(14 พ.ย.)นายสุรชัย วรชาญชัย คณะกรรมการศูนย์เฝ้าระวังภัยพิบัติและช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรุงชิง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ อบต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ร่วมกับ กอ.รมน.จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดเวทีปรองดอง สมานฉันท์เจรจายุติปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่และเป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ลดความขัดแย้ง ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีร่วมใจกันของคนในพื้นที่ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 ที่ทาง โดยมี พ.อ.ชาญวิทย์ ปิ่นมณี รอง ผอ.รมน.จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2557 ประชาชนใน ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ได้ร่วมกันจัดเวทีหาเสนอแนวแนะทางแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าอุทยานแห่งชาติ ณ อบต.กรุงชิง ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้หัวข้อ “ป่ารุกคน คนรุกป่า” ทางออกเพื่อการอยู่ร่วมระหว่างคนกับป่าอย่างมีความสุขสมดุล เป็นโจทก์ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาแลกเปลี่ยนสภาพปัญหาตามแผนแม่บทของการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
โดยการจัดเวทีดังกล่าวเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยมีข้อสรุปและข้อเสนอแนะจากเวทีชาวบ้านในครั้งนี้คือ ประชาชนต้องการได้รับการรับรองสิทธิ์ในที่ดินทำกิน ซึ่งตามข้อเท็จจริงรัฐได้ออกกฎหมายทับที่ดินทำกินชองชาวบ้านทั้งใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ ทั้ง ๆ ที่ประชาชนได้อาศัยทำกินกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่านานนับ 100 ปี จนในปัจจุบันกลายเป็นปัญหาระหว่างรัฐกับชาวบ้านที่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งส่งผลกระทบความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอีกทางหนึ่ง
“ชาวบ้านในพื้นที่ได้เสนอออกกฎชุมชนและจัดตั้งคณะกรรมการในการดูแลรักษาป่าเอาไว้ โดยชุมชนเป็นกลไกหลักในการปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ซึ่งสอดรับแผนแม่บทของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อรักษาผืนป่าเอาไว้ให้ก่อประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชนอย่างยั่งยืน ซึ่งข้อสรุปดังกล่าวทาง อบต.กรุงชิงจะนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับพื้นที่ ระดับจังหวัดและรัฐบาล รวมทั้ง คสช. เพื่อให้พิจารณาดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวต่อไป” นายสุรชัย กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์/นครศรีธรรมราช
14 พ.ย. 2557