เมื่อวันที่ 2 ก.พ.12558 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช นายณรงค์ฤทธิ์ กำลังมาก อายุ 50 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำเอกสารหลักฐานการถือครองที่ดิน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสื่อร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และ คสช.ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ตรวจสอบกรณีนายทุนผู้ประกอบการเหมืองแร่ ซึ่งหมดสัมปทานไปแล้ว แต่ได้มีการปรับพื้นที่ทำสวนปาล์มน้ำมันพร้อมยื่นสำนักงานที่ดินออกโฉนดทับที่ทำกินของชาวบ้าน เนื้อที่รวมกว่า 500ไร่ ทำให้ชาวบ้านชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3,4 ,5 และหมู่ 7 ต.เขาน้อย อ.สิชล กว่า 200 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีนายนภดล กีรติการพิสุทธิ์ ป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
นายณรงค์ฤทธิ์ กำลังมาก เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านได้เข้าไปปักหลักทำมาหากินตั้งแต่ปี 2505 ต่อมาได้มีนายทุนจากต่างจังหวัดได้รับสัมปทานเข้าไปทำเหมืองแร่ในเนื้อที่ประมาณ 3,000 ไร่ และได้มีการเปลี่ยนตัวผู้ได้รับสัมปทานเรื่องมา จนกระทั้งบริษัท เชียร์ร่าไมน์นิ่ง จำกัด ของนายประดิษฐ์ ตันติวิวัฒน์ รับช่วงเป็นรายสุดท้าย และเมื่อถึงปี 2546 สัมปทานบัตรหมดอายุ ซึ่งตามหลักการจะต้องคืนที่ดินให้แก่ผู้ครอบครองอยู่ก่อนตาม พ.ร.บ.เหมืองแร่ ปี 2510 แต่เจ้าของเหมืองแร่กลับปรับสภาพพื้นที่มาปลูกปาล์มน้ำมัน ก่อนจะสมคบกับเจ้าหน้าที่รัฐแอบออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ และยังออกโฉนดไปทับที่ทำกินของชาวบ้านกว่า 200 ราย ในเนื้อที่กว่า 500 ไร่
“ตนและชาวบ้านได้ต่อสู้เรียกร้องที่ทำกินคืนมาอย่างต่อเนื่อง 10 ปี แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด โดยชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนหนึ่ง ไม่กล้าออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพราะเกรงกลัวอิทธิพลนายทุน ซึ่งข้าราชทหารบำนาญนายหนึ่งเข้าไปข่มขู่ชาวบ้าน ในขณะที่สื่อมวลชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชบางคนได้รับผลประโยชน์จากนายทุน ก็ไม่ยอมเสนอข่าวความเดือดร้อนของชาวบ้านให้ผู้รับผิดชอบได้รับทราบเพื่อเข้ามาแก้ปัญหา ดังนั้นการมายื่นหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้จะเป็นการร้องเรียนครั้งสุดท้าย
ทั้งนี้เนื่องจากตนเองและชาวบ้านมั่นในว่าในยุคนี้เป็นยุคปฏิรูปบ้านเมือง โดน คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี น่าจะมีการดำเนินการตรวจสอบแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตนจึงฝากไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้และให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้านตาดำ ๆ ด้วยเถิดเจ้าประคุณ” นายณรงค์ฤทธิ์ กำลังมาก กล่าววิงวอนพร้อมยกมือท้วมหัวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
2 ก.พ. 2558