นครศรีธรรมราช จึงมีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่น ประเพณี มาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ,วิสาขบูชา ,บุญสารทเดือนสิบ,ชักพระออกพรรษา,บุญให้ทานไฟ เป็นต้น โดยเฉพาะประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” เป็นประเพณีที่เก่าแก่ตามคติความเชื่อมแต่ครั้งโบราณที่ว่า “หากจะทำบุญหรือกราบไหว้บูชาให้ได้กุศลจริง ๆ จะต้องปฏิบัติหน้าพระพักตร์หรือใกล้ชิดพระพุทธองค์ให้มากที่สุด แต่เมื่อพระพุทธองค์เสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้ว การได้ทำบุญกราบไหว้พระพุทธรูป พระเจดีย์ ยิ่งถ้าเป็นพระบรมธาตุเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าก็เสมือนว่าได้ทำบุญหรือกราบไหว้บูชาอย่างใกล้ชิดกับพระพุทธองค์เช่นเดียวกัน”
การจัดงานประเพณี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ซึ่งยึดถือปฏิบัติต่อเนื่องกันมาจนเป็นประเพณีที่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองนครศรีธรรมราชแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้ แต่เดิมจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 หรือวัน “มาฆบูชา” และในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 หรือวัน “วิสาขบูชา” แต่ในระยะหลัง ๆ ชาวพุทธจะนิยมมาร่วมแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชามากกว่าในวันวิสาขบูชา ทางจังหวัดจึงหันมาเน้นการจัดงานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในวันมาฆบูชาเป็นหลัก เรียกว่าประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ” มาจนถึงปัจจุบัน
ตามตำนานระบุว่าในราว พ.ศ. 1773 ในขณะที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราช และชาวเมืองนครศรีธรรมราชกำลังจัดเตรียมงานสมโภชองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ปรากฏว่ามีชาวเมืองอินทปัตย์ในเขมร ประมาณ 100 คน เดินทางด้วยเรือสำเภาเพื่อนำผ้าพระบฏ ซึ่งเป็นผ้าที่มีลายเขียนเกี่ยวกับพุทธประวัติมุ่งหน้าไปบูชาพระพุทธเจ้าที่เมืองลังกา แต่เรือสำเภาเกิดถูกพายุจนอับปางกลางทะเล ผ้าพระบฏและชาวอินทปัตย์ประมาณ 10 คนรอดชีวิต ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นที่ชายหาดปากพนัง ชาวปากพนังจึงนำผ้าพระบฏมาถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช และมีมติร่วมกันว่าในการสมโภชพระบรมธาตุเจดีย์ในวันเพ็ญเดือน 3 หรือ “วันมาฆบูชา”จะมีแห่นำเอาผ้าพระบฏดังกล่าวไปถวายโอบห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งชาวอินทปัตย์ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงก่อเกิดขึ้นและยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี 2553 นายสุเทพ เกื้อสังข์ ผอ.ททท.นครศรีธรรมราชในขณะนั้น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับงานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุเมืองนครฯขึ้นเป็นงานประเพณีในระดับนานาชาติ โดยเชิญประเทศต่าง ๆ ในทวีปเอเชีย 11 ประเทศ รวมทั้งอดีตเมือง 12 นักษัตรเมืองบริวารเมืองนครฯ ในอดีตและจาก 4 ภูมิภาคของประเทศมาร่วมกิจกรรม จนได้รับรางวัล “นวัตกรรมตลาดท่องเที่ยวดีเด่น ประจำปี 54 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” สำหรับในปีนี้เป็นปีที่ 6 ของการยกระดับเป็นนานาชาติ และเป็นปีที่ 785 ของการจัดประเพณี“แห่ผ้าขึ้นธาตุ”ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ 2558 ณ สวนศรีธรรมโศกราชและวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า กล่าวว่า ในปีนี้ทางจังหวัดได้รับพระมหากรุณาพระราชทานผ้าพระบฎ รวม 5 ผืน ประกอบด้วย“ผ้าพระบฎพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี” โดยกิจกรรมระหว่าง 1-4 กุมภาพันธ์ 2558 เริ่มตั้งแต่การสวดมนต์ ฟังธรรม เจริญจิตภาวนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา การจัดนิทรรศการ เรื่อง“ต้นธารสยาม – ลังกาวงศ์”การสาธิตการผลิตการทอ และการแสดงผ้าพระบฏ 4 ภาค การเขียนผ้าพระบฏ การประกอบพิธีกวนข้าวมธุปายาส 12 กระทะ 12 นักษัตร พิธีสมโภชและอัญเชิญผ้าพระบฏพระราชทาน ผ้าพระบฏนานาชาติ การประกวดสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ กิจกรรมแสดงผลงานภาพวาดระบายสี “แห่ผ้าขึ้นธาตุที่ฉันรู้จัก” เป็นต้น ในส่วนวันพุธที่ 4 มีนาคม 2558 ซึ่งตรงกับ“วันมาฆบูชา”ในภาคเช้าเวลา 06.30 น. มีพิธีทำบุญตักบาตร ณ.วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
