(18 มี.ค.) พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (17 มี.ค.) ได้ร่วมกับ พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สว.สส. พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สวป.นำกำลังตำรวจและ อส.ตร.กว่า 50 นายปฏิบัติการบุกจู่โจมเข้าปิดล้อมชุมชนคูขวาง ต.ท่าวัง เขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช เพื่อกวาดล้างจับกุมยาเสพติด โดยมีเป้าหมายจับกุมนายฉัตรชัย มาลา เจ้าของฉายา “เบิร์ด คูเมือง”อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/15 ชุมชนคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งและมีพฤติกรรมทั้งเสพและจำหน่ายยาเสพติดหลายชนิดภายในชุมชน
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการปิดล้อมบ้านร้างไม่มีเลขที่จำนวน 2 ห้อง ซึ่งทราบว่าเป็นแหล่งที่นายฉัตรชัย มาบา หรือ “เบิร์ด คูเมือง” นัดกลุ่มวัยรุ่นมามั่วสุมเสพยาเสพติด ซึ่งหลังบ้านร้างดังเชื่อมต่อกับบ้านเลขที่ 108/15 ชุมชนคูขวาง เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กลุ่มวัยรุ่น 4-5 คนที่กำลังมั่วสุ่มผลิตและเสพน้ำต้มพืชกระท่อมและกัญชาได้แยกย้ายกันวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง ส่วนหนึ่งได้วิ่งหลบหนีออกทางหลังบ้านเข้าไปในบ้านที่หลังบ้านเชื่อมติดกัน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาด้วยความยากลำบาก เนื่องจากบริเวณชุมชนดังกล่าวเป็นชุมชนแออัดใต้ถุนของบ้านเกือบทุกหลังเป็นคูเมืองเก่าที่มีสิ่งปฏิกูลและน้ำครำท่วมขังลุกกว่า 50 ซ.ม. กลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งได้มุดน้ำครำเข้าไปหลบซ่อนอยู่ใต้ถุนบ้าน อยากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมตัวได้
โดยเฉพาะนายฉัตรชัย มาลา หรือ “เบิร์ด คูเมือง” หัวหน้าแก๊งซึ่งเป็นเจ้าถิ่นและมีความชำนาญในการหลบหนี ได้แอบเข้าไปซ่อนในห้องครัวของบ้านหลังหนึ่ง โดยเมื่อ พ.ต.ท.คมสัน นำกำลังเข้าไปตรวจสอบในบ้านหลังดังกล่าว นายฉัตรชัย ตัดสินใจพุ่งหลาวกระโจนฝ่าบาดเกร็ดหน้าตาลงไปในน้ำครำก่อนจะมุดน้ำครำหายเข้าไปใต้ถุนร้านค้าของชำ กบดานซ่อนตัวเงียบอยู่ในน้ำครำ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่ลุยน้ำครำเพื่อติดตามจับกุมแต่ไม่สามารถมุดเข้าไปใต้ถุนร้านขายของชำได้หมดปัญญาที่ตามจับกุมนายฉัตรชัย จึงพยายามตะโกนให้นายฉัตรชัย ออกมามอบตัวแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากนายฉัตรชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางกำลังดักรออยู่นานกว่า 1 ชม.แต่ไร้ร่องรอยของนายฉัตรชัย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถในการตรวจสอบติดตามจับกุมวัยรุ่นเป้าหมายที่วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวตามซอกบ้านในชุมชนและสามารถจับกุมได้ 7 คน ประกอบด้วยนายณัฐวุฒิ จันทวงศ์ อายุ 22 ปี เนื้อตัวมอมแมมและได้รับบาดเจ็บเป็นแผลเหนือคิวซ้ายเนื่องจากกระกระโดดหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายรุ่งศักดิ์ พรหมอาวุธ อายุ 23 ปี นายวีระชัย โจงจาบ อายุ 25 ปี น.ส.เสาวลักษณ์ ภูมิภักดี อายุ 23 ปี แฟนของนายวีระชัย ส่วนอีก 3 คนเป็นเยาวชนอายุ 16-18 ปี พร้อมยึดของกลางประกอบด้วยกัญชาแห้ง 2 ห่อ บ้องกัญชา 1 อัน มีดและเขียงหั่นกัญชา 1 ชุด ต้นกัญชาสดขนาดเล็กที่ปลูกในกระถาง 3 ต้น ยาบ้า 2 เม็ด น้ำต้มพืชกระท่อม 3 ขวด หม้อต้มน้ำพืชกระท่อม 1 ใบ ยาแก้ไอ 3 ขวด มีดพกปลายแหลม 3 เล่ม ถุงพลาสติก หลดกาแฟ และอื่น ๆ อีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังพบขวดยาแก้ไอ กากพืชกระท่อมที่ต้มแล้วถูกทิ้งข้างบ้านเต็มไปหมด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คนพร้อมของกลางมาสอบสวน โดยทำการตรวจปัสสาวะผู้ต้องหา 3 คนแรกพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง โดยทั้ง 3 คนแรก ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ นายรุ่งศักดิ์ และนายวีระชัย ให้การรับสารภาพว่าเสพกัญชาและน้ำต้มพืชกระท่อม จึงดำเนินคดีในข้อหาผลิตและร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 5 ( กัญชา-น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยผลิตกฎหมาย เสพยาเสพติดประเภทที่ 5 ( กัญชา-น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย ส่วน น.ส.เสาวลักษณ์ ให้การปฏิเสธโดยยืนยันว่าไม่ได้ร่วมเสพยาเสพติด แต่มาเป็นเพื่อนนายวีระชัย แฟนหนุ่มเท่านั้น และการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ในข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภทที่ 5 ( กัญชา-น้ำต้มพืชกระท่อม) โดยผลิตกฎหมาย
ในขณะที่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเยาวชน 3 กันถูกจับพร้อมน้ำต้มพืชกระท่อม 2 ขวด ยาบ้า 2 เม็ด กัญชา 1 ห่อ โดยกัญชาและยาบ้าซุกซ่อนไว้ในกีตาร์ตัวหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภทที่ 1 และประเภทที่ 5 ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยผิดกฎหมายดำเนินคดีกับเยาวชนทั้งสามคน โดยเยาวชน 2 คนตรวจปัสสาวะพบว่ามีสีม่วง ให้การรับสารภาพว่าเสพกัญชาและน้ำต้มพืชกระท่อม ส่วนยาบ้าซื้อมายังไม่ทันได้เสพถูกตำรวจจับกุมเสียก่อน ทั้งสองจึงถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 5 (กัญชา ,น้ำต้มพืชกระท่อม) อีก 1 ข้อหา
พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช กล่าวอีกว่า การปฏิบัติการจู่โจมปิดล้อมชุมชนเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชุมชนเป้าหมายที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด ตามยุทธการ“จองเวรกวาดล้างยาเสพติดชุมชนเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช” ซึ่งเป็นปฏิบัติการต่อจากชุมชนซอยต้นหว้า โดยพื้นที่ชุมชนคูขวางเป็นชุมชนแออัดที่มียาเสพติดแพร่ระบาดอย่างหนักชุมชนหนึ่ง ซึ่งยอมรับการเข้าปิดล้อมกวาดล้างจับกุมค่อนข้างยาก แต่ปฏิบัติการในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง สำหรับนายฉัตรชัย มาลา หรือ “เบิร์ด คูเมือง” ขาใหญ่หัวหน้าแก๊งที่สามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับกุมจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อออกไล่ล่าจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้จนได้ รอง ผกก.ป.กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
18 มี.ค. 2558