
วันนี้(25 ม.ค.59) เวลา 15.00 น. นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายพงศ์เทพ ไข่มุกด์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายธัญญพัฒน์ พัฒฑิคงพันธุ์ นายอำเภอปากพนัง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนตามแนวชายฝั่งทะเลที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นลมแรง และน้ำกัดเซาะชายฝั่ง ทำให้บ้านเรือนถูกกระแสคลื่นซัดได้รับความเสียหาย และน้ำท่วมประมาณ 20 หลังคาเรือน ทั้งที่ตำบลท่าพญา ต.ขนาบนาก ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก และต.แหลมตะลุมพุก โดยที่บ้านเกาะทัง หมู่ที่ 4 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง กระแสคลื่นได้พัดบ้านเสียหายบางส่วน รวมทั้งทรัพย์สินภายในบ้านหลายหลังเนื่องจากขนย้ายสิ่งของไม่ทัน ในขณะที่ถนนสายปากพนัง-หัวไทร ที่บ้านเกาะทัง ต.ท่าพญา และบ้านหน้าโกฏิ ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ กม. 45+000 – กม. 51+000 รวมระยะทาง 6 กิโลเมตร ถูกกระแสคลื่นซัดฝ่าแนวกันคลื่นเอาเศษหินดินทรายและขยะมูลฝอยขึ้นไปบนผิวทางเป็นจำนวนมาก การจราจรผ่านได้ยากลำบาก ทางแขวงทางหลวงนครศรีธรรมราชที่ 1 ได้นำรถเกรดและรถตัก เพื่อเอาเศษวัสดุต่าง ๆ ออก จากผิวทาง เพื่อให้รถผ่านไปมาได้ อย่างไรก็ตามหากไม่มีความจำเป็นขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวในช่วงนี้
นางวาสนา บุญไหล อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 153/1 หมู่ที่ 10 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง กล่าวว่า คลื่นลมที่แรงได้พัดเข้าบ้านทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสีย เนื่องจากขนย้ายไม่ทัน ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหนักที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งต้องอพยพไปนอนที่บ้านญาติจนกว่าสถานการณ์จะปกติ จึงขอให้ทางราชการนำหินใหญ่มาถมเป็นแนวกันคลื่นที่หลังบ้านด้วย
เช่นเดียวกับนายเที่ยว จันทร์นวล อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ที่ 10 ต.ท่าพญา กล่าวว่า ตนและสมาชิกในครอบครัว มีความจำเป็นต้องนอนในบ้านแม้ว่าจะเสี่ยงอันตรายจากกระแสคลื่นก็ตาม เพราะไม่รู้จะไปพักที่ไหน
ส่วนนายปิยวุฒิ ซ้วนลิ่ม ชาวบ้านตำบลปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง กล่าวว่า บ่อกุ้งของตนถูกกระแสน้ำทะเลที่หนุนสูงเข้าท่วม 2 บ่อ เนื้อที่ 9 ไร่ ได้รับความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่วันนี้(25 ม.ค.59) ได้มีการประมูลเพื่อจับกุ้งในช่วงเที่ยงวันนี้(25 ม.ค.59) แต่ถูกน้ำทะเลท่วมบ่อเสียก่อน ซึ่งผู้ที่ประมูลได้รับซื้อกุ้งขาวกิโลกรัมละ 162 บาท คาดว่าจะสามารถจับกุ้งได้ประมาณ 5-7 ตัน แต่ก็ต้องสูญเสียเงินในช่วงเพียงไม่กี่ชั่วโมง

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น ส่วนความเสียหายทั้งทรัพย์สินของประชาชน และสาธารณะประโยชน์ ให้ทางองค์กรปกครองส่านท้องถิ่น อำเภอเป็นผู้สำรวจ เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน และจะได้ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป ส่วนบ้านเรือนที่มีความเสี่ยงต่ออันตรายจากคลื่นลมก็ขอให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน โดยให้องค์การบริหารส่วนตำบล หรือเทศบาลในพื้นที่ดูแล แต่หากประชาชนไม่ยอมอพยพก็จะใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนั้นมีตลอดแนวชายฝั่งตั้งแต่อำเภอขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา อ.ปากพนัง และอ.หัวไทร ซึ่งมีความรุนแรงมากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละพื้นที่ สำหรับสถานการณ์คลื่นลมแรงยังคงมีต่อไปอีก 2-3 วัน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนมีความระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง เรือเล็กไม่ควรออกจากฝั่งในระยะนี้
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
25 มกราคม 2559