(8 มี.ค.) ที่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมือง จ.ยนครศรีธรรมราช พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช รอง ผกก.ป. สภ.เมือง จ.นครนศรีราช ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น พ.ต.ต.ปาณสิริ ศรีสวัสดิ์ สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ควบคุมตัวผู้ต้องหาในความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ร.บ.อาวุธปืน จำนวน 8 คน ประกอบด้วยนายธารากร ทองหวาน อายุ 27 ปี นายสุธี รัตนพันธ์ อายุ 20 ปี นาย พรชัย พลทอง อายุ 23 ปี นายสหกิจ สังข์สิงห์ อายุ 23 ปี นายจิรายุ อนันทขาล อายุ 19 ปี นายจักรพงศ์ ประภัสสร อายุ 24 ปี นายบอย (นามสมมุติ ) อายุ 16 ปี และ น.ส.จอย (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 60 เม็ด ยาอัลฟ่าโซแลม (เหล้าแห้ง) 45 เม็ด น้ำต้มพืชกระท่อม 1 หม้อประมาณ 2 ลิตร อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุน 2 นัด มาสอบสวนปากคำและบันทึกจับกุม หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังกวาดล้างจับกุมการจำหน่ายและเสพยาเสพติดในท้องที่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค.2558 ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบจำหน่ายและเสพยาเสพติดหลายชนิดในพื้นที่ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตนจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น นำกำลังตำรวจและ อส.ตร. ดำเนินการตาม “ยุทธการดักไซ” โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณวัดวิสุทธิยารา“ศาลาบางปู” หมู่ 11 ต.ปากพูน พบวัยรุ่นคนหนึ่งท่าทางมีพิรุธจึงทำการตรวจค้นและตรวจปัสสาวะพบว่ามีปัสสาวะสีม่วง วัยรุ่นคนดังกล่าวรับสารภาพว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาสด ๆ ร้อน ๆ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผลจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งในพื้นที่จนได้ผู้ต้องหารวม 8 คนพร้อมยาเสพติดทั้งยาบ้า อัลฟาโซแลม น้ำต้มพืชกระท่อมและอาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุน 2 นัด โดย 2 ใน 8 ผู้ต้องหา มีนายบอย อายุ 16 ปี และ น.ส.จอย อายุ 18 ปี สองผัวเมียที่เพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน
“จากการสอบถามทราบว่าสองผัวเมียวัยเยาว์ได้นัดเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้ยาเสพติดหลายชนิดดังกล่าว ตามคำพังเพยเรียกว่า “ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์” แต่สองผัวเมียพร้อมเพื่อน ๆ มาดื่มน้ำกระท่อมพระจันทร์แทนการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์จนกระทั้งมาถูกจับกุมพร้อมพวกดังกล่าว”
ผู้สื่อข่าวรายงานในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนปากคำและบันทึกการจับกุมนายบอย และ น.ส.จอย สองผัวเมียจะไม่ยอมห่างกันแม้แต่น้อย โดยจะนั่งคลอเคลียพูดคุยหยอกล้อโดยไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวลใด ๆ จนกระทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมส่งพนักงานสอบสวนและต้องนำเข้าห้องควบคุมหรือห้องขัง ซึ่งจะต้องแยกขังคนละห้องกัน นายบอย และ น.ส.จอย พยายามวิงวอนขอให้ตำรวจขังทั้งสองไว้ในห้องขังห้องเดียวกันโดยให้เหตุผลว่า ตนทั้งสองรักกันมากและสัญญาว่าชาตินี้เราจะไม่มีวันพรากจากกัน จนตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนเข้าพิธีมงคลสมรสญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างอวยพรให้ตนทั้งสองอยู่กินกันจนแก่เฒ่าถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรอย่าได้พรากจากกัน หากแยกห้องขังเท่ากับว่าเราต้องพรากจากกัน ผิดคำสัญญา ผิดคำสาบาน จึงขอให้ตำรวจขังเราทั้งสองไว้ในห้องขังเดียวกัน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำตามความต้องการของผัวเมียคู่นี้ไม่ได้ เพราะตามระเบียบการจะควบคุมตัวผู้ต้องหาชายและหญิงไว้ในห้องเดียวกันไม่ได้ ทั้งสองจึงจำใจพรากจากกันเดินคอตกเข้าห้องขังไปด้วยความเศร้าซึม และในคืนวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ยังจับกุมผู้ต้องหาผู้ชายความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติดในตัวเมืองนครศรีธรรมราชได้อีก 3 คนและนำเข้าควบคุมตัวในห้องขังชาย ของ สภ.เมือง เช่นกัน
พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช กล่าวว่า นายบอย และ น.ส.จอย เพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นานและอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน แต่เมื่อทั้งคู่กระทำผิดกฎหมายและถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แม้ทั้งสองจะแต่งงานเป็นผัวเมียถูกต้องตามประเพณีและกฎหมายแต่ด้วยอายุยังถือว่าทั้งสองยังเป็นเยาวชน ศาลอาจจะพิจารณาลงโทษสถานเบาโดยปรับและรอลงอาญา หลังพ้นโทษตนได้แนะนำให้ทั้งสองเข้าพิธีมงคลสมรสกันใหม่อีกครั้ง โดยจะต้องหาคนที่มาทำพิธีมงคลสมรสใหม่ ที่เข้มขลังจริง ๆ ชีวิตจะได้เป็นไปตามคำอวยพรไม่ต้องมาพรากจากกันอีก แต่ตนขอแนะนำว่าขอให้ทั้งคู่เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดโอกาสที่ทั้งสองจะอยู่กินกันอย่างมีความสุข ไม่พรากจากกันก็จะเกิดขึ้นได้ แต่หากยังมั่วสุมเสพยาเสพติดจะต้องถูกตำรวจจับกุมและต้องพรากจากกันอีกอย่างแน่นอน รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกล่าวอย่างติดตลกในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
8 มี.ค. 2558