วันนี้(5 ก.พ.59) เวลา 10.00 น. ที่ห้องศรีวิชัย ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2559 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอ และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมประชุม
ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2559 เพื่อเตรียมการรับมือภัยแล้งที่คาดว่าจะเริ่มได้รับผลกระทบตั้งแต่เดือนมีนาคม – เดือนเมษายน 2559 ดังนั้นจึงขอให้อำเภอทุกอำเภอ และส่วนราชการทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาข้อมูลพื้นฐานของตัวเองว่ามีพื้นที่เสี่ยงภัยที่เคยเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำ และจัดหาภาชนะเก็บกักสำรองน้ำไว้ รวมทั้งการขุดลอกห้วยหนองคลอง บึง สร้างฝายชะลอน้ำ รวมถึงการวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่าให้เกิดการแย่งชิงน้ำกัน มีการสำรวจพืชผลที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ปลูกพืชที่น้ำน้อย และเฝ้าระวังการจุดไฟเผาป่า โดยเฉพาะป่าพรุ สำหรับการประปาส่วนภูมิภาคให้ไปจัดหาแหล่งน้ำดิบสำรองไว้ให้พร้อม
นายวานิช แก้วประจุ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลัก 4 อ่างที่กรมชลประทานรับผิดชอบ คือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อ่างเก็บน้ำคลองกะทูน อ่างเก็บน้ำคลองดินแดง และอ่างเก็บน้ำเสม็ดจวน มีประมาณน้ำกักเก็บรวมกัน 172 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนระดับน้ำลำคลองสายหลัก คือ ที่ประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ และประตูระบายน้ำคลองชะอวด-แพรกเมือง ระดับน้ำยังสูงกว่าเกณฑ์ปกติ เช่นเดียวกับระดับน้ำตามฝายต่าง ๆ น้ำยังล้นสันฝาย สำหรับลำคลองอื่น ๆ หลังจากมีฝนตกในพื้นที่ต้นน้ำทำให้ระดับน้ำลดลงไม่มากนัก
ทางด้านองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีการจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำกว่า 10 คันพร้อมให้การช่วยเหลือเมื่อได้รับการร้องขอ นอกจากนี้ได้มีการเป่าล้างบ่อบาดาลที่อยู่ในความรับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้มีการปิดประตูระบายน้ำคลองต่าง ๆ รวมทั้งสร้างฝายชะลอน้ำ เพื่อเตรียมการรับมือภัยแล้ง ส่วนระดับน้ำที่ฝายคลองท่าดีปัจจุบันยังสูงกว่าสันฝาย 21 เซนติเมตร สำหรับแหล่งน้ำสำรองในการผลิตน้ำประปามีสองแหล่งคือจากนาทราย และวังก้อง ส่วนในระยะยาว เทศบาลนครฯร่วมกับกรมชลประทานได้ขุดอ่างเก็บน้ำที่ทุ่งท่าลาด พื้นที่ 200 ไร่ คาดจะแล้วเสร็จใน 2 ปี ทางด้านกองทัพภาคที่ 4 ได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 ขึ้น โดยแบ่งหน่วยรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ เช่น มทบ. 41 รับผิดชอบพื้นที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ปากพนัง เชียรใหญ่ หัวไทร เฉลิมพระเกียรติ เป็นต้น ขณะที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 เป็นต้นไป ในส่วนของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ให้อำเภอที่เสี่ยงประสบปัญหาภัยแล้ง 7 อำเภอ คือ พระพรหม ลานสกา ร่อนพิบูลย์ ท่าศาลา สิชล พรหมคีรี และนบพิตำ เร่งสำรวจพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำและจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง พร้อมเสนอโครงการสร้างฝายชะลอน้ำโดยใช้เงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินงบ 10 ล้านบาท
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
5 กุมภาพันธ์ 2559