วันนี้ (27 พ.ย.58) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมทะเลเลียบถนนสายปากพนัง-หัวไทร ม.10 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำเข้าฝั่งตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ความสูงของคลื่นประมาณ 3-4 เมตร ซัดเอาทรายขึ้นมากองอยู่บนถนนสายหลักจำนวนมาก รวมทั้งถนนดังกล่าวจนพังเสียหายเพราะแรงคลื่นที่พัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรงตลอดเวลา ทำให้การจราจรไม่มีความสะดวก
อย่างไรก็ตามได้โดยมีเจ้าหน้าที่จากหมวดทางหลวงหน้าสตน แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 1 เข้ามาอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขับขี่ยวดยานผ่านไปมา พร้อมทั้งมีการเกลี่ยทรายบนถนนที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมากองระยะทางกว่า 100 เมตรพร้อมให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม.ขณะที่ชาวบ้านแจ้งว่าคลื่นทะเลเพิ่งรุนแรงตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (27 พ.ย.58) จนถึงช่วงบ่ายคลื่นยังคงซัดฝั่งอย่างหนักตลอดเวลา
ขณะที่นายสำเริง นวลศรี หัวหน้าหัวหมวดทางหลวงหน้าสตน แขวงทางหลวงนครศรีธรรมราช ที่ 1 ระบุว่า ถนนเส้นทางดังกล่าวจาก อ.ปาพนังไปจนถึง อ.หัวไทร ระยะทางกว่า 30 กม.ที่ถูกคลื่นซัดไม่มีทางเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นขอให้ผู้ขับขี่ยวดยานอย่าผ่านมาทางเส้นทางนี้ แต่ถ้าจำเป็นต้องผ่านก็ยังสามารถผ่านได้แต่ต้องระมัดระวังด้วย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เพราะถนนพังเสียหายจำเป็นต้องปิด 1 ช่องทางจราจร ใช้ได้เพียงช่องเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับถนนสายปากพนัง-หัวไทร เส้นนี้อยู่ริมทะเล ซึ่งจะประสบคลื่นลมแรงทุกปีในช่วงมรสุม ทำให้ถนนพังเสียหายเกิดขึ้นทุกปี โดยเฉพาะบริเวณริมทะเลบ้านหน้าโกฏิ ต.ท่าพญา บ้านขนาบนาก ต.ขนาบนาก ของ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมทะเลต้องอพยพหนีคลื่นไปอาศัยอยู่บ้านญาติทุกปี แม้ทางราชการจะแก้ปัญหาทำแนวกันคลื่นแต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
สุเชษฐ์ แรกรุ่น / กนกลักษณ์ เส้งคง
27 พฤศจิกายน 2558