วันนี้(13 พ.ค.59) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะทำงานติดตามป้องกัน แก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะทำงานเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัด ผู้แทนปลัดจังหวัด ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัด ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัด ผู้แทนผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช ผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้แทนประชาสัมพันธ์จังหวัด ประธานหอการค้าจังหวัด และผู้แทนนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช เป็นต้น โดยที่ประชุมได้ระดมความคิดเห็นอย่างกว้างขวางในการหามาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนหลังการขาดแคลนน้ำประปาในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียงโดยเร่งด่วน ซึ่งได้ข้อสรุปให้มีการระดม รถบรรทุกน้ำพร้อมบุคลากรของทุกส่วนราชการ เพื่อบรรทุกน้ำจากแหล่งน้ำดิบไปเติมที่โรงกรองน้ำประตูไชยสิทธิ์ ของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำประปาให้ได้วันละ 25,000 คิว(ลูกบาศก์เมตร) จากปัจจุบันที่ผลิตได้วันละ 11,000 คิว ให้การส่งน้ำเข้าในระบบท่อของสำนักการประปาเทศบาลนครฯ อยู่ในระดับปกติ
นายดนัย เจียมวิเศษสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะทำงานฯ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งตั้งคณะทำงานฯโดยเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำประปาของเทศบาลนครฯ เป็นการเฉพาะ ซึ่งผู้แทนของเทศบาลนครฯ ได้รายงานข้อมูลว่าเทศบาลนครฯ มีโรงกรองน้ำผลิตน้ำประปา 2 แห่ง คือโรงกรองน้ำบ้านทวดทอง มีกำลังการผลิต 25,000 คิวต่อวัน ซึ่งยังสามารถผลิตและจ่ายน้ำได้ตามปกติ เนื่องจากมีการสูบน้ำจากคลองท่าใหญ่ และแหล่งน้ำดิบสำรองที่บ้านวังก้อง และนาทราย ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 27,000-28,000 คิวต่อวัน และโรงกรองน้ำประตูไชยสิทธิ์ ปัจจุบันสามารถผลิตน้ำประปาได้เพียง 11,000 คิวต่อวัน จากปกติ 25,000 คิวต่อวัน เนื่องจากน้ำที่ไหลจากคลองท่าดีไปยังเครื่องสูบน้ำแห้งขอด ทำให้น้ำประปาไหลอ่อนถึงไม่ไหลเลย ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนให้แก่ประชาชน ที่ประชุมคณะทำงานฯได้เห็นชอบให้มีการระดมรถบรรทุกน้ำของหน่วยงานภาครัฐทุกส่วนพร้อมพนักงานขับรถ และเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำใส่รถบรรทุกน้ำดิบไปเติมในถังน้ำดิบที่โรงกรองน้ำประตูไชยฯ ให้มีกำลังการผลิตน้ำประปาใกล้เคียง 25,000 คิวต่อวัน เพื่อให้การจ่ายน้ำเข้าระบบท่อประปาเป็นไปปกติให้มากที่สุด ซึ่งจะดีกว่าการบรรทุกน้ำไปแจกจ่ายให้ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ โดยตรง โดยในวันที่ 14 พฤษภาคม 2559 เวลา 13.00 น. ตนเองพร้อมด้วยคณะทำงานและผู้ที่เกี่ยวข้องจะลงสำรวจดูแหล่งน้ำดิบสำรองของเทศบาลนครนครศรีธรรมราชที่บ้านวังก้อง และบ้านนาทราย รวมทั้งแหล่งน้ำดิบเพิ่มเติมอื่น ๆ เพื่อวางแผนในการนำน้ำดิบเข้าระบบท่อส่งน้ำของโรงกรองน้ำบ้านทวดทอง รวมทั้งการบรรทุกน้ำดิบใส่รถบรรทุกไปเติมใส่ถังน้ำดิบของโรงกรองน้ำประตูไชยสิทธิ์ เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหรือปัญหาเร่งด่วน โดยให้เทศบาลเป็นผู้สนับสนุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักชลประทานที่ 15 สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 มณฑลทหารบกที่ 41 และทุกหน่วยงานพร้อมสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ เครื่องจักรกลและบุคลากรอย่างเต็มที่
นางสาววาริน ชิณวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ปัญหาขาดแคลนน้ำประปา ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุน ดังนั้นการแก้ไขปัญหาต้องเป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งในระยะเร่งด่วน(ระยะสั้น) ระยะกลาง และระยะยาว ขณะนี้ภาคประชาชน การเมือง และเอกชน มีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นต้องมีการเปิดใจเอาข้อมูลจริงมาพูดคุยกัน
นายปราโมทย์ ช่วยบุญชู ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยานครศรีธรรมราช กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่าประเทศไทยจะมีฝนตกมากขึ้นในช่วงวันที่ 18-20 พ.ค.59 นั้น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ แต่สำหรับภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราชที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกของเทือกเขาหลวงอาจจะไม่มีฝนตกเลยก็ได้ ถ้ากำลังแรงของลมและความชื้นไม่พอ แต่ทางด้านฝั่งตะวันตกของเทือกเขาหลวงอาจจะมีฝนตกในช่วงดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม – 13 พฤษภาคม 2559 จ.นครศรีธรรมราชมีปริมาณน้ำฝนวัดได้เพียง 236.6 มิลลิเมตรเท่านั้น
นายชัยวัฒน์ ตันเจริญ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานครศรีธรรมราช กล่าวว่า หากสถานการณ์ยังคงเป็นปัจจุบัน ฝายคลองท่าดียังจะสามารถส่งน้ำให้กับสำนักการประปาเทศบาลนครฯได้อีกเพียง 7 วันเท่านั้น และหากน้ำหน้าฝายอยู่ในระดับ 1 เมตร จะไม่สามารถปล่อยน้ำได้เพราะต้องรักษาระบบนิเวศน์
นางสาวรุจิรา เทพเมือง ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในส่วนของการประปาส่วนภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช ยังไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบเพื่อผลิตน้ำประปา ซึ่งมี 2 แหล่งคือ คลองหยวด และหนองจระเข้ แหล่งละ 19 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะ แต่หากน้ำทั้ง 2 แหล่งแห้งขอด ได้เตรียมแหล่งน้ำสำรองไว้แล้วเป็นบ่อน้ำของเอกชนพื้นที่ 18 ไร่ สามารถผลิตน้ำประปาได้ประมาณ 15- 30 วัน สำหรับปัจจุบัน การประปาส่วนภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราชผลิตน้ำประปาได้ 250 คิวต่อชั่วโมง และได้จ่ายน้ำประปาให้กับส่วนราชการต่าง ๆ ที่ขอรับการสนับสนุนไปแล้ว 3.8 ล้านลิตร โดยไม่คิดมูลค่า ตามนโยบายของรัฐบาล
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
13 พฤษภาคม 2559