(28 พ.ค.) ที่ศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.เตโชทัย ขุนนัดเชียร สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 (สว.กก.4 บก.ส.1 )ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าหน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำนายดนัย ขุนนัดเชียร อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205 หมู่ 5 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นญาติเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนกรณีพระภิกษุสงฆ์รวมหัวกันโกงเงินจำนวน 200,000 บาท
นายดนัย ขุนนัดเชียร เปิดเผยว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้มีพระครูวินัยธรรูปหนึ่ง มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการเจ้าคณะตำบล ๆ หนึ่งใน อ.เมือง พร้อมด้วยหลวงพ่อแจ้ง สังกัดวัดอีกวัดหนึ่งใน ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชได้เดินทางไปพบตนและภรรยา เพื่อขอหยิบยืมเงินจำนวน 250,000 บาท อ้างว่าเพื่อนำไปสร้างศาลาพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ภายในวัด ตนและภรรยาเป็นผู้ที่เคารพนับถือพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ อยู่แล้วจึงให้ยืมเงินไปครั้งแรก 160,000 บาท ตามหนังสือสัญญาเงินกู้ลงวันที่ 2 ก.พ. 2556 โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ต่อมาหลวงพ่อแจ้ง ได้นำเงิน 60,000 บาทมาคืนให้ตน โดยบอกว่าเงินที่ยืมไปจำนวน 160,000 บาทนั้นพระครูวินัยธร ฯได้แบ่งให้ตน 60,000 บาท จึงนำในส่วนที่รับไป 60,000 บาทมาจ่ายคืนเป็นที่เรียบร้อย
ต่อมาในวันที่ 19 ก.พ. 2557 พระภิกษุทั้งสองรูปได้ยืมเงินเพิ่มอีก 150,000 บาท รวมทั้งเก่าและที่ยืมใหม่รวม 250,000 บาท ตนจึงได้เปลี่ยนสัญญากู้ยืมเงินใหม่เป็นกู้ยืมเงินต้น 250,000 บาท โดยในสัญญาระบุพระครูวินัยธร เป็นคนผู้กู้ยืมและหลวงพ่อแจ้ง เป็นพยาน แต่เนื่องจากเอกสารสัญญาไม่เรียบร้อยพระภิกษุทั้งสองรูปอ้างว่าค่อยมาเซ็นชื่อในสัญญาวันหลัง แต่หลังจากนั้นพระครูวินัยธร ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมเซ็นชื่อในหนังสือสัญญาเงินกู้ ในขณะที่หลวงพ่อแจ้ง ยืนยันพร้อมที่จะเป็นพยานการกู้ยืมเงินดังกล่าวให้ตลอดเวลา
“ตนและภรรยามาทราบภายหลังว่าพระครูวินัยธร ไม่ได้นำเงินมาสร้างศาลลาพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ตามที่กล่าวอ้างกับตนแต่นำเงินมาบ่งกันใช้จ่ายส่วนตัว จึงตามทวงถามและทวงหนี้เงินกู้หลายครั้ง โดยในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาตนและภรรยาก็ขาดการติดต่อจากพระครูวินัยธร โทรศัพท์ไปก็ไม่ยอมรับสาย และได้มีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่ ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปที่วัดสอบถามหาพระวินัยธรรูปดังกล่าว แต่ทางพระภิกษุ-สามเณรในวัดอ้างว่าพระครูวินัยธรไม่อยู่วัด ทั้ง ๆ ที่ตนทราบแน่ชัดว่าพระครูวินัยธรรูปดังกล่าวนอนอยู่ในกุฏิ ซึ่งตนและภรรยาต้องวิ่งไปวิ่งมาระหว่าง อ.ลานสกา กับ อ.เมือง เพื่อตามทวงหนี้ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมากว่า 20 ครั้ง ต้องเสียเวลาและค่าใช้ใช้เป็นจำนวนมาก ล่าสุดไปเจอพระครูวินัยธรลูกหนี้ในพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูกาชาด วัดหน้าพระบรมธาตุ พระครูวินัยธรรูปดังกล่าวได้เดินเลี่ยงหลบหนีหายไปอย่างรวดเร็ว ”
นายดนัย ขุนนัดเชียร กล่าวอีกว่าตนถึงตัดสินใจเข้าพบปรึกษา พ.ต.ท.เตโชทัย ขุนนัดเชียร สารวัตรกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ( สว.กก.4 บก.ส.1 ) ปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าหน่วยตำรวจสันติบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นญาติทาง พ.ต.ท.เตโชทัย ขุนนัดเชียร จึงนำตนมาร้องเรียนกับศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราชดังกล่าว โดยหลังจากนี้หากยังไม่ได้รับการติดต่อหรือชำระหนี้จากพระครูวินับธร ตนจะเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากคณะสงฆ์และแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพระครูวินัยธรรูปดังกล่าวเคยตกเป็นข่าวโด่งดังทางสื่อสารมวลชนมาแล้วเมื่อปี 2557 จากกรณีที่เป็นประธานจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ จนพระภิกษุ-สามเณรลูกศิษย์ของหลวงพ่อปัญญา ฯรวมทั้งประชาชนออกมาต่อต่านคัดค้านการจัดสนร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อปัญญาอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเมื่อครั้งที่หลวงพ่อปัญญา ฯยังมีชีวิตอยู่ได้ต่อต้านและปฏิเสธการจัดสร้างวัตถุมงคลมาโดยตลอด แม้แต่การเทศนาสั่งสอนหลวงพ่อปัญญาจะจบลงด้วยการ ต่อต้าน และปฏิเสธการจัดสร้างวัตถุมงคลทุกครั้ง จนในที่สุดต้องมีการยกเลิกการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุไปโดยปริยาย.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
28 พ.ค. 2557