ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สำรวจพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่แท้จริงทั้งมีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์

วันนี้(7 พ.ค.58) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนภาคเอกชน ผู้ประกอบการและ ผู้แทนเกษตรกร อาทิ ปลัดจังหวัด พาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด เกษตรจังหวัด หอการค้าจังหวัด สมาคมชาวสวนปาล์ม ชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนปาล์ม สภาเกษตรกร เป็นต้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดนครศรีธรรมราช และคณะ เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเรียกร้องผ่านไปยังรัฐบาลให้ทบทวนราคารับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงและน้ำมันปาล์มดิบแนะนำตามประกาศสำนักคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ลงวันที่ 30 เมษายน 2558 ที่กำหนดราคารับซื้อปาล์มน้ำมันที่มีเปอร์เซ็นต์อัตราน้ำมัน 17 % ที่กิโลกรัมละ 4 บาท และปาล์มที่มีอัตราน้ำมันมากกว่า 17 % ราคาจะเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 30 สตางค์ ซึ่งทางสมาคมฯไม่เห็นด้วยกับประกาศดังกล่าวหลายประการพร้อมทั้งยื่นข้อเรียกร้อง เช่น ราคาปาล์มทลายต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม เครื่องมือวัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มของลานเทและโรงงานยังไม่มี และให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันปาล์มเถื่อน เป็นต้น จึงได้จัดประชุมคณะกรรมการฯขึ้น ซึ่งทางจังหวัดจะได้ส่งข้อเรียกร้อง ข้อเสนอต่าง ๆ ไปยังรัฐบาลต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรฯระดับจังหวัด แล้วตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อให้มีความครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และเป็นปัจจุบัน พร้อมทั้งให้เกษตรจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสำรวจพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีเอกสารสิทธิ์ว่ามีจำนวนกี่ไร่กันแน่ ให้ผลผลิตแล้วกี่ไร่ ให้ผลผลิตแล้วกี่ไร่ จำนวนกี่ตัน ในอีกหนึ่งปีสองปีข้างหน้าคาดว่าจะปลูกเพิ่มอีกกี่ไร่ ให้ผลผลิตเท่าไหร่ เป็นต้น เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการวางแผน และกำหนดแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการต่าง ๆ ต่อไป ในส่วนของการค้าภายในจังหวัดขอให้ลงไปกำกับดูแลกวดขันผู้ประกอบการทั้งโรงงาน และลานเท ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น รับซื้อปาล์มน้ำมันราคาตามที่รัฐบาลกำหนด และต้องติดป้ายราคารับซื้อประจำวันด้วย ส่วนการคิดเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มให้ไปตกลงกันระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกรไปก่อนเพื่อให้มีความพึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย พร้อมทั้งรายงานให้ผู้ว่าฯรับทราบด้วย ในส่วนของเกษตรกรต้องมีการณรงค์ไม่ให้มีการตัดปาล์มที่ผลยังไม่สุกเต็มที่

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ปัญหาที่นักลงทุนไม่สามารถเข้ามาตั้งโรงงานน้ำมันปาล์มในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากติดปัญหากฎหมายผังเมืองรวมจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ไม่สามารถออกใบอนุญาตการตั้งโรงงานหรือ รง.4 ได้ ซึ่งต้องมีการขอแก้ไขผังเมืองรวมต่อไป แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร

ดร.กณพ เกตุชาติ กรรมการบริษัทเกษตรลุ่มน้ำ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของบริษัท เกษตรลุ่มน้ำ ได้ประกาศแนะนำราคารับซื้อปาล์มน้ำมันหน้าโรงงาน ที่มีอัตราน้ำมัน 17 % กิโลกรัมละ 4 บาท 16 เปอร์เซ็นต์ กิโลกรัมละ 3.75 บาท และ 15 เปอร์เซ็นต์กิโลกรัมละ 3.50 บาท ซึ่งเป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

นายสมพร ศรีเพชร นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาปาล์มตกต่ำอยู่ในขณะนี้เป็นผลมาจากที่รัฐบาลอนุญาตให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ 50,000 ตัน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทางสมาคมฯได้คัดค้านมาตลอดว่าจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มในระยะยาว นอกจากนี้อาจมีการลักลอบน้ำเข้าน้ำมันปาล์มอีกไม่รู้เท่าไหร่ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดกวดขันด้วย ส่วนราคาปาล์มทลายต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัมตามที่รัฐบาลเคยให้สัญญาไว้ แต่สำหรับการคิดอัตราน้ำมันเป็นเปอร์เซ็นต์นั้นเป็นสิ่งเพ้อฝัน ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้เลย เพราะยังไม่มีเครื่องมือใดที่มาวัดว่าวัดอย่างไร ส่วนพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันในจังหวัดนครศรีธรรมราช น่าจะมีประมาณ 700,000 ไร่

นายเสรีย์ แป้นคง เกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันทั้ง 23 อำเภอของจังหวัด มีจำนวน 27,308 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น 370,460 ไร่ มีพื้นที่ให้ผลผลิต 332,538 ไร่ ผลผลิต 992,353 ตัน ซึ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มมีการจับพิกัด GPS ทุกแปลง และต้องมีเอกสารสิทธิ์ด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ยังไม่มีข้อมูลว่ามีจำนวนเท่าไหร่ทำให้ข้อมูลพื้นที่ปลูกปาล์มของเกษตรจังหวัดไม่ตรงกับของสมาคมชาวสวนปาล์ม