วันนี้(27 ต.ค.58) เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัด นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการในการนำเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร(พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช) เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก ปี 2558 ครั้งที่ 9/2558 โดยมีคณะกรรมการทั้งหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชนเข้าร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้รับทราบถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ทั้งในส่วนของลานหาดทรายแก้วและวิหารคต การจัดทำเอกสารภาษาไทยฉบับสมบูรณ์ การจัดทำแผนคุ้มครองและอนุรักษ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่อนุรักษ์สำคัญ(Core Zone) และพื้นที่กันชน(Buffer Zone) การจัดทำพระบรมธาตุเจดีย์จำลอง รวมทั้งการแก้ไขสนิมองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นต้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบปัญหาน้ำท่วมขังภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในช่วงที่ฝนตกหนัก ก็ได้มอบหมายให้นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ในเบื้องต้นได้มีการขุดลอกท่อระบายน้ำทั้งที่อยู่ภายในวัดและบริเวณถนนราชดำเนินที่อยู่หน้าวัด ซึ่งอยู่ระหว่างที่ผู้รับจ้างปรับปรุงภูมิทัศน์ สามารถแก้ไขปัญหาระยะสั้นได้ แต่ในระยะยาวได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปวางแผนหาแนวทางในการออกแบบ ปรับปรุงระบบระบายน้ำเพื่อให้ระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้นโดยอาจจะเสนอเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการเดิม ส่วนปัญหาระบบไฟฟ้าส่องสว่างบริเวณองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่ชำรุดเสียหาย ได้มอบหมายให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไปตรวจสอบร่วมกับทางวัด และสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนราชดำเนินหน้าวัดพระมหาธาตุฯ ได้มีการเร่งรัดผู้รับจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนการดูแลด้านการจราจรถนนหลังวัดพระบรมธาตุฯ ได้มอบหมายให้ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไปดูแล
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการจัดทำพระบรมธาตุเจดีย์จำลอง เพื่อนำเงินรายได้เข้ากองทุนมรดกโลก ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการถอดแบบและจัดพิมพ์แผ่นพับโปรชัวร์ ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิกองทุนมรดกโลก เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของกองทุนดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อนำปัจจัยที่ได้มาช่วยเหลือเป็นค่าไฟฟ้าให้กับวัดพระมหาธาตุฯ ที่ค้างจ่ายประมาณ 5 แสนบาท และช่วยเหลือการจัดสร้างพระพุทธสิหิงค์ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ช่วงปลายเดือนมกราคม 2559 ในส่วนของความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาคราบสนิมยอดองค์พระบรมธาตุเจดีย์นั้น ทราบว่ากรมศิลปากรได้ประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องและได้ข้อสรุปถึงสาเหตุแล้ว แต่ต้องรอให้อธิบดีกรมศิลปากรเป็นผู้แถลงหรือให้ข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน อย่างไรก็ตามหากจำเป็นต้องบูรณะทางจังหวัดได้ตั้งงบประมาณไว้รองรับแล้วกว่า 30 ล้านบาท
ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายวิชาการ กล่าวว่า การจัดทำเอกสารภาษาไทยฉบับสมบูรณ์บทที่ 1 ถึงบทที่ 8 นั้น ขณะนี้ได้มีการส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญแปลเป็นฉบับภาษาอังกฤษแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2558 สำหรับความคืบหน้าในการจัดทำแผนคุ้มครองและอนุรักษ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่อนุรักษ์สำคัญ(Core Zone) และพื้นที่กันชน(Buffer Zone) นั้น ได้มอบหมายให้ ดร.รอยพิมพ์ใจ เพชรกุล เป็นผู้เรียบเรียง ซึ่งต้องบรรจุไว้ในภาคผนวกของเอกสารฉบับสมบูรณ์ โดยจะมีการประชุมชี้แจงจากผู้ที่เกี่ยวข้องและรับฟังความคิดเห็นจากผู้นำชุมชน 19 ชุมชน ประชาชน ผู้บริหารสถานศึกษา รวมทั้งพระสงฆ์ในอยู่ในเขตพื้นที่กันชน ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 258 เวลา 13.00 น. ณ ศาลา 100 ปี วัดพระมหาธาตุฯ จากนั้นจะได้นำข้อคิดเห็นมาประมวลสรุปผล แล้วเรียบเรียงไว้ในแผนคุ้มครองและอนุรักษ์แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่อนุรักษ์สำคัญ(Core Zone) และพื้นที่กันชน(Buffer Zone)ต่อไป
ด้านนางนภสร ค้าขาย ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีการนำเสนอในที่ประชุมระดับนานาชาติที่ประเทศศรีลังกา ให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเส้นทางจาริกแสวงบุญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อจังหวัดนครศรีธรรมราชและประเทศไทย
ส.ปชส.นครศรีธรรมราช
27 ตุลาคม 2558