( 3 พ.ค.) พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าคดีนี้ตนได้คัดค้านไม่ให้ประกันตัวนายศิริชัย ผู้ต้องหารายนี้เพราะถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนมากคดีหนึ่งแม้ว่าทางผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาก็ตามแต่ตำรวจมั่นใจในพยานและหลักฐานมัดตัวแน่นหนาที่จะดำเนินคดีกับทางผู้ต้องหารายนี้ได้อย่างแน่นอน โดยในวันพรุ่งนี้(4 พ.ค.)ทางตำรวจก็จะนำตัวนายศิริชัย ผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีกจำนวนหนึ่งทางตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอขออนุมัติศาลออกหมายจับอย่างเร่งด่วนแล้ว คดีนี้ตนขอยืนยันว่าญาติผู้เสียหายไม่ต้องห่วงตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ซึ่งตนได้สั่งตำรวจชุดสืบสวนควาญหาอาวุธปืนของกลางและรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแมคซ์ ซึ่งจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการมัดตัวคนร้ายในคดีนี้ด้วย รวมทั้งเตรียมออกหมายจับคนร้ายอีกคนที่ร่วมก่อเหตุในเร็ว ๆ นี้ด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 พ.ค. พ.ต.ต.วิเชียร ชูเมือง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีพร้อมด้วย ร.ต.อ.สัมฤทธิ์ อิฏฐผล รอง สว.กก.ภาค 8 กำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.ชุด EOD จาก กก.8 บก.กฝ. ได้นำอุปกรณ์เครื่องมือในการสแกนหาปลอกกระสุนปืนที่เหลือ เดินทางไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมที่บริเวณที่เกิดเหตุพงหญ้าไหล่ทางริมถนนสายเลียบทางรถไฟ หมู่ที่ 1 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อควาญหาหลักฐานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม เนื่องจากหลังเกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 9 มม.ตกอยู่แค่ 1 ปลอกเท่านั้น ในขณะที่คาดว่าคนร้ายจะยิงนายสุเทพ และครอบครัวอย่างน้อย 5-8 นัด ทั้งนี้แม้ศาลจะอนุมัติหมายจับนายศิริชัย หรือ “ปุ๋ม ลานนม” เรียยร้อยแล้ว แต่ทางการต่อสู้คดีถือว่าตำรวจยังได้หลักฐานในที่เกิดเหตุน้อยมาก โดยพยานวัตถุมีเพียงพบปลอกกระสุนปืน 9 มม.เพียง 1 ปลอกเท่านั้น รวมทั้งหัวกระสุน 9 มม.จำนวน 3 หัวในตัวนายสุเทพ ผู้ตาย ซึ่งได้จากแพทย์ รพ.สุราษฎร์ธานี ผ่าหัวกระสุนให้ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน ดังนั้นทางตำรวจจึงจำเป็นต้องควาญหาปลอกกระสุนปืนเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีได้ใช้เครื่องสแกนหาปลอกกระสุนปืนอยู่ประมาณ 30 นาทีไม่ปลอกกระสุนปืนเพิ่มเติม โดยพบเพียงโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเอไอเอสของนายสุเทพ ผู้ตายจำนวน 1 เครื่องและเหรียญ 1 บาทจำนวน 1เหรียญ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีจะถอนกำลังกลับไป
ต่อมาเมื่อบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานที่จัดงานศพของนายสุเทพ และ ด.ช.ณรงค์ฤทธิ์ หรือ “น้องสไปร์ท”สองศพพ่อลูก ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเลขที่ 170 บ้านมะม่วงตลอด หมู่ 7 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของนางวรรณา โสภิญ อายุ 58ปี แม่ยายของนายสุเทพ และยายของ ด.ช.ณรงค์ฤทธิ์ วัย 2 ขวบ ท่ามกลางญาติ ๆ และชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปร่วมงานศพด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ในขณะที่นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.นครศรีธรรมราช ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช มาดูค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพครั้งนี้อย่างเต็มที่ และทาง ผวจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งติดราชการอยู่ต่างพื้นที่ได้กำชับและมอบหมายให้นายจารุมัย นพรัตน์ ที่ปรึกษา ฯเข้าไปดูแลช่วยเหลือการจัดงานศพของสองพ่อลูกอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับนายสนั่น ศิลารัตน์ ปลัด อบจ.นครศรีธรรมราช ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมข้าราชการสังกัด อบจ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปเยี่ยมเคารพศพและให้กำลังใจกับญาติผู้เสียชีวิตพร้อมวิงวอนให้สังคมอย่าใช้ความรุนแรงแก้ปัญหากันแบบนี้
