ความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีฆ่ายกครัวนายสุเทพ รอดสุข อายุ 29 ปี พนักงานทำโรตีร้าน “ลานนม”ถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้นายสุเทพ เสียชีวิตพร้อมลูกชายวัย 2 ขวบ ส่วนนางวาสนา โสภิณ อายุ 26 ปี ภรรยาซึ่งเป็นพนักงานเสริฟร้านเดียวกันและลูกสาววัย 7 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 พ.ค.2559 บริเวณถนนเลียบทางรถไฟ หมู่ 1 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพเมื่อเช้าตรู่วันที่ 2 พ.ค. 2559 โดยหลังศาลอนุมัติหมายจับนายศิริชัย บุรินทร์โกษฐ์ อาย 30 ปี ผู้จัดการและหลานชาย ร.ต.ท.เจริญ บุรินทร์โกษฐ์ รอง สวป.สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เจ้าของร้าน และต่อมานายศิริชัย ผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อสู้คดีโดยให้การปฏิเสธคลอดข้อกล่าวหา จนกลายเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างกว้างขวาง ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2559 ที่บ้านของนางวรรณา โสภิณ แม่ของนางวาสนา โภภิณ ภรรยาของนายสุเทพ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและกลับมาพักฟื้นที่บ้านเลขที่ 170 บ้านมะม่วงตลอด หมู่ 7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช โดยมีญาติ ๆ คอยเฝ้าดูแลนางวาสนา ที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจอย่างใกล้ชิดเกรงว่านางวาสนา จะคิดสั้นฆ่าตัวตายตามที่ได้เคยพูดไว้กับนางวรรณา และญาติ ๆ ในขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในส่วนของ สภ.เมือง และ สภ.พระพรหม คอยวนเวียนดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องเช่นกัน เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายตามฆ่าปิดปากนางวานา ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์และระบุตัวคนร้ายได้อย่างชัดเจน
ในตอนสายของวันเดียวกันนางวรรณา ได้เดินทางไปยัง รพ.มหาราช เพื่อเยี่ยมดูอาการของ ด.ญ.วิภัชชา รอดสุข อายุ 7 ขวบ บุตรสาวของนายสุเทพและนางวาสนา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เดียวกัน โดย ด.ญ.วิภัชชา มีอาการศีรษะบวม สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก แม้โดยภาพรวมอาการจะดีขึ้นแต่ยังอยู่ในขั้นวิกฤติต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
นางวรรณา กล่าวว่า ตนอยากเรียกร้องขอความช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในระหว่างที่ตนยังไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้ นายสุเทพ รอดสุข ลูกเขย หัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัวก็ถูกยิงตายไปแล้ว นางวาสนา บาดเจ็บยังทำงานไม่ได้ และไม่รู้ว่าเมื่อหายแล้วขาจะพิการทำงานได้ปกติหรือไม่ ในขณะที่ตนต้องวิ่งไปมาระหว่าง รพ.มหาราชกับบ้านพักเพื่อเยี่ยมดูอาการของ ด.ญ.วิภัชชา หลานสาว ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ และหากรอดชีวิตก็ไม่แน่ใจว่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราหรือเด็กพิการหรือไม่ ตนและครอบครัวคงได้รับความเดือดร้อนลำบากมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
“นอกจากจาก 2 ชีวิตที่ต้องสังเวยความโหดเหี้ยมของคนร้ายแล้วยังมีปัญหามากมายที่จะตามมาสร้างผลกระทบกับครอบครัวของตน แต่เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วอะไรจะเกิดก็ต้องทนสู้ชีวิตกันต่อไปและขอเรียกร้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่ช่วยติดตามคดีนี้จนถึงที่สุด แม้จะได้ตัวนายศิริชัย บุรินทร์โกษฐ์ หลานเจ้าของร้ายมาดำเนินคดีแล้ว แต่คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีมากนี้ทั้งที่ร่วมก่อเหตุ ร่วมคิดวางแผน หรือเกี่ยวข้องอื่น ๆ ตำรวจจะต้องเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้หมดทุกคน และขอเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตผู้ร่วมก่อเหตุให้ตายตกตามกัน ให้สาสมกับที่มีจิตใจเหี้ยมโหดยิงลูกเขยและหลานชายอายุแค่ 2 ขวบเสียชีวิต”
ส่วนความคืบหน้าในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ร่วมก่อเหตุในคืนวันที่ 1 พ.ค. 2559 โดยนางวาสนา ยืนยันยันว่ารถยนต์ที่ขับไล่ตามมีคนอยู่ในรถอย่างน้อย 2 คน เป็นคำให้การที่สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายในรถได้ 2 คน แต่เป็นการจับภาพด้านหลังทะลุกระจกรถจึงไม่เห็นใบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสอบสวนว่าผู้ที่ร่วมก่อเหตุที่ไปกับนายศิริชัย ผู้ต้องหาเป็นใคร โดยมีเป้าหมายต้องสงสัย 3 คน คนแรกเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่ถูกระบุว่าเป็นคนนำรถไปติดสติกเกอร์และเปลี่ยนยางและล้อแม็กซ์ และได้สอบปากคำเบื้องต้นแต่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวที่ยอมให้การว่าร่วมติดสติกเกอร์เกิดพลิกล้นกะทันหันต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดยกลับลำมาให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นคนติดสติกเกอร์และเปลี่ยนยางและล้อแม็กซ์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ยังขาดพยานหลักฐานจึงไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวไว้ จึงปล่อยตัวไปชั่วคราว
ส่วนผู้ต้องสงสงสัยอีก 2 คน เป็นเพื่อนของนายศิริชัย ผู้ต้องหา หลังจากนายศิริชัย มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนายสุเทพ หรือปู ผู้ตาย ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนได้มานั่งที่ร้านลานนม ที่นายศิริชัย ผู้ต้องหาทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนปากคำพนักงานของร้านให้การตรงกันว่าผู้ชาย 2 คนที่ต้องสงสัยมานั่งที่ร้านก่อนเกิดเหตุจริง แต่ไม่มีใครทราบว่าชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน มีเพียงนายศิริชัย ผู้ต้องหาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้จัก แต่เมื่อสอบปากคำนายศิริชัย ผู้ต้องหากลับให้การปฏิเสธที่จะให้ปากคำอ้างว่าจะขอให้ปากคำในชั้นศาล ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนต้องระดมกำลังออกแกะรอยตามหาและผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนกันเองเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับต่อกุมต่อไป ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้รายงานให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชทราบทั้งหมดแล้ว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/นครศรีธรรมราช
9 พ.ค. 2559