นายสมศักดิ์ ตันตระกูล กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา น้ำประปาในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีสภาพผิดปกติ ไหลบ้างไม่ไหลบ้าง สีขุ่นแดง สกปรก ตนและเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องแต่ตนและชาวบ้านสู้ทนมาตลอด โดยต้องจ่ายค่าน้ำประปาเดือนละประมาณ 60-100 บาทเศษ แต่ล่าสุดลูกสาวได้ไปจ่ายค่าน้ำประปาของบ้านเลข 4/683 ที่เทศบาล ในเดือนตุลาคม 2557 ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับการจ่ายเงิน โดยระบุว่าจะต้องจ่ายเงินค่าน้ำในส่วนที่ยังค้างอยู่ของเดือนธันวาคม 2556 ก่อน จึงจะจ่ายของเดือนตุลาคม 2557 ได้ โดยของธันวาคม 2556 ที่ค้างอยู่เรียกเก็บ 5,669.96 บาท
นอกจากบ้านของตนแล้วยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายรายถูกเรียกเก็บค่าน้ำประปาย้อนหลังเดือนธันวาคม 2556 สูงเกินจริงทั้ง ๆ ที่ตามปกติใช้อยู่เดือนละไม่ถึง 100 บาท จึงสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าค่าน้ำที่ผ่านมาไม่ได้เก็บตามที่มใช้จริงเป็นความสะเพร่าของพนักงานจดมาตรวัดน้ำ โดยไม่ได้จดบิลตามตัวเลขมาตรวัดน้ำที่แท้จริง ทำให้ค่าน้ำไม่ตรงกับการใช้จริง เมื่อเทศบาล ฯมาปรับให้ตรงตามข้อเท็จจริงของผู้ใช้น้ำประปาส่งผลให้ค่าน้ำเดือนธันวาคม 2556 พุ่งสูงขึ้นหลายสิบเท่า สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วเขตเทศบาลอย่างกว้างขวาง ซึ่งหากการร้องเรียนต่อ สคบ.และสื่อมวลชนแล้วยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือช่วยเหลือตนจะเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
นายสุทิพย์ เพชรแก้ว ผอ.สำนักการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ชี้แจงว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากที่ผ่านมาได้มีการว่าจ้างเอกชนให้เข้ามาดำเนินการเก็บค่าน้ำประปา แต่พนักงานของบริษัทเอกชน จดมาตรวัดน้ำแบบมั่ว ๆ แล้วปล่อยให้หมักหมมไว้เป็นเวลานาน จนกระทั่งสำนักการประปาเลิกจ้างเอกชน แล้วมีการปรับตัวเลขมาตรวัดน้ำใหม่ทั้งหมด จึงได้ทราบว่ามีตัวเลขยังคงค้างอยู่เป็นจำนวนมาก และมีผู้ใช้น้ำได้รับผลกระทบค่าน้ำแพงเกินจริงเป็นจำนวนมาก แต่ทางสำนักการประปาก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้น้ำผ่อนชำระมา ในส่วนที่ค้างเป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
3 พ.ย. 2557