(9 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราชรายงานว่าบรรดาญาติ ๆ และบรรดาพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งฆราวาสที่เป็นศิษยานุศิษย์พ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จำนวนหลายร้อยคนได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์คลองสะเดา ต.วังใหม่ จ.ชุมพร เพื่อเคารพสังขารของพ่อท่านเอื้อม หลังจากอาพาธในขณะที่เดินทางไปเยี่ยมวัดและสำนักสงฆ์ที่ท่านเป็นพ่อจัดสร้างรวม 7 แห่งที่พ่อท่านเอื้อม เป็นผู้ก่อตั้ง รวมทั้งสำนักสงฆ์วัดคลองสะเดา ตำบลวังใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร 1 ใน 7 จนเกิดอาพาธหนักอย่างกะทันหัน ศิษยานุศิษย์ จึงนำส่ง รพ.จังหวัดชุมพร ก่อนท่านจะละสังขารอย่างสงบเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 ธ.ค. 2557 ที่โรงพยาบาลจังหวัดชุมพร ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาศิษยานุศิษย์จำนวนมาก ในเบื้องต้นได้นำสังขารของพ่อท่านเอื้อม ไปบำเพ็ญกุศลที่สำนักสงฆ์วัดคลองสะเดา ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร จังหวัดชุมพร
สำหรับพ่อท่านเอื้อม เกิด 15 กันยายน พ.ศ. 2449อายุ 108 ปี อุปสมบท ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2503 ครั้งที่ 2 วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2514 รวมพรรษา 43 พรรษา ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่ จ. นครศรีธรรมราช โดยพ่อท่าน ท่านเป็นเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมรูปหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช และภาคใต้ เป็นที่เคารพนับถือของวงการพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง โดยศิษยานุศิษย์ต่างว่าพระเครื่องและวัตถุมงคลที่พ่อท่านเอื้อม ปลูกเสก จะมีอิทธิปาฏิหาริย์ ด้สนคงกระพัน เมตตามหานิยม นับเป็นพระคณาจารย์อีกท่านหนึ่งที่มีอายุยืนยาวถึง 5 แผ่นดินแห่งราชวงศ์จักรีคือ ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว - รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน
ตามประวัติพ่อท่านเอื้อม กตปุญโญ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2449 ตรงกับปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ. บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 12 ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในก่อนที่ท่านจะเป็นพระท่านได้เคยเป็นเสือร้ายมาก่อน และเคยได้ปะทะกับท่านพลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช แต่เนื่องจากต่างคนต่างมีวิชาสายสำนักเขาอ้อเหมือนกันและเป็นเพื่อนกันมาก่อน จนกระทั้งขุนพันธ์ ฯขอร้องให้พ่อท่านเอื้อม บวชเป็นพระ ในที่สุดพ่อท่านเอื้อมกลับใจมาอุปสมบทเป็นครั้งที่ 2ในบวรพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2514 ณ พัทธสีมา วัดปากเชียร อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีพระครูถาวรบุญรัต เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมานิต มานิโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ไดรับฉายาว่า “กตปุญโญ” หลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็ได้จำพรรษาอยู่ที่วัดปากเชียร ได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากนั้นได้เดินทางจากรึกธุดงค์ไปยังป่าเขา ขึ้นเหนือประจวบคีรีขันธ์ ลงใต้สำนักเขาอ้อ และเดินทางไปสุดชายแดนมาเลเซีย
“พ่อท่านเอื้อม ได้ศึกษาพระธรรมอย่างถ่องแท้ ในระหว่างที่ท่านได้เดินผ่านภูเขา ผ่านมาตั้ง 69 ลูก และได้ปักกลดมา ณ ที่นั้น ท่านได้ใช้ความพยายามและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด บรรลุธรรมขั้นสูง และนอกจากศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว ท่านยังมีการศึกษาค้นหาไสยเวทและวิทยาคมศาสตร์ต่าง ๆ จนมีความรู้แตกฉาน ลึกซึ้งถึงทางด้านไสยเวท ไสยศาสตร์ เวทมนตร์ คาถา โดยระหว่างธุดงค์พ่อท่านเอื้อมได้สร้างวัดตามสถานที่ต่าง ๆ รวมได้ 7 วัด ได้แก่ วัดท้ายทะเล อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช วัดเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช วัดไสไท อ.เมือง จ.กระบี่ สำนักสงฆ์สะเดา อ.เมือง จ.ชุมพร สำนักสงฆ์เขาวงแหวน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สำนักสงฆ์ควรเขาดิน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี และวัดบางเนียน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราชจนกระทั่งพ่อท่านเอื้อม ได้รับการยกย่องเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของทางภาคใต้หรือ “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” โดยพ่อท่านเอื้อมได้สร้างวัตถุมงคลทางด้านแคล้วคลาด เมตตามหานิยม ป้องกันอันตรายต่าง ๆ และให้โชคลาภ คุ้มครองผู้กระทำความดี จนผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ศรัทธาในตัวของท่าน และแสวงหาวัตถุของพ่อท่านเอื้อมมาบูชากันอย่างกว้างขวาง โดยหลังจากออกพรรษาพ่อท่านเอื้อมได้เดินสายไปเยี่ยมวัดที่ท่านเป็นคนสร้าง จนถึงวัดหรือสำนักสงฆ์สะเดา อ.เมือง จ.ชุมพร ท่านเกิดอาพาธ ทางศิษยานุศิษย์ ได้นำส่ง รพ.จังหวัดชุมพร ก่อนจะละสังขารในช่วงบ่ายวันนี้ดังกล่าว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/นครศรีธรรมราช
9 ธ.ค. 2557