เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 19 มี.ค. พ.ต.ท.วิรัตน์ แท่นทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเพลิงไหม้ชุมชนบ้านตก ถนนยมราช ต.คลัง อ.เมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยนายมนัส พงศ์ยี่หล้า รองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช กำลังเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิงหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เจ้าหน้ามาที่หน่วยกู้ภัยประชาร่วมใจ และหน่วยกู้ภัยไต้เต็กตึ๊ง รีบรุดเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังโหมลุกไม้บ้านไม้ยกพื้นสูงเลขที่ 1253/2 ชุมชนบ้านตก ถนนยมราช ข้างตลาดแม่สมจิตต์-ป้อมเพชร อย่างรุนแรง เปลวเพลิงและควันไฟพวยพุ่งออกมาอย่างรุนแรงปกคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ในขณะที่ชาวบ้านข้างเคียงได้วิ่งหนีตายกันชุลมุนวุ่นวาย หลายคนสำลักควันจนเป็นลมเจ้าหน้าที่ต้องช่วยเหลือและทำการปฐมพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
นางวรรณา อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าอยู่ในตลาดสดดังกล่าว แจ้งกับเจ้าหน้าที่ภายในบ้านมีนายสุวิทย์ เชาว์ทีวี อายุ 56 ปี ผู้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ติดอยู่ภายในบ้าน 1 คน เจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยไต้เต็กตึ้ง ได้ฝ่าเปลวเพลิงเข้าไปช่วยนายสุวิทย์ ซึ่งเป็นอัมพฤกษ์ซีกด้านขวา เดินไม่ได้ออกมาจากบริเวณหน้าบ้านรอดตายได้อย่างหวุดหวิด
ในขณะที่เพลิงยังคงลุกไหม้บ้านอย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นบ้านไม้เก่า ๆ จึงเป็นเชื่อเพลิงได้เป็นอย่างดี ประกอบกับอากาศร้อนและมีลมพัดกรรโชกค่อนข้างรุนแรงทำให้ลุกไหม้ลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียงอีก 2-3 หลัง นายมนัส พงศ์ยี่หล้า ประเมินสถานการณ์เห็นว่าคงไม่สามารถฉีดน้ำดับไปบ้านต้นเพลิงได้แน่นอนแล้ว จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามฉีดน้ำดับเพลิงที่จะไหม้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง พร้อมระดมรถดับเพลิงมาเพิ่มเติมระดมฉีดน้ำดับเพลิงนานกว่า 30 นาทีเพลิงจึงสงบ โดยบ้านต้นเพลิงถูกเพลิงหม้ายวอดวายทั้งหลัง ทรัพยบ์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด ส่วนบ้านข่างเคียง 2-3 หลังได้รับความเสียหายเล็กน้อย ในเบื้องต้นคาดว่าค่าเสียหายจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท
จากการสอบสวนปากคำนางวรรณา ให้การว่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่ด้วยกัน 3 คนพี่น้องมีอาชีพค้าขายก๋วยเตี๋ยวและขนมหวานในตลาดสดแม่สมจิตร-ป้อมเพชร ซึ่งอยู่ใกล้ ๆบ้าน ก่อนเกิดเหตุตนและน้องสาวได้ไปขายของที่ตลาด โดยปล่อยให้นายสุวิทย์ พี่ชายซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ซักด้านขวานอนในบ้านเพียงลำพังคนเดียว จนชาวบ้านวิ่งไปบอกว่าไฟไหม้บ้าน จึงพยายามจะวิ่งเข้าไปช่วยเหลือนายสุวิทย์ พี่ชาย แต่เปลวเพลงและควันไฟรุนแรงมาก ทำให้สำลักควันจนเป็นลมล้มพับ อย่างไรก็ตามตนและนายสุวิทย์ พี่ชายได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฯ รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด สำหรับสาเหตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจรอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาตนและคนในบ้านทุกคนพยายามระมัดระวังมาตลอด ก่อนออกจากบ้านจะถอดปลั๊กไฟทุกจุดยกเว้นปลั๊กเสียบตู้เย็น
ในขณะที่นายสุวิทย์ กล่าวว่าในขณะที่นั่งอยู่ในบ้านเห็นไฟลุกไหม้มาจากด้านบนและลุกลามอย่างรวดเร็ว ตนพยายามจะขยับตัวหนีก็ไม่สามารถหนีได้ จึงสำลักควันไฟอยู่นานหลายนาทีและพยายามร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจนเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฯมาช่วยออกมาจากภายในบ้านรอดตายหวุดหวิดดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร โดยเฉพาะน่าจะเกิดจากจุดที่สายไฟฟ้าแรงสูงที่ต่อเข้าไปใช้ภายในบ้าน สายไฟฟ้าและวัสดุอุปกรณ์เก่าและชำรุดทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจรลุกไหม้เผาผลาญบ้านจนวอดวายทั้งหลังดังกล่าว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
19 มี.ค. 2558