เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 27 ก.พ. 2558 พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปาณสิริ ศรีสวัสดิ์ สวป.นำกำลังตำรวจสายตรวจและกำลัง อส.ตร.ออกไล่ล่าติดตามจับกุม 2 คนร้ายที่ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 100 สี แดง ทะเบียน กวจ-569 นครศรีธรรมราช ตระเวนก่อคดีใช้อาวุธปืนปากกา ไม่ทราบขนาด และมีดปลายแหลมชิงทรัพย์ผู้เสียหายหลายรายบริเวณหน้าร้านอาหาร “ยกเลซีฟู๊ด” ถนนสะพานยาว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียหาย 1 นัดและชิงเงินสดไปได้จำนวนหนึ่ง ก่อนขับรถ จยย.ตระเวณก่อเหตุในย่านตลาดท่าวัง ใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช อีกหลายครั้ง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ล่าติดตามจับกุมพร้อมปิดถนนทางเข้าออกเมืองทุกเส้นทาง จนกระทั้งพบ จยย.ของคนร้ายอยู่บริเวณหน้าโรงแรมเวียงฟ้า มุ่งหน้าไปทางสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับ จยย.เลี้ยวขวาหลบหนีไปทางวัดศรีทวี ก่อนเลี้ยวซ้ายไปทางถนนสะพานยาว จนกระทั้งถึงหน้าโรงแรมช่อลัดดา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถ จยย.จึงตัดสินใจขับรถ จยย.ปาดหน้าขวางรถ จยย.คนร้าย ทำให้รถคนร้ายเสียหลักเฉี่ยวพุ่งชนรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนรถ จยย.ล้มทั้ง 2 คัน ตำรวจและสองคนร้ายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สองคนร้ายวัยโจ๋ยังไม่สิ้นฤทธิ์ พยายามลุกขึ้นวิ่งหนีและชักอาวุธปืนปากกาออกมาจะยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกชาร์ปเข้าถึงตัวจับกุมเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด พร้อมอาวุธปืนปากกาขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 1 นัด ปลอกกระสุน 1 ปลอก มีดปลายแหลมยาวเกือบ 1 คืบ 1 เล่ม เงินสดจำนวน 280 บาท โทรศัพท์ 1 เครื่องพร้อมรถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 คันเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ต้องหาประกอบด้วยนายนันทกฤษณ์ ครุวรรณ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/9 หมู่ 9 ต.นาเคียน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และนายธนธรณ์ ไชยพิทักษ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116/115 หมู่ 9 ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่ในอาการเมายาเสพติดพูดจาวกไปวนมา ในขณะที่ นายวิทยา รอดบิน อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1819/11 ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสาวประเภทสอง และเป็นผู้เสียหายรายแรก และ น.ส.ชนาธิพย์ ถนนแก้ว อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180/8 ถนนสะพานยาว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียหายรายที่ 2 เดินทางมาชี้ตัว 2 ผู้ต้องหาพร้อมยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้และยิงก่อนชิงทรัพย์ผู้เสียหายทั้งสองรายจริง
โดยนายนันทกฤษณ์ ให้การว่า ตนเป็นบุตรชายของอดีตกำนันดังคนหนึ่งใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช แต่เนื่องจากความประพฤติไม่เรียบร้อยจึงถูกบิดาตัดหางปล่อยวัด ตนจึงมาอาศัยอยู่กับญาติที่ หมู่ 9 ต.นาเคียน ก่อนเกิดเหตุตนและนายนายธนธรณ์ เพื่อนคู่หูได้ดื่มเบียร์ผสมยาอัลปราโซแลม จนเมามายได้ที่แต่ยังอยากจะดื่มเบียร์ต่อแต่ไม่มีเงิน จึงชวนกันขับรถ จยย.ออกมาตระเวณใช้ปืนปากกาและมีดปลายแหลมจี้ชิงทรัพย์หลายราย แต่ตนจำไม่ได้ว่ากี่ราย โดยจะข่มขู่บังคับเอาเงินจากผู้เสียหายรายละ 40-50 บาทเท่านั้น แต่มีผู้เสียหายที่ขัดขืนและหลบหนีไปได้หลายราย จนกระทั้งขับรถ จยย.มานายวิทยา สาวประเภทสอง จึงใช้อาวุธปืนจี้และขอให้นายวิทยาส่งเวินสดมาใฝห้ 40-50 บาท แต่นายวิทยา ขัดขืนตนจึงใช้อาวุธปืนปากกายิงใส่ 1 นัด แต่กระสุนพลาด นายวิทยา เกิดความกลัวว่าตนจะยิงซ้ำจึงยินยอมให้เงินสดไปจำนวน 40 บาท หลังจากนั้นจึงขับรถตระเวนหาเหยื่อรายใหม่ก่อนจะพบ น.ส. ชนาธิพย์ บริเวณหน้าห้างสหไทยสรรพสินค้า ตลาดท่าวัง ใจกลางมืองนครศรีธรรมราชและใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินสดไปได้ 40 บาท จนกระทั้งมาถูกตำรวจปิดล้อมไล่ล่าติดตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ดังกล่าว
พ.ต.ท.คมสัน พฤศวานิช กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้นสองผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าทั้งสองเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งผู้เสียหายส่วนหนึ่งไม่ได้แจ้งความเนื่องจากคนร้ายได้เงินไปรายละ 40-50 บาท ซึ่งตำรวจจะได้สอบสวนขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตามตนอยากให้ผู้เสียหายทั้งที่แจ้งความและยังไม่แจ้งความมาดูตัวคนร้ายเพื่อดำเนินคดีสถานหนักกับสองผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธปืน อาวุธมีด และใช้รถ จยย.เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งเป็นการก่อเหตุต่างกรรมต่างวาระ นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสองยังใช้อาวุธปืนยิงนายวิทยา 1 ในผู้เสีย ทางตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นอีก 1 กระทงด้วย.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
27 ก.พ. 2558