เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 ก.พ. 2558 ผู้สื่อข่าวรายได้แจ้งจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่าได้พบ ผศ.วิรัตน์ เลี้ยงสมบูรณ์ ประธานสาขาวิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลิตเครื่องดนตรีหลายชนิดจากไม้ไผ่ นำมาแสดงโชว์ได้อย่างไพเราะจับใจ คุณภาพเสียงไม่แพ้เครื่องดนตรีสากลราคาแพง โดยเฉพาะการคิดค้นและสร้างกีต้าเบสซึ่งน่าจะเป็นชิ้นแรกของโลก ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่ตึกดนตรี ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช พบ ผศ.ดร.วิรัตน์ เลี้ยงสมบูรณ์ กำลังสอนลูกศิษย์ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเล่นดนตรีอยู่ในห้องซ้อมดนตรี โดยสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้กับผู้สื่อข่าวเป็นอย่างมากคือเครื่องดนตรีเกือบทุกชิ้นทั้งไวโอลิน แวกโซโฟน กีต้าเบส ทำมาจากไม้ไผ่ ซึ่งเป็นวัสดุหาง่ายขึ้นอยู่ตามธรรมชาติทั่วไป นอกจากนี้ยังมีขลุ่ยที่ทำจากกะลามะพร้าวอีกด้วย
ผศ.วิรัตน์ เลี้ยงสมบูรณ์ อายุ 57 ปี เปิดเผยว่า ตนมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.นครราชสีมา ในสมัยที่เรียนวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จ เคยเป็นดาราแสดงภาพยนต์หลายเรื่อง ออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม และเรียนจบปริญญาตรีทางด้านดนตรีวิทยาลัยครูบ้านสมเด็จ เป็นรุนแรก บรรจุเข้ารับราชการในปี 2523 โดยสอนวิชาดนตรีอยู่วิทยาลัยครูสวนสุนันทา(ในสมัยนั้น) และย้ายมาประจำวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราชตั้งแต่ปี 2530 ซึ่งในปัจจุบันวิทยาลัยครูนครศรีธรรมราชเปลี่ยนมาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ต่อมา เข้าเรียนต่อปริญญาโทสาขาดนตรีมหาวิทยาลัยมหิดลจบเป็นรุ่นแรกเช่นกัน ปัจจุบันกำลังเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามใกล้จะจบแล้ว
“เนื่องจากเครื่องดนตรีที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีราคาแพงมาก ๆ ตนจึงได้ผลิตเครื่องดนตรีที่ทำจากวัสดุในท้องถิ่นประกอบด้วย ทั้งไวโอลิน แซกโซโฟน ทำจากไม้ไผ่ และขลุ่ยทำจากกะลามะพร้าว โดยหลายชนิดนำมาประกอบเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่กลายเป็นเครื่องดนตรีไฟฟ้าสามารถนำมาเล่นดนตรีได้เหมือนเครื่องดนตรีราคาแพงทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะการคิดค้นและสร้างขลุ่ยจากกะลามะพร้าว ซึ่งไม่มีข้อมูลว่าใครเคยสร้างขลุ่ยจากกะลามะพร้าวมาก่อน ตนจึงน่าจะเป็นคนแรกของโลก”
สำหรับการสร้างกีตาร์เบสจากไม้ไผ่ได้แนวคิดมาจากการที่มหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราชจัดกิจกรรมงานนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ เปเปอร์ แอนด์ อิงค์ ระหว่างวันที่ 17-30 มิถุนายน 2557 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองคอน บริเวณชั้น 2 อุทยานการเรียนรู้เมืองนครศรีธรรมราช (CLP) มีชาวต่างชาติมาร่วมกิจกรรม 7 ชาติ ตนจึงนำเครื่องดนตรีไม้ไผ่ไปแสดงโชว์ เป็นที่ชื่นชอบของคนที่มาร่วมกิจกรรมโดยเฉพาะชาวต่างชาติ แต่เขาบอกว่าดนตรีที่แสดงขาดเสียงทุ่ม เสียงต่ำหรือเสียงเบส หลังจากวันนั้นตนก็พยายามคิดค้นที่จะสร้างกีตาร์เบสจากไม่ไผ่ โดยให้ลูกศิษย์ที่มีภูมิลำเนาอยู่ อ.ลานสกา ช่วยตัดไม้ไผ่ตง ซึ่งเป็นไม้ไผ่ที่มีความหนาและปล้องยาวมาให้ 1 ต้น ลูกศิษย์ได้ตัดมาให้ทั้งต้นนาวประมาณ 20 เมตร หรือสูงเท่าตึก 4 ชั้นลากมาให้ถึงในมหาวิทยาลัย ตนจึงเลือกเอาประมาณ 2 ปล้องยาวประมาณ 1.60 เมตร นำมาประดิษฐ์เป็นกีตาร์เบสไฟฟ้า
