วันนี้(14 ต.ค.57) ที่ห้องตุมปัง อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานเปิดการเสวนาและระดมความคิดเพื่อเชื่อมโยงผลงานมหาวิทยาลัยสู่ภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาจังหวัด เนื่องในสัปดาห์พันธกิจสัมพันธ์มหาวิทยาลัยกับภาคการผลิตและอุตสาหกรรม ซึ่งมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-17 ตุลาคม 2557 โดยมี ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้มุ่งเน้น 3 เรื่อง คือ สร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ สร้างความรู้และนวัตกรรม และสร้างสังคมเข้มแข็ง โดยเฉพาะสังคมเข้มแข็งหมายถึงการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ทั้งในภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร ซึ่งล้วนเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของทั้งสิ้น มหาวิทยาลัยมีนักวิจัย นักวิชาการที่พร้อมทำงานร่วมกับทุกองค์กร เพื่อนำความรู้ความสามารถ นำนวัตกรรมที่เกิดจากการวิจัยไปสู่การพัฒนาสังคมให้เข้มแข็งยิ่ง ๆ ขึ้นไป จึงได้มีการเสวนาและระดมความคิดเพื่อเชื่อมโยงผลงานมหาวิทยาลัยสู่ภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาจังหวัดขึ้น
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ได้มีการพูดคุยกันถึงบทบาททางด้านวิชาการที่นำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการด้านการผลิต อุตสาหกรรม และเป็นประโยชน์กับประชาชนจังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหากใครได้ติดตามข่าวสารมีการมอบรางวัลโนเบล ให้แก่เด็กหญิงชาวปากีสถานที่ชื่อ มาลาลา ซึ่งเธออายุเพียง 17 ปีเท่านั้น โดยมาลาลาได้ต่อสู้ที่เอาชีวิตเข้าแลกและมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการศึกษา ภายใต้สโลแกนว่า นักเรียน 1 คน ครู 1 คน หนังสือ 1 เล่ม ปากกา 1 ด้าม เปลี่ยนโลกได้ ฉะนั้นไม่ต้องอธิบายว่าการศึกษามีความสำคัญขนาดไหน นอกจากความรู้ที่มีแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนำความรู้ไปสู่ปัญญาให้ได้ หรือ Knowledge สู่ Wisdom และที่น่าห่วงใยในประเทศของเราในระยะหลัง ๆ คนมีความรู้เยอะมาก องค์ความรู้เยอะมากแต่เรามีปัญหาการนำองค์ความรู้ไปประกอบกันให้เป็นปัญญาของบ้านของเมือง ที่จะมาพัฒนาให้เป็นรูปธรรม เกิดเป็นงานหรือผลผลิตหรือ Outcome ขึ้นมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาอย่างยิ่งไม่ว่าเรื่องของการผลิต ซึ่งผลผลิตนอกจากราคาตกต่ำแล้ว เรายังมีปัญหาผลผลิตต่อไร่ สู้กับกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ฉะนั้นจึงไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้เต็มประสิทธิภาพ เช่น ปาล์ม ข้าว ยางพาราเป็นต้น ซึ่งกระทบต่อประชาชนโดยตรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะได้นำมาหาทางช่วยกันแก้ไขอย่างไร ให้ราคาของผลผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ให้เกษตรกรลืมตาอ้าปาก หรือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้มีผลผลิตอย่างไรให้สม่ำเสมอ สอดคล้องกับความต้องการของโลก โดยในปี 2558 เราจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ซึ่งจำเป็นเหลือเกินที่ต้องตั้งหลักอย่างมีศักยภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวด้วยว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ตั้งอยู่ จึงเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนา และต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดให้มีความต่อเนื่อง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การพัฒนาจะคิดเป็นลำพังไม่ได้ต้องมองในภาพรวม จังหวัดเป็นเพียงจิ๊กซอตัวหนึ่งเท่านั้น ที่จะต้องนำไปต่อกับจังหวัดอื่น ๆ
ที่มา : ส.ปชส. นครศรีธรรมราช 15/10/2557