นายจารุมัย นพรัตน์ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ท่านผู้ว่า ฯเป็นห่วงในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายโหดเหี้ยมเกินกว่าที่สังคมจะรับได้ โดยการก่อเหตุยิงยกครอบครัวทำให้นายสุเทพ และบุตรชายอายุแค่ 2 ขวบเสียชีวิต และนางวาสนา ภรรยา พร้อมลูกวัย 7 ขวบบาดเจ็บสาหัสในครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของคนในสังคมอย่างกว้างขวางและภาพลักษณ์ของส่วนรวมเป็นอย่างมาก แม้ว่าอีกกระแสข่าวระบุว่านายสุเทพ ผู้ตายมีนิสัยไม่เรียบร้อยแต่ไม่ใช่เหตุผลที่จะให้ใครมากระทำในลักษณะเช่นนี้กับเขาและครอบครัวได้ โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือดูแลครอบครัวผู้เสียหายโดยเฉพาะเรื่องการจัดงานศพให้ดีที่สุด และอยากฝากวิงวอนประชาชนคนเมืองคอนและคนทั่วไปว่าอย่าคิดแก้ปัญหาด้วยวิธีการเช่นนี้อีกเป็นการซ้ำเติมสังคมเมืองคอนและสังคมไทยให้เลวร้ายเพิ่มมากขึ้น
“เท่าที่ติดตามกระแสคนในสังคมมองว่า เจ้าของ “ร้านลานนม” คือ ร.ต.ท.เจริญ บุรินทร์โกษฐ์ ซึ่งเป็นอาของนายศิริชัย หรือ “ปุ๋มลานนม”ผู้ต้องหา เป็นนายตำรวจอาจจะนำไปสู่การวิ่งเต้นช่วยเหลือนายศิริชัย ผู้ต้องาให้พ้นผิดนั้น ในเรื่องนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานกับ ผกก., ผบก.และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดรับรองว่าคดีนี้จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ผู้ที่กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายอย่างหนักแน่นอน”นายจารุมัย กล่าวในที่สุด
ในนางวรรณา โสภิณ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นยายของ ด.ช.ณรงค์ฤทธิ์ และแม่ยายของนายสุเทพ ได้กล่าวว่า ทางญาติจะสวดศพเป็นเวลา 3คื น และวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.2559 ก็จะเก็บศพทั้งพ่อลูกไว้ที่ วัดมะม่วงตลอด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เพราะต้องรอนางวาสนา และ ด.ญ.วิภัชชา ภรรยาและลูกสาวของนายสุเทพ ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บออกจาก รพ.ก่อนถึงจะทำการเผาศพของสองพ่อลูก ส่วนอาการของ ด.ญ.วิภัชชา มีอาการสมองบวมเพราะได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรงยังไม่รู้สึกตัวยังนอนรักษาตัวในห้องไอซียู รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช อาการยังน่าเป็นห่วง ถือว่าไม่พ้นขีดอันตราย
“ตนต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เอาจริงเอาจังกับคดีนี้ จนสามารถออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหามาได้แล้ว 1 คน ซึ่งตนและญาติ ๆ มั่นใจว่าเป็นคนร้ายถูกตัวแน่นอนไม่ผิด นายศิริชัย ผู้ต้องาไม่น่ากระทำกันรุนแรงขนาดนี้ฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กวัย 2 ขวบที่สำคัญดูจากพฤติกรรมของคนร้ายต้องการฆ่าให้ตายยกครัวไปเลย คดีนี้ถือว่าเป็นคดีสะเทือนใจมากที่คนร้ายโหดเหี้ยมใจคออำมหิตมาก ๆ ตนขอเรียกร้องให้ศาลตัดสินประหารชีวิตคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ทุกคน จะได้สาสมกับการกระทำอย่างโหดเหี้ยมและเป็นตัวอย่างให้คนในสังคมไม่กระทำอะไรที่โหดเหี้ยมในลักษณะนี้อีก”นางวรรณา กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
3 พ.ค. 2559