เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 30 ก.ค.2557 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส.ได้เดินทางมายังกองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พล.ต.ศรีศักดิ์ เลิศล้ำ เสนาธิการ ทภ.4 พล.ต.ต.เทศา ศิริวาโท รักษาการแทนในตำแหย่ง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ เพื่อร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ
โดยหลังจากคณะของ พล.ต.อ.พงศพัศ ทำการสักการบูชาอนุสาวรีย์ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษราชเดช และองค์ จตุคาม-รามเทพเสร็จแล้ว ได้ขึ้นไปยังห้องประชุมชั้น 2 บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายวิชัย หรือตุ้ย รัตนอุบล อายุ 62 ปี เจ้าของฉายา “ลุงต้ย สถานีรถไฟ” อยู่บ้านเลขที่ 1537/69 ชุมชนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด และเป็นขายยาบ้าให้กับ นายวันชัย หรือ "ไอ้เกม" แสงขาว อายุ 22 ปี พนักงานรถไฟขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ เมื่อเที่ยงวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่าน จนนายวันชัย ไปก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าข่มขืน "น้องแก้ม" บนตู้นอนชั้น 2 ขบวนรถไฟนครศรีธรรมราช-กรุงเทพ จนกลายเป็นข่าวครึกโครม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายวิชัย หรือ “ลุงตุ้ย”ได้ขณะที่หลบหนีไปทำงานรับจ้างทาสีอยู่ใน จ.กระบี่และซ่อนตัวในบ้านเลขที่ 1/17 ถนนร่วมจิตร ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยนายวิชัย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ กล่าวว่า หลังจากขายยาบ้าให้นางจินดา พันธรักษ์ “เจ้ดา”อายุ 56 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวในชุมชนสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ก่อนที่เจ้ดา จำนำยาบ้าไปขายต่อให้นายวัยชัย แสงขาว หรือ “เกม” ก่อนไปก่อฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” จนตกเป็นข่าวกว้างขวาง และศาลอนุมัติหมายจับนายวิชัย หรือตุ้ย รัตนอุบล ในขณะที่นายวิชัย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวตามบ้านญาติในพื้นที่ต่าง ๆ อาทิ อ.ชะอวด อ.ทุ่งสง และหลบหนีข้ามจังหวัดไปใน จ.กระบี่ จึงประสานกับ พล.ต.ต.นันทเดช ย้อนนวล ผบก.ภ.จว.กระบี่ ร่วมสืบสวนหาแหล่งซ่อนตัวของนายวิชัย จนทราบว่าไปรับจ้างทาสีและทราบแหล่งกบดานแน่ชัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับจับกุมได้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2557 ในเบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหา มียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายวิชัย ผู้ต้องหารายนี้มีประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหาค้ายาเสพติดเมื่อปี 2554 ต้องโทษจำคุก 2 ปี และกลับมาค้ายาเสพติดอีก และทำเป็นอาชีพนับเป็นผู้ที่ไม่สำนึกไม่หลาบจำ กระทำความผิดซ้ำซาก
“อย่างไรก็ตามนายวิชัย หรือ “ลุงตุ้ย” ให้ที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนติดตามจับกุมขบวนค้ายายาเสพติดในชุมชนเขตเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชเป็นอย่างมาก โดยนายวิชัย หรือ”ลุงตุ้ย”รับสารภาพว่าค้ายาเสพติดจริงและทำมานานแล้ว โดยซัดทอดว่าซื้อยาบ้ามาจากนายสมพงศ์ เชาว์ณะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1535/53 ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านายสมพงศ์ มีพฤติกรรมเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดในอยู่ในย่านชุมชนสถานีรถไฟและใกล้เคียง รวมทั้งในย่านตลาดหัวอิฐ เดินทางขึ้นล่องระหว่างนครศรีธรรมราชกับกรุงเทพอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะขึ้นไปรับยาเสพติดลงมาจำหน่ายในพื้นที่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช นอกจากนี้นายสมพงศ์ เคยถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวใน สน.บางซื่อ กรุงเทพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมนายสมพงศ์ มาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
ทางด้านนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในขณะนี้ได้สั่งการให้ชุด ฉก.ศรีวิชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงพื้นที่ชุมชนสถานีรถไฟอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันและสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสติดในชุมชนสถานีรถไฟ โดยมีเป้าหมายในการทำให้ชุมชนสถานีรถไฟเป็น “ชุมชนสีขาว ปลอดยาเสพติด”ได้ในเร็ว ๆ นี้อย่งแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากนายวิชัย หรือลุงตุ้ย แล้วในชุมชนสถานีรถไฟมีผู้ค้ารายย่อยอีก 4 ราย ในขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปหมดแล้ว ส่วนนายสมพงศ์ เชาว์ณะ เป็นเอเยนต์รายใหญ่ที่ใช้วิธีการขนยาเสพติดโดยการซุกซ่อนมากับรถบรรทุกผักจากกรุงเทพหรือจังหวัดอื่นมายังตลาดหัวอิฐ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะนำออกมาแจกจ่ายให้เอเยนต์รายย่อยไปจำหน่ายตามชุมชนต่าง ๆ ต่อไป.
ไพฑูรย์ อินทศิลา /กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ /นครศรีธรรมราช
30 ก.ค. 2557