จากนั้นในเวลา 15.00 น. จะเป็นช่วงไฮไลต์สำคัญที่สุดของประเพณี “มาฆบูชา แห่ผ่าขึ้นธาตุนานาชาติที่เมืองนคร” คือการประกอบพิธี “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” โดยริ้วขบวนที่ยิ่งใหญ่อลังการ ตระการตา โดยการอัญเชิญผ้าพระบฏพระราชทานนำหน้าริ้วขบวน ตามด้วยขบวนแห่ผ้าพระบฏของหน่วยงานภาครัฐและภาคประชาชน ริ้วขบวนผ้าพระบฏ 7 ชาติในเอเซียประกอบด้วย ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ศรีลังกา อินเดีย และประเทศไทย ขบวนผ้าพระบฏผืนใหญ่ที่สุด และผ้าพระบฏที่ยาวที่สุดของประชาชน 2.5 กิโลเมตร เคลื่อนออกจากศาลาประดู่หก ไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อประกอบพิธีถวายผ้าพระบฎเป็นพุทธบูชาต่อไป ส่วนภาคค่ำตั้งแต่เวลา 18.00 น.ชาวพุทธเวียนเทียน ณ.บริเวณลานโพธิ์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
“โดยในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2558 จะมีการรณรงค์แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดขาวอีกด้วย นอกจากนี้ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2558 สมาคมชาวนครศรีธรรมราชกรุงเทพมหานคร สมาคมชาวปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับอีกหลายองค์กรจะขบวนแรลลี่ถวายผ้าพระบฏ “มาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุ นานาชาติที่เมืองนคร” อีกด้วย
ด้านนางนภสร ค้าขาย ผอ.ททท.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2558 ททท.นครศรีธรรมราชได้เชิญตัวแทนบริษัทนำเที่ยวชั้นนำจากตลาดอินเดียมาทัศนศึกษาและร่วมงานแห่ผ้าขึ้นธาตุฯ และ ททท.ได้ร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวนครศรีธรรมราช จัดแพคเกจท่องเที่ยว “พลังศรัทธาแห่ผ้าขึ้นธาตุ” 2 วัน 1 คืน ร่วมกิจกรรม “แห่ผ้าขึ้นธาตุท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้ามพลาด” โดยมีแหล่งท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด อาทิ วัดธาตุน้อย สูดอากาศบริสุทธิ์ที่คีรีวง ชมโลมาสีชมพูที่อ่าวขนอม เป็นต้น คาดว่าจะมีกลุ่มผู้แสวงบุญ ทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดภาคใต้เดินทางมาร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 30,000 คน มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 100 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ในขณะที่ ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายวิชาการ การจัดทำเอกสารเสนอพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเป็นมรดกโลก กล่าวว่า การจัดงานมาฆบูชา แห่ผ้าขึ้นธาตุนานาชาติ ในปีนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากมีการเก็บภาพกิจกรรมต่าง ๆ บรรจุลงในเอกสารฉบับสมบูรณ์ การเสนอพระบรมธาตุฯ เป็นมรดกโลกหรือ nomination dossier ด้วย และเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง สมบูรณ์ของเอกสาร หลังจากการประชุมสัมมนานักวิชาการทั้งจากส่วนกลางและท้องถิ่นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาและส่งไปยังกรมศิลปากรเพื่อกลั่นกรองก่อนแปลเป็นภาษาอังกฤษ หลังจากนั้นจะจัดสัมมนาอีกครั้งหนึ่งช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม–กันยายน 2558 เพื่อปรับปรุงแก้ไข ก่อนจัดส่งไปยังคณะกรรมการมรดกโลกที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ให้คณะกรรมการตรวจสอบเบื้องต้นและส่งกลับคืนมาให้ประเทศไทย ทำการปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่บกพร่องให้สมบูรณ์ที่สุด และประเทศไทยจะส่งฉบับสมบูรณ์กลับไปให้คณะกรรมการมรดกโลกได้พิจารณาในช่วงเดือนมกราคม 2559 .
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
2 มี.ค. 2558