วันนี้ (18 มีนาคม 2559) ที่โรงแรม CK อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมเกียรติ จันหนู หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน โครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสำรวจออกแบบโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งตั้งแต่บ้านหน้าโกฎิ ถึงปลายแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ระยะที่ 3 โดยมีนายบัลลังก์ เมี่ยงบัว วิศวกรโยธาชำนาญการ กรมเจ้าท่า รายงานถึงผลการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและแบบโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งตั้งแต่บ้านหน้าโกฎิ ถึงปลายแหลมตะลุมพุก ซึ่งเป็นอีกที่หนึ่งซึ่งประสบกับสภาพปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง มาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีลักษณะภูมิประเทศเป็นทะเลปิด ได้รับอิทธิพลของคลื่นมรสุมโดยตรง ประกอบกับพื้นที่ชายฝั่งในบริเวณดังกล่าวมีการเพาะเลี้ยงกุ้งติดกับพื้นที่ชายฝั่ง ทำให้คันนากุ้งถูกคลื่นซัดเซาะและพังทลาย คลื่นสามารถรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ชุมชนอาศัยอยู่ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการป้องกันพื้นที่บริเวณดังกล่าวโดยเร่งด่วน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากบริเวณวัดแหลมตะลุมพุกเรื่อยมาตามแนวชายฝั่งทางด้านทิศใต้ ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตรครอบคลุมพื้นที่บริเวณหมู่ที่ 1หมู่ 6 ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก และในระยะเวลาที่ 3 ปีงบประมาณ 2557 เริ่มดำเนินการตั้งแต่บริเวณท่าเทียบเรือประมงหมู่ 1 บ้านชายทะเลตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก เรื่อยลงมาตามแนวชายฝั่งด้านทิศใต้เป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงบริเวณบ้านนาโกฎิ ตำบลท่าพระยา ทั้งเพื่อให้เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืนและเป็นไปตามหลักวิชาการ เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ มีค่าบำรุงรักษาต่ำอันเป็นการประหยัดพบประมาณของรัฐบาล กรมเจ้าท่า จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานโครงการทั้ง 3 ครั้ง และได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นมาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อนำข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาศึกษาวิเคราะห์เพื่อให้ได้รูปแบบโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่เหมาะสมกับพื้นที่ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน
ทั้งนี้จากการรับฟังความคิดเห็นต่อโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสำรวจออกแบบโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งในภาพรวมที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยร้อยละ 83 เนื่องจากบ้านและที่ดินจะอยู่ในทะเลหมดแล้ว โดยในแต่ละปีจะถูกน้ำทะเลกัดเซาะ 4-5 เมตร จึงอยากให้เป็นโครงการเร่งด่วน เห็นด้วยแต่มีข้อวิตกกังวล ไม่แน่ใจว่าจะสามารถป้องกันได้ดี หรือจะเป็นการเร่งให้การกัดเซาะมาขึ้น กังวลเรื่องผลกระทบที่ตามมา ร้อยละ 15 และไม่แสดงความคิดเห็นร้อยละ 2 สำหรับโครงการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสำรวจออกแบบโครงสร้างป้องกันการกัดเซาชายฝั่งตั้งแต่บ้านหน้าโกฏิถึงปลายแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในระยะที่ 3 ผังแม่บทโครงการ การออกแบบกำหนดเป็นเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง จะเริ่มตั้งแต่บริเวณหมู่ที่ 6 บ้านน้ำหัก ตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก ลงมาด้านใต้ สภาพพื้นที่ชายฝั่งในพื้นที่นี้เป็นแหล่งชุมชน มีบ่อจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่จะทำให้น้ำทะเลกัดเซาะเข้ามาอย่างรวดเร็ว และมีถนนที่ชุมชนใช้สัญจร ซึ่งจะถูกกัดเซาะในอนาคต การจัดวางผังแม่บทของโครงการมีเขื่อนกันคลื่นยาวตัวละ 65 เมตร จำนวน 87 ตัว ตั้งอยู่ห่างฝั่งประมาณ 50 เมตร และมีช่องว่างระหว่างเขื่อนตัวที่ติดกัน 35 เมตร, เขื่อนกันคลื่นยาวตัวละ 45 เมตร จำนวน 2 ตัว ตั้งอยู่ห่างฝั่งประมาณ 50 เมตร และมีช่องว่างระหว่างเขื่อนตัวที่ติดกัน 35 เมตร, เขื่อนกันทรายและคลื่นที่มีลักษณะเป็นรูปตัว L จำนวน 3 ตัว, เขื่อนรอดักทรายรูป I จำนวน 1 ตัว และ เขื่อนถุงทรายจำนวน 2 ช่วงในบริเวณท่าเทียบเรือประมง เนื่องจากในบริเวณนั้นมีแนวสายเคเบิลใต้น้ำพาดผ่าน ถ้ามีเขื่อนหินในบริเวณนี้ก็อาจสร้างความเสียหายให้แก่แนวสายเคเบิ้ลได้
พรรณี กลสามัญ/ภาพข่าว
ฉลอง/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
วันที่18 มีนาคม 59