เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 6 มี.ค. 2558 ที่ห้องประชุมจวน วรรณรัตน์ กองทัพภาคที่ 4 พลตรีเรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการขนย้ายยางลูกขุนจำนวน 21,479 ตันจาก 21 โรงงานใน 14 จังหวัดภาคใต้ ไปยังโกดังจังหวัดชลบุรี โดยมีนายกสมาคมขนส่งและโลจิสติกส์ภาคใต้ ผู้ประกอบการขนส่ง องค์การสวนยาง ผู้ประกอบการโรงรม หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ มีการรายงานถึงสถานการณ์ ความพร้อมของการขนส่ง พบว่าในเบื้องต้นได้กำหนดขนยางทั้งหมดรวมกว่า 700 เที่ยว โดยใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ ขนส่งวันละ 50 คัน ๆ ละ 30 ตัน โดยได้มีการพูดคุยในรายละเอียดของความรับผิดชอบแต่ละจุด เช่นที่ การขนย้ายจากโรงรม การขนส่งในระหว่างเดินทาง การนำยางลงเก็บที่โกดัง ซึ่งจะต้องมีพื้นที่เพียงพอ การเข้าออกสะดวก และเคลื่อนย้ายยางได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในเรื่องของโรงรมจะไม่มีปัญหาแต่ติดปัญหาที่ โกดังที่เป็นแหล่งลงยางจากรถบรรทุก ที่รถไม่สามารถเข้าได้ทีละหลายคัน และจำนวนคนที่จะนำยางลงจากรถ การแยกประเภทของยางแต่ละขนาด ที่มีความแตกต่างกัน การจำแนกยางออกเป็นกอง ๆ การกำหนดระยะเวลาขนส่งแต่ละเที่ยวจะต้องไม่เกิน 3 วัน รวมทั้ง เรื่องของอัตราค่าขนส่ง ซึ่งผู้ประกอบการขนส่งเสร็จต้องตีรถกลับ ทำให้ต้องคิดราคาทั้งไปและกลับ
ในขณะที่ผู้ประกอบการโรงรม เช่น โรงรม บริษัท แอลทีการยาง กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาที่สำคัญคือ เมื่อโรงงานได้ผลิตเสร็จเรียบร้อยตามเงื่อนไขสัญญา ซึ่งเดิมกำหนดว่าจะต้องมีการขนย้ายออกไปภายใน 7 วันหลังดำเนินการเสร็จเรียบร้อย แต่เมื่อไม่สามารถขนยางออกไปได้ ส่งผลให้พื้นที่มีความแออัดติดขัดในการปฏิบัติงาน นายกสมาคมขนส่งและโลจิสติกส์ภาคใต้ กล่าวว่า ทุกเรื่องต้องมีการวางแผนและประสานงานกันอย่างรอบคอบทั้งจุดขึ้นยาง ซึ่งอาจไม่มีปัญหามากนัก เนื่องจากกระจายอยู่ถึง 21 แห่ง การเดินทาง และปลายทาง ซึ่งอาจเป็นปัญหาเนื่องจาก รถทุกคันมุ่งเข้าไปยังจุดเดียวกัน อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายพร้อมจะให้การช่วยเหลือ สนับสนุน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนั้น การขนส่งจะมีทั้งรถที่เป็นสมาชิกของสมาคม และภาคเอกชนอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก แต่พร้อมจะทำงานร่วมกัน
ทางด้านนายอรุณ เลิศวิไลย์ รักษาการผู้อำนวยการองค์การสวนยาง กล่าวว่า ที่ผ่านมา องค์การสวนยางได้ใช้การจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ โดยพิจารณาจากผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญ ทำงานได้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยประสานงานกันระหว่าง โรงรม ผู้ประกอบการขนส่ง โกดัง และ องค์การสวนยาง ซึ่งมีผู้ประกอบการที่ทำงานร่วมกับ องค์การสวนยางประมาณ 15 ราย ซึ่งเดิมเป็นการขนส่งในระยะทางไม่ไกล อยู่ในพื้นที่ แต่ครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ไกลมาก และมีการกำหนดเบิกจ่ายเงินทุกสัปดาห์ จึงต้องมีการหารือ พูดคุยกันอีกครั้ง และหลังจาก ประธานปิดการประชุมแล้ว ได้นัดประชุมร่วมกันกับ โรงรม ผู้ประกอบการขนส่ง และโกดังปลายทางอีกครั้ง ก่อนจะสรุปและจัดทำข้อตกลง หรือสัญญาการดำเนินงานร่วมกัน.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
6 มี.ค. 2558