(10 เม.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนทำให้ชาวบ้านทั้งในและต่างพื้นที่ รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียต่างเดินทางมาชม “หนูเงิน –หนูทอง”ในวัดเขาพระทองกันเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อทราบจุดประสงค์ของการจัดสร้างรูปปูนปั้นหนูเงิน หนูทองขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อเป็นธรรมานุสสติ ระลึกนึกถึงหนูซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉานที่มีบุญคุณที่สำคัญต่อพระพุทธศาสนา และการนำมาประดิษฐานมีอาจารย์ประจวบ คงเหลือ เจ้าพีกรรมจากสำนักเขาอ้อ ได้ถือฤกษ์วันที่ 6 เม.ย.ซึ่งตรงกับวันจักรี และยังประกอบพิธีพุทธาภิเษกรูปปั้นหนูยักษ์อย่างยิ่งใหญ่ตามโบราณประเพณี ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างเชื่อมั่นในความเข้มขลังของรูปปั้นหนูนักษ์ จึงนำดอกไม้ ธูปเทียนมากราบไหว้บูชารูปปั้นหนูอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ยังบนบานขอเลขเด็กแทงหวยงวดวันที่ 16 เม.ย. อย่างคึกคัก โดยมีการสอบถามถึงตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับการจัดสร้างรูปปั้นปูนหนูยักษ์ รวมทั้งการนำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องไปตีเป็นเลขเด็ดต่าง ๆ นา และคาดว่าในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแห่เดินทางแวะเข้ามาชมรูปปั้นหนูเงิน-หนูทองยักษ์และกราบนมัสการหลวงพ่อองค์ใหญ่รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเขาพระทองเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน
พระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เปิดเผยว่า วัดเขาพระทองเป็นวัดเก่าแก่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมารตั้งแต่สมัยศรีวิชัยตอนต้น หรือในยุคของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชคือพระเจ้าจันทรภาณุ พ.ศ. 1775 หรือกว่า 800 ปีมาแล้ว ในอดีตเป็นชุมชนที่มีผู้คนตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่และมีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน ภายในวัดเขาพระทองมีพระพุทธรูปโบราณซึ่งเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยเป็นพระพุทธรูปที่ปั้นหรือก่อด้วยปูนขาวผสมด้วยน้ำผึ้งอ้อยและน้ำมันยางโครงสร้างภายในทำด้วยไม้เจาะร้อยข้อต่อทุกชิ้น เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีปูนซิเมนต์และเหล็กเส้น โดยเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 พม่าเผากรุงศรีอยุธยาและวัดวาอารามต่าง ๆ ถูกเผาเป็นจำนวนมาก จึงมีการขนพระพุทะรูปไปซุกซ่อนในถ้ำ ที่ผ่านมาจึงมีการขุดพบกะโหลกศรีษะและกระดูกมนุษย์ที่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปัจจุบัน
ซึ่งในปัจจุบันได้มีการขัดพบพระพุทธรูปจำนวนมาก แต่ที่ยังสมบูรณ์จำนวน 29 องค์ ในจำนวนนี้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่กว่าองค์ๆ อื่น ๆ ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อองค์ใหญ่” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ และที่ผนังถ้ำด้านหลังหลวงพ่อองค์ใหญ่ มีรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ปรากฏอยู่บนแผ่นหินเป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของรอยฝ่ามือบนแผ่นหินยังมีรูเหล็กไหลเก ๆ ลึกเข้าไปในผนังถ้ำ คาดว่าเป็นรูเหล็กไหลที่หมอไสยศาสตร์เคยมาทำพิธีเรียกและตัดเหล็กไหลแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงปรากฏเป็นรูในผนังถ้ำมาจนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนด้านบนของผนังถ้ำเหนือพระพุทธรูปหลวงพ่อองค์ใหญ่จะมีหินงอกย้อยออกมาเป็นรูปเทพธิดามีปีกบินได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มีอยู่ในวัดเขาพระทอง ซึ่งทางวัดได้จัดงานประเพณี “ปิดทอง ห่มผ้าหลวงพ่อองค์ใหญ่ อายุกว่า 800 ปี” ขึ้นเป็นประจำทุกปี
“ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ขับขี่รถมาตามถนนเอเซีย 41 ผ่านวัดเขาพระทอง ขอเชิญแวะเข้ามาชมรูปปั้นหนูเงิน-หนูทองยักษ์และกราบนมัสการหลวงพ่อองค์ใหญ่รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเขาพระทองเพื่อเป็นสิริมงคล และยังเป็นการถือโอกาสแวะพักผ่อน เข้าห้องน้ำ ห้องส้วม ล้างหน้า ล้างตา หรือจะอาบน้ำในวัดด้วยก็ได้ โดยทางวัดจะจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยบริการอย่างเต็มที่”เจ้าอาวาสวัดเขาสพระทองกล่าว
ในขณะที่พระช่วย ฤทธิอักษร พระลูกวัดเขาพระทอง อดีตกำนันตำบลเขาพระทอง กำนันยอดเยี่ยมแหนบทองคำ 3 ปีซ้อน กล่าวว่า ตอนสมัยที่อาตมาเป็นกำนันเมื่อหลายสิบปีก่อน ได้เป็นผู้เสนอให้ทางราชการตั้งชื่อตำบลและวัดว่า “เขาพระทอง” เพราะพระพุทธรูปที่พบทั้งหมดจะเป็นสีทอง และยังมีตำนานว่าภายในถ้ำลึกมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูงประมาณ 1.5 เมตรทำด้วยทองคำทั้งองค์ เคยมีผู้พบเห็นและเล่าต่อ ๆ กันมาแต่ในปัจจุบันทางเข้าถ้ำได้ถูกหินถล่มปิดตายไปแล้ว ชาวบ้านจึงเชื่อว่าเขาพระทองลูกนี้เป็นภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก โดยมักจะปรากฏสิ่งมหัศจรรย์เหลือให้เห็นบ่อยครั้ง
“โดยเฉพาะเรื่องที่ชาวบ้านมักจะเห็นตัวเลขลอยอยู่ที่ผนังถ้ำเหนือพระพุทธรูป แต่คนที่เห็นใช่ว่าจะนำไปเสี่ยงโชคแทงหวยแล้วถูกหวยกันทุกคน โดยเฉพาะ 2-3 งวดที่ผ่านมาคนที่มากราบสักการะหลวงพ่อองค์ใหญ่ และได้เลขเด็ดไปแทงหวยถูกกันอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตามคนที่โดนหวยกินหมดตัวก็มีไม่น้อย เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องของโชคลาภมากกว่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมาคนที่มีโชคลาภถูกหวยส่วนใหญ่จะเป็นคนยึดมั่นในศีลธรรม ไม่เบียดเบียนรังแกผู้อื่น และใจบุญชอบทำบุญทำทานช่วยเหลือผู้อื่นเป็นประจำ ดังนั้นขอให้ทุกคนที่เข้ามาในวัดมีสติยั้งคิด อย่าหวังร่ำรวยทางลัดมากเกินไป ในที่สุดอาจจะหมดตัวทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมากกว่าเดิมก็ได้” พระช่วย กล่าวเตือนสิตในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
10 เม.ย.2558