(26 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช การผลิตน้ำประปาของเทศบาล ฯไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ทำให้น้ำประปาไมไหล ไหลน้อย ไม่สะอาด ซึ่งเป็นปัญหาที่คนในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียงที่ใช้บริการน้ำประปาเทศบาล ฯ ประสบปัญหาหนักต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ประชาชนที่ใช้น้ำประปาเทศบาล ฯเกือบ 1 แสนครัวเรือนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในขณะนี้จึงมีภาคเอกชน ประชาชน ร่วมกับเทศบาล ฯจะลงพื้นที่สำรวจคลองท่าดี ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหนักในการผลิตน้ำประปาของเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ต้นน้ำ กลางน้ำ และเตรียมที่จะทำฝ่ายมีชีวิตเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ผลบิตน้ำประปาและให้ประชาชนสองฝั่งคลองสูบน้ำขึ้นไปใช้เพื่อการเกษตรต่อไป
ในขณะที่นายเชาวรินทร์ ทันราย กำนัน ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านใน ต.ท้ายสำเภา ได้ลงพื้นที่สำรวจคลองเขาแก้ว-ถลุงทอง-เสาธง ซึ่งเป็นลำคลองขนาดใหญ่มีต้นน้ำมาจากเทือกเขาหลวง เริ่มต้นจาก อ.ลานสกา ไหลผ่าน ต.เขาแก้ว และ ต.ขุนทะเล ใน อ.ลานสกา ต.หินตก ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ ต.ท้ายสำเภา ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม ประชาชนในท้องที่ดังกล่าวและตำบลใกล้เคียงใช้เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร
นายเชาวรินทร์ ทันราย กล่าวว่าจากการลงสำรวจเส้นทางลำคลองสายดังกล่าวเป็นระยะทางกว่า 10 กม. พบว่าตลอดลำคลองมีน้ำน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่ลำคลองสายนี้เป็นลำคลองขนาดใหญ่ มีน้ำอุดมสมบูรณ์มาก ในช่วงฤดูฝนลำคลองสายนี้จะรับน้ำจากเทือกเขาหลวงและเอ่อท่วมพื้นที่ ต.ท้ายสำเภา ต.ช้างซ้าย อย่างหนัก แต่ในขณะนี้พบว่ามีระดับน้ำเฉลี่ยแค่ 30-50 ซ.ม. จนสามารถลงไปเดินกลางลำคลองได้ และยังมีหลายจุดที่ลำคลองตื้นเขิน มีดินและทรายกองทับถมในลำคลองทำให้น้ำไหลช้าและเปลี่ยนทิศทางการไหล หลายจุดตลิ่งพังเสียหาย ซึ่งเป็นสถานการณ์น้ำที่ลดน้อยลงเรื่อย ๆ เป็นปัญหาภัยแล้งมาเร็วและรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา แนวทางการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือการทำฝายน้ำล้นหรือฝายมีชีวิต 2-3 จุด เพื่อกักเก็บน้ำให้ประชาชนได้ผันน้ำหรือสูบน้ำไปใช้ในแต่พื้นที่ตำบลต่าง ๆ ของ อ.ลานสกา อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.พระพรหม รวม 7-8 ตำบล รวมทั้งตำบลข้างเคียง เช่น ต.นาสาร อ.พระพรหม ก็สามารถผันน้ำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้ด้วย
“ตนจะเดินทางเข้าพบนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเสนอโครงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าสู้ภัยแล้งในพื้นที่ อ.พระพรหม โดยการสร้างฝายน้ำล้นเป็นช่วง ๆ ในลำคลองเขาแก้ว-ถลุงทอง-เสาธง และจะต้องเร่งดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้ทันกับสถานการณ์หากล่าช้าน้ำในลำคลองแห้งขอดจะไม่สามารถกักเก็บน้ำได้มากเพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยในวันพรุ่งนี้ 27 มี.ค.2558 ตนจะนำทีมลงพื้นที่สำรวจจุดที่เหมาะสมในการสร้างฝายกักเก็บน้ำต่อไป
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านแสงวิมาน ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แห่งเพาะปลูกส้มโอ “ทับทิมสยาม” ที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักเช่นกัน โดยนายสมใจ นาคงาม อายุ 68 ปี เกษตรกรสวนส้มโอ บ้านแสงวิมาน อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 15 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในขณะนี้สวนส้มโอจำนวน 30 ไร่ ของตน เริ่มประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างหนัก เนื่องจากในพื้นที่ฝนที่ไม่ตกมานานกว่า 3 เดือน ทำให้ปริมาณน้ำในคลองแสงวิมาน ซึ่งเป็นคลองสายหลักของเกษตรกรในพื้นที่ เริ่มมีสภาพแห้งขอด สันดินในคลองโผล่ ซึ่งปีนี้ความเดือดร้อนเรื่องน้ำทำการเกษตร เพราะภัยแล้งมาเร็วและรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา
“นอกจากนี้ปริมาณน้ำในคลองสาขาสายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่อรับน้ำจากคลองแสงวิมานหลายแห่งเริ่มแห้งขอดอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากอุณหภูมิความร้อนของชั้นบรรยากาศทำให้น้ำระเหยเร็วขึ้น และพื้นที่ทำการเกษตรที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกส้มโอมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก จากปีที่แล้วพื้นที่ปลูกส้มโอมีเพียง 2,000 ไร่ แต่ปัจจุบันพื้นที่ปลูกส้มโอเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3,000 ไร่ ทำให้เกิดการแย่งกันสูบน้ำเพื่อกักเก็บไว้ใช้ในการดูแลสวนส้มโอ ทำให้ขณะนี้สวนส้มโอพันธ์ทับทิมสยามและพันธ์ทองดี ของเกษตรกรทั้งหมด เริ่มขาดแคลนน้ำ และหากไม่ได้รับความช่วยเหลือคาดว่าอีกประมาณ 1 เดือน ปริมาณน้ำในร่องสวนส้มโอ แลพะในลำคลองจะแห้งขอดอย่างแน่นอน และหากถึงเวลานั้นต้นส้มโอทับทิมสยามและส้มโอทองดีที่ปลูกไว้ ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาทอย่างแน่นอน”
นายสมใจ นาคงาม ยังกล่าว่าอีกว่า ที่ผ่านมาเคยร้องขอความช่วยเหลือจากองค์การบริหารส่วนตำบลคลองน้อย ซึ่งทาง อบต.ได้ประสานขอความช่วยเหลือสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำ จากสำนักชลประทาน เพื่อมาติดตั้งที่คลองแสงวิมาน เพื่อผลักดันน้ำในคลองแสงวิมานให้ไหลเข้าคลองสาขาต่าง ๆ เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่ได้สูบน้ำจากคลองสายรองต่างๆ เข้าเก็บกักในร่องสวนส้มโอของเกษตรกร แต่ก็สูบน้ำได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะปริมาณในคลองแสงวิมานเริ่มแห้งขอด จึงไม่สามารถผลักดันเข้าคลองสายรอง จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำ และนำไปติดตั้งที่บริเวณคลองสุขุม หมู่ที่ 19 ตำบลคลองน้อย เพื่อทำการผลักดันน้ำจากคลองสุขุม เข้าสู่คลองแสงวิมาน ก่อนจะสูบน้ำเข้าคลองสาขา เพื่อให้เกษตรกรได้มีน้ำใช้ทำการเกษตรอย่างเพียงพอ.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
26 มี.ค. 2558