เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 14 ส.ค. 2557 ที่ห้องประชุมสภา อบจ.นครสรีธรรมราช วันนี้ ได้มีการเปิดประชุมสภา สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 โดยมี นายมนตรี รักษ์ศรีทอง ทำหน้าที่ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช นายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมผู้บริหารทั้งรองนายก ฯ เลขานุการสภา คณะที่ปรึกษา หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกสภา อบจ.นครศรีธรรมราช เข้าร่วมการประชุม 37 คนจาก 42 คน ซึ่งถือว่าครบองค์ประชุม
การประชุมครั้งนี้ได้มีการรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา รวม 7 ครั้ง ส่วนเรื่องที่เสนอใหม่ ประกอบด้วย ญัตติต่าง ๆ 9 ญัตติ ซึ่งญัตติแรกที่นำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมได้แก่ร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 อบจ.นครศรีธรรมราช ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2541 ข้อ 23 และ 24 จึงได้กำหนดดำเนินการประกอบด้วย การประมาณการรายได้ จากการจัดเก็บเอง ได้แก่ หมวดภาษีอากร 125 ล้านบาท หมวดค่าธรรมเนียม ค่าปรับและใบอนุญาต 15.2 ล้านบาท รายได้จากทรัพย์สิน 35.3 ล้านบาท หมวดรายได้จากสาธารณูปโภคและการพาณิชย์ 3 แสนบาท หมวดรายได้เบ็ดเตล็ด 4.7 ล้านบาท หมดรายได้จากทุน 1 แสนบาท รายได้ที่รัฐบาลเก็บแล้วจัดสรรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย หมดภาษีจัดสรร 740 ล้านบาท และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุให้องค์กร 250 ล้านบาท รวม 1,170.6 ล้านบาท และมีการจัดทำงบประมาณรายจ่ายแบบสมดุล โดยแยกเป็นแผนงานด้านบริหารทั่งไป 374.755 ล้านบาท ด้านบริการชุมชนและสังคม 309.21 ล้านบาท ด้านเศรษฐกิจ 326.348 ล้านบาท ด้านการดำเนินงานอื่น ๆ 160.287 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,170 ล้านบาทเศษ
หลังจากนายมาโนช เสนพงศ์ เสนอรายละเอียดของแผนงาน/โครงการในภาพรวมของร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 mk'สมาชิกสภา อบจ.นครศรีธรรมราช หลายคนได้แสดงความคิดเห็นในขั้นตอนของการพิจารณารับหลักการ โดยมีความเห็นว่าการกำหนดแผนงาน โครงการที่จะดำเนินการไม่ตอบสนองตามนโยบายของนายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.ที่แถลงต่อสภา ไม่ครอบคลุมทุกด้านและทุกพื้นที่ มีการเพิ่มงบกลางจากเดิมแค่ 70 ล้าน เป็นเกือบ 170 ล้าน มีการตัดและโยกงบประมาณที่จำเป็นเร่งด่วนไปใช้ในโครงการไม่เร่งด่วน มีการจัดตั้งงบประมาณดำเนินการในหลายโครงการสูงสูงเกินความเป็นจริง เช่นการจัดซื้อรถสุขาคันละ 16 ล้านบาท ทั้งที่ผู้บริหารชุดเก่าซื้อเคยซื้อในราคาแค่คันละ 6 ล้านบาทเท่านั้น มีการจัดงบประมาณดำเนินโครงการซ้อนกับท้องถิ่นดำเนินการอยู่แล้ว เช่น การติดตั้งกล่องซีซีทีวีในเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เทศบาล ฯดำเนินการอยู่แล้ว และโครงการอื่น ๆ อีกจำนวนมากที่หมกเม็ด มีเงื่อนงำ เปิดช่องให้มีการทุจริตคอรัปชั่นได้อย่างง่ายดาย หากสมาชิกสภา ฯรับร่าง ฯจะทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเมืองอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
