จากกรณีที่นายวรรณชัย บุญชูช่วย อายุ 30 ปี อายุ 30 ปี นางมลฤดี ชัยรักษา อายุ 32 ปี ภรรยา อายุ 32 ปี ภรรยา พา ด.ช.อธิชาติ บุญชูช่วย (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนวัดทุ่งแย้ ใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ ร.ต.วัฒนา ไกรนุกูล ผอ.สพป. นครศรีธรรมราช เขต 1 กรณี ด.ช.อธิชาติ ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนทำโทษด้วยการใช้ท่อพีวีซีหวดน่องซ้ายอย่างแรง 2 ครั้งซ้อน จนเป็นรอยเขียวซ้ำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2557 นี้ว่าประชาชนที่ทราบข่าวต่างจับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งโพสต์นำข้อความทางเฟซบุ๊คของ “โก่โบ๊ท 'คนคั่นเวลา”ผอ หน้าเนื้อใจเสือ ตีเด็กกับท่อน้ำ พีวีซี นี่หรือการทำโทษของคนระดับ ผอ...ทั้งนี้การวิพากวิจารณ์มีทั้งในส่วนเห็นว่า ผอ.โรงเรียนกระทำเกินกว่าเหตุกับนักเรียนซึ่งเป็นเด็กเล็กวัย 8 ขวบเรียนชั้น ป.2 เท่านั้น นอกจากนี้ยังระบุว่าที่ผ่านมา ผอ.มักจะมีปัญหากับพ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นประจำ และ ผอ.มักจะถือเอาความคิดความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ไม่ค่อยฟังเหตุผลของคนอื่น อย่างไรก็ตามยังมีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่มองว่าพ่อแม่ของ ด.ช.อธิชาติ ไม่น่าจะเอาเรื่อง ผอ.ถึงขั้นร้องเรียน ขอความเป็นธรรมกับ ร.ต.วัฒนา ไกรนุกูล ผอ.สพป. นครศรีธรรมราช เขต 1 เพราะแม้จะเป็นโรงเรียนในชนบท แต่การบริหารของ ผอ.ท่านนี้มีประสิทธิภาพ โดยมีผลงานทางด้านวิชาการในระดับแนวหน้าของ สพป. นครศรีธรรมราช เขต 1 โดยเฉพาะการแข่งขันวิชาการในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานักเรียนคว้าเหรียญทองเป็นอันดับ 2 ของ สพป.นครศรีธรรมราช เขต 1 และเป็นตัวแทนจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าร่วมการแข่งขันวิชาการระดับภาคใต้ถึง 17 รายการ สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนเป็นอย่างมาก
ในขณะที่นางมลฤดี ชัยรักษา อายุ 32 ปี มารดาของ ด.ช.อธิชาติ นักเรียนที่โดนตีด้วยท่อพีวีซี. กล่าวว่า ลูกใครใครก็รัก ไม่ใช่วัวใช่ควายที่ทุบตีรุนแรงเช่นนี้ สำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครองของเพื่อนของ ด.ช.อธิชาติ อีก 3 คนที่โดนตีด้วยท่อพีวีซีเช่นเดียวกันทราบว่ามีรอยเขียวช้ำเหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไรแต่พ่อแม่เด็กเหล่านั้นอาจจะไม่ทราบเรื่องก็ได้ เพราะเด็กที่ถูกตีทุกคนไม่กล้าฟ้องพ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กโดนคุณครูผู้สอนข่มขู่ต่าง ๆ นา ๆ จน ด.ช.อธิชาติ หวาดกลัวไม่กล้าพูดให้ร้าย ผอ.และไม่อยากไปโรงเรียนอีกด้วย
“ตนสงสัยว่า ผอ.และครูอาจจะไม่พอใจตนในเนื่องเก่าที่ทางรัฐบาลจ่ายเงินค่าชุดนักเรียน ค่าวัสดุอุปกรณ์การเรียนให้ผู้ปกครอง โดยหักเอาไว้คนละ 195 บาทอ้างว่าเป็นค่าอุปกรณ์ที่โรงเรียนจะไปซื้อให้เด็ก ในความเป็นจริงโรงเรียนไม่มีสิทธิ์หักเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเอาไว้ โดยตนสอบถามไปทุกโรงเรียนไม่มีโรงเรียนไหนเลยที่หักเงินไว้คนละ 195 บาท และอุปกรณ์ที่ซื้อก็ไม่ครบถ้วนและมีมูลค่าน้อยกว่าเงินที่หักไว้คนละ 195 บาท ตนจึงโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว จนสร้างความไม่พอใจให้กับ ผอ.และครูในโรงเรียนเป็นอย่างมาก”
นางมลฤดี ชัยรักษา อายุ 32 ปี กล่าวอีกว่า รุ่งเช้า ผอ.และครูได้นำ ด.ช.อธิชาติ บุตรชายออกไปยืนประจานหน้าเสาธง ทั้ง ๆที่ไม่ใช่ความผิดของ ด.ช.อธิชาติ เด็กไม่รู้เรื่องเขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร หลังจากนั้น ผอ.ได้ให้ครูไปถึงที่บ้านของตนขอร้องให้ตนลบข้อความที่โพสต์ในเฟซบุ๊คออก เพราะทำให้โรงเรียน และ ผอ.เสื่อมเสียชื่อเสียง และให้โพสต์ข้อความใหม่ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิดของตนและตนได้การชี้แจงจนเข้าใจแล้ว ตนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดจึงยอมลบออกและโพสต์ข้อความใหม่ให้ตามความต้องการ หลังจากนั้นตนสังเกตพบว่า ด.ช.อธิชาติ บุตรชายจะมีปัญหากับทาง ผอ.และครูในโรงเรียนบ่อย ๆ อะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลย จนกระทั้งมาเกิดเรื่อง ผอ.ใช้ท่อพีวีซี.ทุบตี ด.ช.อธิชาติ ตนสงสัยว่า ผอ.และครูผูกใจเจ็บและเคียดแค้นตนในเรื่องเก่าแล้วมาระบายกับ ด.ช.อธิชาติ บุตรชายของตนหรือเป่า หากเป็นอย่างนี้ตนจะไว้วางใจให้ ด.ช.อธิชาติ มาอยู่กับ ผอ.และครูในโรงเรียนนี้ได้อย่างไร” นางหนึ่งกล่าว
ผู้สื่อข่าวหลายสังกัดได้ร่วมกันติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้โดยผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ช่อง 3 ได้โทรศัพท์เข้าไปที่เบอร์โรงเรียนหมายเลข 0887542909 แต่ไม่มีผู้รับสาย จึงโทรศัพท์ไปสอบถามนายวิเชียร พรหมรัตน์พรรณ์ รอง ผอ.โรงเรียนแต่ทันทีที่นายวิเชียร รับสายและรู้ว่าเป็นผู้สื่อข่าวโทรมา จึงแสดงอาการโกรธแค้น เปิดฉากด่าบุพการีนักข่าวอย่างรุนแรง พร้อมระบุว่า เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับนักข่าว พวกนักข่าวมาเสือกอะไรด้วย ก่อนจะตัดสายไปในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
6 ก.ย. 257