(16 ม.ค.) พ.ต.อ.ภูดิศ นรสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช รรท.ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานว่ามีขบวนการค้ายาเสพติดแฝงตัวเป็นรักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช โดยเช่าหอพักในบ้านหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช หมู่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เป็นแหล่งค้ายาเสพติดหลายประเภท จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ฐิติสโรจน์ รอง ผกก.ป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.ต.สุเมฆ เส็นหล๊ะ สว.สส.สภ.เมือง และ ร.ต.อ พีระพล พิกุล รอง สว.สส .สภ.เมือง นำกำลัง ชุด ปส.เมือง ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนทราบจุดเป้าหมายจำนวน 3 จุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าตรวจค้นจับกุม โดยจัดแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ชุดแรกเข้าตรวจค้นห้องเช่าเลขที่ 208 ห้อง หอพักอรชุลี ซอยพูลพิพัฒน์ หมู่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พบนายทนงศักดิ์หรือแบงค์ ชูเสือหึง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 137/1 หมู่ 6 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง อยู่ภายในห้องพัก จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด โดยว่านายทนงศักดิ์หรือแบงค์ ชูเสือหึง อายุ 22 ปี มีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ในกระแสเลือด จึงแจ้งข้อหากับเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ดำเนินคดีกับนายทนงศักดิ์หรือแบงค์ ชูเสือหึง โดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายทะนงศักดิ์ หรือแบงค์ ชูเสือหึง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ชุดที่ 2 เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 305 พบนักศึกษาวัยรุ่นรวมกันอยู่ในห้อง 5 คน นายกฤษณชัย หรือบ่าว คำนวน อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 4 ต.การะเกด อ.เชียใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช นายอำนาจศักดิ์ หรือนาจ ซุ่นแซ่ล้อ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/2 หมู่ 6 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราชนายอนุพงษ์หรือนุ ซุ่นแซ่ล้อ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/2 หมู่ 6 ต.วังหิน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช นายธีรยุทธหรือเอ็ม วุฒิวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/6 หมู่ 18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ น.ส.เสาวนีย์หรือเสา เอียดญวน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/1 หมู่ 1 ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
และจากการตรวจค้นพบพร้อมของกลาง อัลปราโซแลม จำนวน 1,670 เม็ด อาวุธปืนแบบประดิษฐเองใช้กระสุนขนาด .38 ม.ม. จำนวน 1 กระ บอก กระสุนปืนขนาด . 38 ม.ม. จำนวน 3 นัด ถุงพลาสติกใสสำหรับแบ่งบรรจุยาเสพติด จำนวน 1 แพ๊ค ยาแก้ไอชนิดน้ำ จำนวน 30 ขวด เงินสด จำนวน 2,200 บาท
โดยในขณะเข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้นำยาแก้ไอเกือบ 300 ขวดใส่ถุงปุ๋ยโยนทิ้งลงมาจากหน้าต่างชั้น 3 ของหอพัก ทำให้ยาแก้ไอแตกกระจายทั้งหมด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 อัลปราโซแลม ไว้ในครอบครองเพื่อขายหรือมีไว้เพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาตร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งยาแผนปัจจุบัน (ยาแก้ไอ)โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 มาตรา12 ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยในชั้นจับกุมนายกฤษณชัย หรือบ่าว คำนวน ให้การีระบสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 คนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
กำลังตำรวจชุดที่ 3 ได้เข้าตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยวิจิตร หมู่ 1 ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ใกล้กับลหอพักอรชุลี พบนายอรรถวุฒิ หรือเฟรม นาคแก้ว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/2 หมู่ 6 ต.นาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช อยู่ภายในห้องและจากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 4 เม็ด น้ำต้มพืชกระท่อม ปริมาตร 2 ลิตร ใบพืชกระท่อม จำนวน 14 มัด หม้อใช้ต้มพืชกระท่อม 1 ใบ อาวุธปืนลุกซองแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนลูกซองขนาด เบอร์ 12 จำนวน 2 นัด เงินสด จำนวน 800 บาท
ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต มียาเสพติดให้โทษประเภท 1เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย ผลิตและมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (น้ำต้มพืชกระท่อม)ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 5(ใบพืชกระท่อม)ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งในชั้นจับกุมนายอรรถวุฒิ หรือเฟรม นาคแก้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำบันทึกการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย รวม 7 คนอย่างละเอียด ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมือง สอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ในขณะที่ พ.ต.ต.สุเมฆ เส็นหล๊ะ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบข้อมูลที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก โดยพบว่าในปัจจุบันยาเสพติดได้แพร่ระบาดเข้าสู่สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างกว้างขวาง และมีนักศึกษาทั้งผู้ชายและหญิงตกเป็นทาสยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักศึกษาคือน้ำต้มพืชกระท่อม และโซแลม ส่วนยาบ้าและยาไอซ์ แพร่ระบาดลดน้อยลงเนื่องจากมีราคาแพง ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นคือผู้ค้าส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่แฝงตัวเป็นนักศึกษาแต่ไม่ได้มีเป้าหมายในเรื่องการศึกษาเล่าเรียนแต่มีเป้าหมายเพื่อเข้ามาทำธุรกิจในการค้ายาเสพติดในหมู่นักศึกษาเท่านั้น ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้จะเช่าห้องพักเป็นแหล่งค้าและเสพยาเสพติด
ในขณะที่การกวดขันจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ยากลำบาก เพราะไม่สามารถเข้าตรวจค้นหอพักหรือบ้านเช้าต้องสงสัยได้ เพราะไม่มีหมายค้น จึงต้องรายงานหรือรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่มีบัตร ปส.ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายสามารถเข้าตรวจค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น โดยในทางปฏิบัติอาจจะล่าช้าเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีบัตร ปส.ไม่ไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ จึงอยากให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง รวมทั้งครูอาจารย์ในสถานศึกษาแต่ละแห่งเอาใจใส่ดูแลและตรวจสอบพฤติกรรมของบุตรหลานหรือนักศึกษาอย่างเข้มงวดกวดขันให้มากยิ่งขึ้น.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
16 ม.ค. 2558