สมาชิกหลายคนจึงเสนอให้นายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ถอนร่าง ฯออกไปก่อน แต่นายมาโนช ไม่ยินยอมถอนร่าง ฯ จนในที่สุดต้องให้สภา ฯพิจารณาร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณประจำปี 2558 ไปตามร่างเดิมที่ฝ่ายบริหารเสนอ โดยมีสมาชิกร่วมอยู่ในห้องประชุมสภา ฯจำนวน 37 คนรวมทั้งประธานสภา ฯจากสมาชิกทั้งหมด 42 คน จึงมีผู้ไม่เข้าร่วมประจำ 5 คน และผลการโหวตเสียงในสภา ฯมีผู้เห็นด้วยกับร่าง ฯที่ฝ่ายบริหารเสนอเพียง 8 เสียง ไม่เห็นด้วย 26 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง ส่งผลให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ของ อบจ.นครศรีธรรมราชต้องตกไปโดยปริยาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่สภา อบจ.โหวตไม่รับร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 บรรดาผู้สังเหตุการณ์ได้ถ่ายภาพพร้อมรายงานผลสรุปผ่านทางโลกโซเชียล ทั้งทางไลน์ เฟซบุ๊ค รวมทั้งทางโทรศัพท์และอื่น ๆ โดยมีประชาชนที่สนใจติดตามการประชุมสภา อบจ.เข้าไปแสดงความคิดเห็นในลักษณะดีอกดีใจและยกย่อง สดุดีวีรกรรมของสภา อบจ.นครศรีธรรมราชอย่างกว้างขวาง ในขณะที่ ส.อบจ.จำนวน 26 คน ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามประชาชนในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวางเช่นกัน ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าการจัดทำร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ของ อบจ.นครศรีธรรมราชในครั้งนี้เป็นร่างงบประมาณที่ไม่เป็นไปตามนโยบายของทีมบริหารที่แถลงต่อสภา โดยมีความไม่ชอบมาพากลสื่อไปในทางไม่โปร่งใส เปิดช่องทางให้มีการทุจริตกันได้อย่างชัดเจน ซึ่งไม่เคยมีปรากฏร่างงบประมาณ ฯในลักษณะนี้มาก่อนในสภา ฯท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราช
"ส.อบต.ทั้งหมดจึงรวมตัวกันพร้อมประกาศจะยึดมั่นในผลประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนเป็นหลัก ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกันคว่ำล้มร่างงบประมาณ ฯในวันนี้ แม้ว่าทางทีมผู้บริหารจะพยายามวิ่งเต้นเคลียร์ ส.อบจ.ให้ยกมือโหวตผ่านร่างฯ 25 คนก็พอแล้ว โดยเสนอผลประโยชน์ให้คนละ 200,000 บาท แต่หากเปรียบเทียบกับความเสียหายที่จะเกิดกับบ้านเมืองในอนาคตมันเทียบกันไม่ได้ ทั้ง 27 คนร่วมทั้งประธานสภา ฯจึงประกาศไม่ยอมรับผลประโยชน์ตามข้อเสนอของทีมบริหาร หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการ 2 ฝ่าย ๆ ละ 7 คน รวมทั้งฝ่ายผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 1 คนเป็น 15 คน เพื่อร่วมกันยกร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 และนำเข้าสู่สภา ฯเพื่อพิจารณาอีกครั้ง หากพบว่าร่าง ฯใหม่ยังไม่ตอบสนองประโยชน์ของส่วนรวมและประชาชนอย่างแท้จริง ทาง ส.อบต.ทั้ง 27 คนพร้อมจะโหวตไม่รับร่าง ฯอีกครั้ง"
ทางด้านนายวิชาญ ถนิมลักษณ์ หัวหน้าฝ่ายนิติการและพาณิชย์ อบจ.นครศรีธรรมราช ได้ชี้แจงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแนวทางการปฏิบัติหลังจากนี้ไปว่า กรณีดังกล่าวต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ภายใน 3 วัน ประกอบด้วยผู้ที่สภาเสนอ 7 คน ฝ่ายบริหารเสนอ 7 คน ประธาน 1 คน ซึ่งหากไม่สามารถหาได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช จะเป็นผู้พิจารณากำหนด เมื่อได้คณะกรรมการแล้วภายใน 15 วัน ให้คณะกรรมการร่วมพิจารณาร่างงบประมาณดังกล่าวใหม่ แล้วส่งผลสรุปมายังผู้ว่าราชการจังหวัด
"หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดจะส่งเรื่องมายัง นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา ฯภายใน 7 วัน หาก นายก อบจ.ไม่นำเข้าสู่ที่ประชุมตามเวลาที่กำหนด ผู้ว่าราชการจังหวัดจะเสนอเรื่องไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ออกคำสั่งให้นายก อบจ.พ้นจากตำแหน่ง แต่หากนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภา ฯภายในระยะเวลาที่กำหนดและประชุมสภา ฯยังไม่เห็นชอบ ไม่รับร่าง ฯ ผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องเสนอเรื่องไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้มีคำสี่งยุบสภา จากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามประกาศของ คสช.ฉบับที่ 85 โดยจะมีการสรรหาผู้มีความรู้ ความสามารถ รวมจำนวน 21 คน เข้ามาทำหน้าที่ สมาชิกสภาท้องถิ่น โดย ปลัด อบจ. จะปฏิบัติหน้าที่แทนนายก อบจ.ต่อไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในขณะเดียวกันได้มีการประชุมสภาเทศบาลนคร นคศรีธรรมราช สมัยสามัญสมัยที่ 3 ครั้งที่ 2 ปี 2557 เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 และญัตติด่วนในการอนุมัติเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาน้ำประปาขาดแคลน จำนวน 27 ล้านบาท ซึ่งในการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติเดียวกันนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกสภาเทศบาล ฯ ได้ร่วมตัวกัน 13 คนจาก 24 คนยื่นใบลาไม่เข่าร่วมประชุมพิจารณาทำให้สภาล่มไปโดยปริยาย ในครั้งนี้สมาชิกเข้าร่วมประชุม 23 คนจาก 24 คน (ลา 1 คน)
โดยสมาชิกได้อภิปรายและได้เสนอขอให้นายเชาวน์วัศ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช ถอนญัตติขออนุมัติงบ 27 ล้านออกไป เนื่องจากเป็นโครงการที่ไม่โปร่งใส และซ้ำซ้อนกับโครงการที่ทีมบริหารชุดเดิมทำไว้แล้ว หากให้สมาชิกสภา ฯโหวตสมาชิกจำนวน 16 คนจะโหวตคัดค้านไม่ผ่านงบโครงการนี้อย่างแน่นอน
ในที่สุดในช่วงบ่ายนายเชาวน์วัศ ได้ตัดสินใจถอนญัตติออกจากสภา ฯ โครงการดังกล่าวจึงตกไปเป็นครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตามการพิจารณาพ พ.ร.บ.ร่างงบประมาณรายจ่าย จำนวน 842.56 ล้านบาท ที่ประจำเห็นชอบรับหลักการในวาระที่ 1 จำนวน 21 เสียง งดออกเสียง 2 (ลา1)
ซึ่งจากปัญหาของทั้งสภาเทศบาลนคร นครศรีธรรมราช และสภา อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสภาพี่สภาน้อง ในครั้งนี้ท่ามกลางเสียงวิพากวิจารณ์ของข้าราชการและประชาชนทุกสาขาอาชีพอย่างกว้างขวาง แม้ในส่วนสภาเทศบาล ฯจะผ่านวาระแรกงบประมาณณายจ่ายประจำปี 2558 ก็ตาม ทั้งนี้ 2 ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นทั้งนายเชาวน์ เสนพงศ์ เป็นพี่ชายนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเชาวน์วัศ เป็นพี่ชายของนายเทพไท เสนพงศ์ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่นายมาโนช เป็นน้องชายของนายเทพไท เสนพงศ์ ซึ่งนายเทพไท อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในการผลักดันให้พี่ชายก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราชและน้องชายก้าวสู่ตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
14 ส.ค. 2557