เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 กันยายน 2557 ได้มีประชาชนจากท้องที่ หมู่ 9 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราชกว่า 100 คน นำโดยนายไชโย เพ็ชรพุฒ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.นบพิตำ และ นายสุพัฒน์ ปาฬีพิชัย ส.อบต. หมู่ 3 ต.นบพิตำ เป็นแกนนำ ได้ออกมารวมตัวคัดค้านพร้อมปิดถนนทางขึ้นเขา “บ้านเขาโพธิ์” หมู่ที่ 9 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อขัดขวางในการเข้าพื้นที่ของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขานัน สนธิกำลังกับทหารจากกองร้อย ร.15 พัน 2 ค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 กว่า 100 นาย เพื่อเข้าโค่นต้นยางและพืชผลทางการเกษตรอื่น ซึ่งเป็นของชาวบ้านที่บุกรุกเข้าไปทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขานัน จำนวน 9 แปลง โดยชาวบ้านอ้างว่าพื้นที่ที่บุกรุกนั้นเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินมาก่อนหน้าการประกาศพื้นที่อุทยาน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 9 ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อร้องขอความเป็นธรรม พร้อมทั้งได้ยื่นฟ้องศาลปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราชร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว ระหว่างที่จะมีการตรวจสอบความถูกต้องให้ชัดเจนในพื้นที่ดังกล่าว
นายไชโย เพชรพุฒ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งหนังสือแจ้งในพื้นที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าในวันที่ 29 ก.ย. 2557 เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการแผ้วถาง ตัดโค่นผลอาสินในพื้นที่ โดยทางชาวบ้านไม่สามารถหาหลักฐานใด ๆ มายืนยันได้ทันเนื่องจากติดวันเสาร์-อาทิตย์ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบหาหลักฐานมาแสดงยืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้ทัน ซึ่งชาวบ้านคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งกัน จึงรวมตัวปิดถนนเรียกร้องขอความเป็นธรรมราช เราไม่ได้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่แต่เราต้องการชะลอการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้ช้าดำเนินการล่าช้าออกไปเท่านั้น ในขณะเดียวกันชาวบ้านก็เร่งตรวจสอบและรวบรวมเอกสาร หากว่าการตรวจสอบมีหลักฐานว่าชาวบ้านเป็นฝ่ายบุกรุกก็พร้อมที่จะออกจากพื้นที่ แต่หากเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายผิดก็ต้องรับผิดชอบกับการกระทำที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานขณะทำการปิดถนนเรียกร้องขอความเป็นธรรมได้เกิดพายุฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวบ้านก็ไม่ท้อถอยยังคงปิดถนนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ได้ ในขณะที่นายพัลลพ สิงห์ทอง นายอำเภอบางขัน นายวิวัฒน์ ขุนฤทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขานัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาเจรจากับชาวบ้านแต่ไม่เป็นผลและมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะบานปลายรุนแรงมากขึ้น ทางนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้ พ.จ.อ. ศุภโชค พราหมณ์พูน หัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนครศรีธรรมราช พร้อมคณะเดินทางไปควบคุมสถานการณ์และร่วมเจรจา
โดยการเจรจาได้ข้อสรุปว่าเจ้าหน้าที่จะยังไม่ตัดโค่นทายผลอาสินและยึดพื้นที่เป้าหมายทั้ง 9 แปลงคืน แต่จะเข้าไปตรวจสอบรังวัดแนวเขตพื้นที่ดังกล่าวด้วยระบบ GPS และนำมาประมวลสรุปความชัดเจนอีกครั้ง ทำให้กลุ่มชาวบ้านยินยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพื้นที่โดยมีตัวแทนชาวบ้านเดินทางไปร่วมตรวจสอบรังวัดด้วย สำหรับพื้นที่ทั้ง 9 แปลงมีเนื้อที่แปแลงละประมาณ 30 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สวนยางพาราของชาวบ้าน ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
29 ก.ย. 2557