันที เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนขาดแคลนน้ำประปา
นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะทำงานฯ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำรวจรถน้ำของหน่วยงานราชการในจังหวัดว่าทั้งหมดมีกี่คัน จากนั้นให้แบ่งความรับผิดชอบที่ชัดเจนในการบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามจุดรวมที่เทศบาลกำหนดไว้ และตามหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อใช้สำหรับการอุปโภค เช่น ซักผ้า ห้องน้ำห้องส้วม ล้างภาชนะ เป็นต้น โดยกำหนดให้หน่วยทหารรับผิดชอบโรงพยาบาลมหาราช สำนักงาน ปภ.จังหวัดรับผิดชอบโรงเรียนและส่วนราชการต่าง ๆ เทศบาลนครฯ รับผิดชอบบ้านเรือนของประชาชน โดยให้เทศบาลเป็นผู้รับผิดชอบค่าน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับแหล่งน้ำดิบที่สูบใส่รถบรรทุกน้ำ จะใช้บ่อน้ำของอัยการวินัย ต.ท่าดี อ.ลานสกา เนื่องจากคุณภาพน้ำใสมาก แต่หากไม่พอให้ไปใช้บ่อน้ำสาธารณะของเทศบาลเมืองปากพูน ซึ่งคุณภาพน้ำใสมากเช่นกัน แต่ได้ขอให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้นำตัวอย่างน้ำไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพ หาสารเคมีเจือปนก่อน และให้ขอรับการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 จ.ตรัง ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวต่อว่า เริ่มแรกได้กำหนดให้บรรทุกน้ำไปเติมใส่ถังที่โรงกรองน้ำประตูไชยสิทธิ์ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้น ให้การจ่ายน้ำเข้าระบบท่อประปาได้ครอบคลุมมากขึ้น แต่เทศบาลนครฯ ยืนยันว่าจะได้ปริมาณน้อยมากเพียง 1 %ของกำลังการผลิตต่อวันเท่านั้น เนื่องจากต้องเสียเวลาในการสูบน้ำใส่รถและสูบน้ำออกจากรถไปใส่ถังโรงกรองน้ำ และสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวยด้วย แต่หากแบ่งความรับผิดชอบของหน่วยงานต่าง ๆ ในการบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนตามจุดรวมที่เทศบาลนครฯ วางถังน้ำไว้ และตามหน่วยงานต่าง ๆ จะรวดเร็วและทั่วถึงกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาการผลิตน้ำประปาของโรงกรองน้ำบ้านทวดทอง หลังจากที่บ่อน้ำดิบที่ตำบลนาทรายไม่สามารถสูบน้ำขึ้นมาได้แล้วนั้น วันนี้(14 พ.ค.59) สำนักชลประทานที่ 15 ร่วมกับเทศบาลนครฯ กำลังเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเดินท่อเชื่อมกับท่อส่งน้ำดิบเดิมของเทศบาลนครฯ เพื่อสูบน้ำดิบแหล่งใหม่ จากบ่อน้ำสันยูง ต.ท่าดี อ.ลานสกา ของนายกิตติศักดิ์ เตติรานนท์ คาดว่าจะเริ่มสูบน้ำได้ภายในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคมนี้ อย่างแน่นอน ซึ่งจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนการขาดแคลนน้ำประปาของประชาชนในเขตเทศบาลนครฯ และพื้นที่ใกล้เคียงได้มากยิ่งขึ้น
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
15 พฤษภาคม 2559