การโล้ชิงช้านั้นสืบทอดกันมาในหมู่พราหมณ์ เป็นการจำลองตำนานการสร้างโลกตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ว่า เมื่อพระพรหมได้สร้างโลกขึ้นมาเสร็จแล้วได้ทูลเชิญ พระศิวะ ให้ยืนขาเดียวบนภูเขาลูกหนึ่ง โดยที่พญานาคทั้งหลายร่วมแรงกันกวนน้ำในมหาสมุทรและหากพระศิวะไม่อาจยืนได้ด้วยขาเดียวก็แสดงว่าโลกที่พระพรหมสร้างขึ้นนั้นไม่แข็งแรงพอ แต่ปรากฏว่าพระศิวะยังคงประทับยืนขาเดียวอยู่ได้ตลอดเวลา พระพรหมจึงเห็นว่าแผ่นดินที่สร้างขึ้นมานั้นมั่นคงเพียงพอแล้ว จึงได้ดำเนินการเนรมิตมนุษย์และเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกต่อไป
ประเพณีแห่นางดานเป็นประเพณีที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับพระศิวะหรือพระอิศวรที่จะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อประทานพรให้โลกมนุษย์อยู่กันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขเป็นระยะเวลา 10 ราตรี โดยพระอิศวรจะบันดาลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นบรรดามนุษย์และเทพชั้นรองจึงจัดพิธีต้อนรับด้วยการแห่ไม้กระดาน 3 แผ่น ที่แกะสลักเป็นรูปเทพชั้นรอง 4 องค์ ประกอบด้วยแผ่นที่ 1 รูปพระอาทิตย์ พระจันทร์ แผ่นที่ 2 รูปพระแม่คงคา และแผ่นที่ 3 รูปพระแม่ธรณี (ชาวนครศรีธรรมราชเรียกไม้กระดานที่แกะสลักว่า นางดานหรือนางกระดาน) เพื่อไปต้อนรับพระอิศวรที่เชื่อกันว่าจะเสด็จลงมาทางเสาชิงช้า จากนั้นจะมีพิธี “ตรียัมปวาย” และ “โล้ชิงช้า”ตามลำดับ
โดยการ “โล้ชิงช้า” เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งในการประกอบพิธี “ตรียัมปวาย” ซึ่งเป็นพิธีกรรมของพราหมณ์ที่ชาวนครศรีธรรมราช เรียกพิธีกรรมและกิจกรรมทั้งหมดว่า “ประเพณีแห่นางดาน” และเป็นประเพณีที่นำความมั่งคั่งและมั่นคงแข็งแรงมาสู่บ้านเมือง และมีการประกอบพิธีในการขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์รัชกาลต่าง ๆ ของกรุงรัตนโกสินทร์ตลอดมา เพิ่งมายกเลิกไปเมื่อปี พ.ศ. 2476 ในสมัยรัชกาลที่ 7 เพราะมีคนที่ขึ้นโล้ชิงช้าตกลงมาตาย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 นางสาวกิตติกา ลิขิตวศินกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เขต 2 ในขณะนั้นได้สืบค้นในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าการโล้ชิงช้าหรือตรียัมปวายจะรวมอยู่ในประเพณี “แห่นางกระดาน” และเล็งเห็นว่าประเพณีดังกล่าวเป็นประเพณีเก่าแก่ ที่ควรค่าแก่การศึกษาและมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ และคงจะหาดูชมประเพณีแห่นางกระดานที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ เขต 2 จึงร่วมกับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ชมรมรักษ์บ้านเกิด วิทยาลัยนาฏศิลป์นครศรีธรรมราช และองค์กรภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องฟื้นฟูประเพณี “แห่นางกระดาน” ขึ้นใหม่ และจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 นอกจากจะเป็นการบูชาเทพยดาตามความเชื่อของพราหมณ์แล้วยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย โดยเชื่อว่าประเพณีนี้จะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกให้เข้ามาศึกษาและสัมผัสประเพณีอันหาดูได้ยากในโลกปัจจุบัน
นางนภสร ค้าขาย ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 ที่ผ่านมา นครศรีธรรมราชถูกกำหนดให้เป็น 1 ใน 9 เมืองโบราณของประเทศไทย และให้มีการจัดประเพณีมหาสงกรานต์ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ จังหวัดนครศรีธรรมราชจึงได้มีการผนวกเอาประเพณี “แห่นางดาน” มาจัดรวมในช่วงเวลาเดียวกัน จนกลายเป็นงานประเพณี “มหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนคร” มาจนถึงปัจจุบันจัดต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 15
ในปีนี้กำหนดจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2558 ภายใต้รูปแบบหรือแนวคิดที่ว่า “มหามงคลแห่งชีวิต พุทธาภิเษกน้ำศักดิ์สิทธิ์ สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ชมแห่นางดาน อลังการตำนานเมืองนคร” ในช่วงดังกล่าวจะมีการจัด มหกรรมขนมพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง วันที่ 12 เมษายน 2558 มีพิธีบวงสรวงพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชและพิธีพุทธาภิเษกน้ำศักดิ์สิทธิ์ 6 แหล่ง ณ สวนศรีธรรมาโศกราช วันที่ 13 เมษายน 2558 “วันมหาสงกรานต์” จะมีการอัญเชิญ “พระพุทธสิหิงค์”พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช มาประดิษฐาน ณ สวนศรีธรรมาโศกราช เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย
แต่ไฮไลต์หรือหัวใจของการจัดงานจะมีขึ้นในวันที่ 14 เมษายน 2558 เริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น.ขบวนแห่นางดานเริ่มจากฐานพระสยม ตลาดท่าชี ตรงไปตามถนนราชดำเนิน เพื่อประกอบพิธีที่สวนพระศรีธรรมาโศกราช ซึ่งหอพระอิศวรสถาน เทวสถานที่ใช้สำหรับจัดงาน “แห่นางดาน” ทุกปีอยู่ระหว่างการบูรณปฏิสังขรณ์ของกรม จึงเปลี่ยนสถานที่ไปจัดที่สวนพระศรีธรรมาโศกราช ในปีนี้จึงงดพิธีตรียัมปวายและโล้ชิงช้า แต่มีการจัดแสดงมินิไลท์แอนน์ซาวด์ “อลังการแห่นางดาน” เพื่อสืบสานตำนานความยิ่งใหญ่เมืองนคร โดยในปัจจุบันประเพณี “แห่งนางดาน-ตรียัมปวายและการโล้ชิงช้า” ยังคงปฏิบัติกันอย่างจริงจังที่นครศรีธรรมราชเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราชมากกว่าทุก ๆ ปี โดยมีเป้าหมายหลักคือการเดินทางไปกราบนมัสการองค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
สำหรับในวันมหาสงกรานต์ที่ 13 เมษายน 2558 มีปิดถนนประตูลอด เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำสงกรานต์ ตั้งแต่เวลา 09.00 -24.00 น. ในวันเดียวกันยังได้จัดโครงการ “ถนนสายวัฒนธรรม” รณรงค์สงกรานต์ปลอดเหล้าในวันที่ 13 เมษายน 2558 สองฝั่งถนนราชดำเนินตั้งแต่หน้าวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ไปจนถึงสนามหน้าเมือง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลและจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
09 เม.ย. 2558