“โดยเริ่มจากเหลาและตกแต่งไม้ไผ่ จากนั้นเจาะรูปด้านบนและด้านล้างใส่สาย 4 สายเหมือนกีตาร์เบสทั่ว ๆ ไป และนำอุปกรณ์ตัวบิดขึงสายติดตั้งด้านบน 2 ข้าง ๆ ละ 2 อัน ด้านหลังเจาะกลม ๆ ห่างกันประมาณ 20 นิ้ว ก่อนจะเจาะเป็นร่องกว้าง 50 มิลลิเมตรยาวจากข้างรูบนมายังรูด้านล้างเพื่อเป็นกล่องเสียง จากนั้นนำอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์มาติดตั้งในปล้องไม้ไผ่ด้านล่างเพื่อให้เกิดเสียงเป็นกีฬาไฟฟ้า จากนั้นทำการปรับแต่งและจูนปรับเสียงอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนนำมาเล่นประกอบกับเครื่องดนตรีชิ้นอื่น ๆ พบว่าสามารถเล่นเข้ากันได้เป็นอย่างดี แม้ยังจะต้องปรับปรุงรูปลักษณ์และปรับเรื่องคุณภาพเสียงอีกเล็กน้อยก็ตาม และน่าจะเป็นกีตาร์เบสจากไม้ไผ่ชิ้นแรกของโลกเช่นกัน”
ผศ.วิรัตน์ เลี้ยงสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ตนแปลกใจมากว่าทำไมทุกภาคของประเทศไทย หรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่จีนไปจนถึงอินโดนีเซียเขาจะมีเครื่องดนตรีประเภทคือดีดอยู่ด้วย ในประเทศไทยก็มีทุกภาคแต่ในภาคใต้ตอนบนและตอนกลางเครื่องดนตรีที่เป็นเครื่องดีดกลับหายไป และกลับไปมีใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่ก็เป็นเครื่องดนตรีของมาเลเซียเขา ตนจึงอยากจะประดิษฐ์เครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีดขึ้น เพื่อเป็นเครื่องดนตรีเครื่องดีดชิ้นแรกของภาคใต้ โดยกำลังศึกษาเครื่องดนตรีของเงาะป่าซาไกอยู่ชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า “บาเตช” (Batazz) ที่ทำจากไม้ไผ่มี 2 สาย โดยตนจะนำมาดัดแปลงเป็น 18 สาย เพื่อให้เหมือนมีเครื่องดนตรีทุกชิ้นอยู่ในเครื่องดนตรีชิ้นนี้ชิ้นเดียว โดยอยู่ระหว่างการศึกษาหาเทคนิคการเลือกไม้ไผ่ เทคนิคการทำให้เกิดเสียงและเทคนิคอื่น ๆ จากเงาะป่าซาไก่ คาดว่าน่าจะประดิษฐ์เครื่องดนตรีชิ้นนี้สำเร็จภายในปี 2558 นี้อย่างแน่นอน
“หากเครื่องดนตรีทุกชนิดสามารถผลิตได้จากวัสดุในท้องถิ่น มีราคาถูก ประชาขนชาวไทยที่ส่วนใหญ่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับไม้ไผ่หรือวัสดุอื่น ๆ อยู่แล้วสามารถที่จะนำไปผลิตหรือพัฒนาต่อยอดให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น ตนเชื่อว่าเครื่องดนตรีจากไม้ไผก็จะขายสร้างรายได้เช่นกัน และหากมีโอกาสตนจะนำวงดนตรีวง “ไมไผ่” ออกแสดงเปิดตัวและเผยแพร่ตามงานต่าง ๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชให้มากขึ้น”
ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ผศ.วิรัตน์ เลี้ยงสมบูรณ์ พร้อมด้วยลูกศิษย์ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จึงบรรเลงเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่โชว์อย่างคล่องแคล่วและไพเราะ โดยเฉพาะ “เถี่ยนมีมี่” ซึ่งเพลงจีนเข้าบรรยากาศวันตรุษจีนได้อย่างไพเราะจับใจก่อนจะโชว์เพลงดัง “ขอในเธอแลกเบอร์โทร” ของศิลปิน “หญิงลี ศรีจมพล” โดยเฉพาะท่วงท่าลีลาของ น.ส.สุวดี อาลีแอ หรือ “น้องหนูดี” อายุ 20 ปี นักศึกษาสาขาดนตรี ปี 2 โชว์ลีล่าการเล่นไวโอลินทั้ง 2 เพลงได้อย่างไพเราะ สนุกสนานเร้าใจอย่างกับเป็นนักไวโอลินมืออาชีพสร้างความประทับใจให้กับสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ผศ.วิรัตน์ เลี้ยงสมบูรณ์ ยังโชว์การเล่นเครื่องดนตรีประจำชาติอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่งที่จะนำมาดัดแปลงประยุกต์ทำจากไม้ไผ่อีกชิ้นหนึ่งเช่นกัน.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
18 ก.พ. 2558